นับเป็นรถรุ่นที่ 8 และเป็นทายาทสายตรงของรถ 7 รุ่นก่อนหน้านี้ ที่เริ่มจำหน่ายเมื่อปี 1972, 1981, 1988, 1995, 2003, 2009 และ 2017 ตัวถัง 4 ประตูซีดาน 5 ที่นั่ง ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.23 มีขนาดโตกว่ารถรุ่นปัจจุบันในทุกมิติ คือ ยาวขึ้น 97 มม. เป็น 5.060 ม.กว้างขึ้น 32 มม. เป็น 1.900 ม. และสูงขึ้น 36 มม. เป็น 1.515 ม. ส่วนช่วงฐานล้อก็ยาวขึ้น 20 มม.เป็น 2.995 ม. เป็นตัวถังใบหน้า “ไตคู่” ที่ออกแบบใหม่หมดตั้งแต่พื้นรถจรดหลังคา โดยใช้พแลทฟอร์มที่ค่ายนี้ออกแบบขึ้นใหม่ และตั้งชื่อว่า CLUSTER ARCHITECTURE (CLAR) PLATFORM เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ใช้ได้ทั้งกับรถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในที่วางเครื่องตามยาว และรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ
ภายในห้องโดยสารซึ่งกว้างขวาง และนั่งยืดขายืดแข้งได้สบายกว่ารถรุ่นก่อนๆ มีลักษณะการออกแบบที่ได้รับอิทธิพล และสไตล์เดียวกันกับรถ BMW 7-SERIES และ BMW I7 รุ่นปัจจุบันซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปลายปี 2022 แผงหน้าปัดอุปกรณ์ข้อมูลใช้จอขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนแผงอุปกรณ์สื่อสารบันเทิงใช้จอขนาด 14.9 นิ้ว พวงมาลัยที่ออกแบบใหม่หมด มีให้เลือกทั้งแบบ 2 แฉก และ 3 แฉก ขึ้นอยู่กับระดับการตกแต่ง ที่น่าสนใจมากก็คือ เป็นครั้งแรกของรถติดตรา “ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว” ที่แม้กระทั่งในรถรุ่นพื้นฐาน ก็ยังมีการติดตั้ง VEGAN INTERIOR หรืออุปกรณ์ภายในห้องโดยสารที่ออกแบบเพื่อเอาใจคนไม่กินสิ่งที่มาจากสัตว์ไว้ด้วย
ในระยะแรกจะมีแต่รถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในซึ่งทำงานร่วมกันกับระบบ 48 VOLT MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน 48 โวลท์ กับรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ เท่านั้น
แบบแรกซึ่งค่าตัวรวมภาษีในเยอรมนีเริ่มต้นที่ 57,550 ยูโร (ประมาณ 2.2 ล้านบาทไทย) จะมีรถให้เลือกรวม 5 โมเดล คือ BMW 520I (เบนซิน 153 กิโลวัตต์/208 แรงม้า ขับล้อหลัง) BMW 530I (เบนซิน 190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า ขับล้อหลัง) BMW 530I XDRIVE (190 กิโลวัตต์/258 แรงม้า ขับทุกล้อ) BMW 520D (ดีเซล 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า ขับล้อหลัง) และ BMW 520D XDRIVE (145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า ขับทุกล้อ) ทุกโมเดลส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC SPORTS (สเตพทรอนิค สปอร์ทส์) ที่เพิ่งออกแบบขึ้นใหม่
ส่วนแบบหลังซึ่งค่าตัวเริ่มต้นที่ 70,200 ยูโร (ประมาณ 2.7 ล้านบาทไทย) มี 2 โมเดล คือ BMW I5 EDRIVE40 (มอเตอร์ไฟฟ้า 230 กิโลวัตต์/313 แรงม้า แบทเตอรี LITHIUM-ION 81.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับล้อหลัง ความเร็วสูงสุด 193 กม./ชม.ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกล 497-582 กม./WLTP) กับ BMW I5 M60 XDRIVE (มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด 380 กิโลวัตต์/517 แรงม้า แบทเตอรี LITHIUM-ION 81.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ขับทุกล้อ ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม. ชาร์จไฟเต็มวิ่งได้ไกล 455-516 กม./WLTP)
ที่จะตามมาในฤดูใบไม้ผลิปี 2024 พร้อมกันกับรถตรวจการณ์ มี 3 โมเดล เป็นรถเบนซิน 1 โมเดล คือ BMW 540I XDRIVE (280 กิโลวัตต์/381 แรงม้า ขับทุกล้อ) และเป็นรถ PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮบริด) หรือไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จแบทเตอรี 2 โมเดล คือ BMW 530E (เบนซิน+มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมสูงสุด 220 กิโลวัตต์/299 แรงม้า ขับล้อหลัง) กับ BMW 550E XDRIVE (เบนซิน+มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวมสูงสุด 360 กิโลวัตต์/489 แรงม้า)
เป็นรถที่มีล้ออัลลอยให้เลือกใช้หลายขนาด คือ ตั้งแต่ 18 นิ้ว 19 นิ้ว ไปจนถึง 21 นิ้ว รวมทั้งมี AERODYNAMIC WHEEL (แอโรไดนามิค วีล) ซึ่งเป็นล้อลดน้ำหนัก และลดแรงต้านอากาศด้วย
BMW 5-SERIES/ E12 (1972-1981)
BMW 5-SERIES/ E28 (1981-1988)
BMW 5-SERIES/ E34 (1988-1996)
BMW 5-SERIES/ E39 (1995-2004)
BMW 5-SERIES/ E60 (2003-2010)
BMW 5-SERIES/ F10 (2010-2017)
BMW 5-SERIES/ G30 (2017-2023)

