เป็นการเปิดตัวในวาระที่ค่ายนี้มีอายุครบรอบ 110 ปี และรถตระกูล DB มีอายุครบรอบ 75 ปีพอดิบพอดี (DB ย่อมาจากชื่อ SIR DAVID BROWN) ซึ่งช่วงหนึ่งในอดีตเป็นเจ้าของกิจการ) เป็นรถที่มิได้ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่มีพื้นฐานมาจากรถรุ่นก่อน คือ ASTON MARTIN DB11 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 11) ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2016 และขณะนี้เพิ่งถูกปลดจากสายการผลิตไป อย่างไรก็ตาม สามารถกล่าวได้ว่า นี่คือ รถรุ่นใหม่แท้ๆ ไม่ใช่การนำรถรุ่นเดิมมาปรับปรุงในลักษณะ MID-LIFE FACELIFT หรือ “ยกหน้าช่วงกึ่งกลางชีวิต” เพราะส่วนสำคัญๆ คือ ทั้งตัวถัง แชลซีส์ ระบบขับ และรายละเอียดภายในห้องโดยสาร ล้วนทำขึ้นใหม่ หรือมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างมากทั้งนั้น
ในระยะแรกจะมีตัวถังเพียงแบบเดียว คือ ตัวถัง 2 ประตูคูเป 2+2 ที่นั่ง ยาว 4.725 ม. กว้าง 2.145 ม. (รวมกระจกมองข้าง) กว้าง 2.060 ม. (รวมกระจกมองข้างขณะพับ) สูง 1.295 ม. และมีช่วงฐานล้อยาว 2.805 ม. ส่วนตัวถัง 2 ประตูเปิดประทุน ซึ่งติดตั้งประทุนหลังคาแบบอ่อนเปิด/ปิดโดยการกดปุ่ม จะตามมาในภายหลัง ตัวถังคูเปที่กล่าวนี้มีโครงสร้างทำจากอลูมิเนียมขึ้นรูป และส่วนเปลือกทำจากวัสดุผสมซึ่งสามารถรับแรงสูง มีค่า TORSIONAL STIFFNESS หรือความแข็งเกร่งต่อแรงบิดสูงกว่ารถรุ่นเดิมร้อยละ 7 และมีน้ำหนักรถเปล่า 1,685 กก.
เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ผลิตด้วยมือของค่าย MERCEDES-AMG (เมร์เซเดส-เอเอมจี) เป็นเครื่องทวินเทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 8 สูบ 3,982 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุด 500 กิโลวัตต์/680 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร/81.6 กก.-ม. ที่ 2,750-6,000 รตน. ส่วนอุปกรณ์ส่งกำลังเป็นระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 3.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม. ค่าตัวที่ซื้อขายกันในเมืองผู้ดี คาดว่าจะเริ่มต้นที่ 185,000 ปอนด์ หรือประมาณ 8.0 ล้านบาทไทย 
