ชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด 

อินช์เคป (ประเทศไทย)ฯ เข้ามา ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย 7 ปี เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้แทนจำหน่าย รถยนต์ JAGUAR (แจกวาร์) และ LAND ROVER (แลนด์ โรเวอร์) ล่าสุดคว้าบแรนด์ TATA (ทาทา) เปิดตลาดอีกครั้ง “ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ “ชาญชัย มหันตคุณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด 

ฟอร์มูลา : คุณวางทิศทางของ TATA ไว้อย่างไร ?

ชาญชัย : ก่อนตัดสินใจทำธุรกิจ TATA ในประเทศไทย เราใช้เวลาศึกษา และตัดสินใจปีกว่า จนได้ข้อสรุป เพราะการทำตลาดใหม่ครั้งนี้ ต้องการที่สร้างความแตกต่างจากเดิม โดยมองจากอดีตที่ผ่านมาว่า มีบทเรียนอะไรที่เราต้องพัฒนาให้ดีขึ้น เพราะ TATA นับว่าเป็นบแรนด์ที่ยิ่งใหญ่มากๆ มีสินค้าหลากหลายทุกเซกเมนท์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่ง พิคอัพ รถการพาณิชย์ รถแวน รถบัส ซึ่งในอดีต TATA จะเน้นที่ตลาดรถพิคอัพ แต่ปัจจุบัน อินช์เคป (ประเทศไทย)ฯ มองว่าเซกเมนท์ที่น่าทำตลาดจะต้องสามารถมองเห็นถึงการเติบโต สร้างการรับรู้ของบแรนด์ และส่งเสริมทุกรูปแบบของการขนส่ง จึงทำตลาดรถบรรทุกขนาด 1 ตัน-50 ตัน ตามความต้องการของภาคธุรกิจทุกการใช้งานของภาคขนส่ง 

ฟอร์มูลา : รถที่นำมาเปิดตัวครั้งแรกมีรุ่นอะไรบ้าง ?

ชาญชัย : หลังจากได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้แทนจำหน่ายรถ TATA บริษัทเปิดตัวรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ 4 รุ่น ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจ ตั้งแต่การขนส่งระยะสั้นไปจนถึงระยะไกล มีทั้งรถบรรทุกขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ที่ทันสมัย ได้แก่ TATA SUPER ACE (ทาทา ซูเพอร์ เอศ) สามารถบรรทุกสินค้าได้สูงสุดถึง 1 ตัน ตอบโจทย์ทุกการบรรทุกด้วยพื้นที่กระบะขนาดใหญ่ที่ยาวถึง 2,630 มม. พื้นเรียบเปิดได้ทั้ง 3 ด้าน สมรรถนะสูงสามารถขึ้นทางลาดชันได้ถึง 38 % ขับขี่ผ่านภูมิประเทศต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ คล่องตัว ด้วยวงเลี้ยวที่แคบเพียง 5.1 ม. ผ่านเส้นทาง และสภาพการจราจรที่ยากลำบากได้ง่าย 

รุ่นนี้ บริษัทฯ ต้องการให้ลูกค้าเห็นถึงการใช้งาน และเพื่อเป็นทางเลือกในการดัดแปลง จึงได้ผลิตออกมาหลายแบบ เพื่อตอบโจทย์ที่หลากหลาย ได้แก่ 

TATA SUPER ACE มีรูปแบบตัวถังที่ผ่านการตกแต่งมาแล้วให้เลือกถึง 4 แบบ ได้แก่ STANDARD, FOOD TRUCK, SHUTTLE และ CARGO ที่พร้อมเริ่มต้นทำธุรกิจได้ทันที โดยราคารถรวมตกแต่ง สามารถนำมารวมยอดผ่อนได้เลยไม่ต้องแยกกัน

TATA ULTRA T.9 (ทาทา อุลทรา ที.9) ขนาดกลาง พิกัดบรรทุก 8.9 ตัน สามารถเดินทางได้ต่อเนื่องด้วยถังน้ำมันขนาดใหญ 120 ลิตร

TATA ULTRA T.14 (ทาทา อุลทรา ที.14) ขนาดกลาง พิกัดบรรทุก 14.7 ตัน ออกแบบมาเพื่อรับมือกับงานที่ยาก มาพร้อมประสิทธิภาพทรงพลัง สำหรับการใช้งานหลายประเภท เช่น การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผักผลไม้ และอื่นๆ อีกมากมาย 

TATA PRIMA 5038.S (ทาทา พรีมา 5038.เอส) รถหัวลาก 10 ล้อแบบ 6x4 พิกัดลากจูง 50.5 ตัน รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่เป็นเรือธงของ TATA นำเสนอความสะดวกสบาย เทคโนโลยี และคุณสมบัติที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับงานด้านลอจิสติคส์ อุตสาหกรรม และการก่อสร้าง สามารถขนส่งสินค้าหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดต้นทุน และเพิ่มรายได้ 

ส่วนปีนี้ TATA เตรียมที่จะเปิดตัวรถบรรทุกเพิ่มขึ้นอีก อย่างแน่นอน 

ฟอร์มูลา : การบริการที่เตรียมไว้เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้ามีอะไรบ้าง ?

ชาญชัย : บริษัทฯ สร้างความอุ่นใจให้ลูกค้าตลอดอายุการใช้งานด้วย TATA PROTECT แพคเกจบำรุงรักษาและช่วยเหลือลูกค้าเรื่องการซ่อมแซมที่รวดเร็ว ประกอบด้วยบริการ 6 รายการ ดังนี้

CUSTOMER HELP LINE-สายด่วนรับเรื่องร้องเรียนต่างๆ พร้อมรับฟังปัญหา และให้คำแนะนำด้านบริการ พร้อมนำข้อมูลมาแก้ไข และปรับปรุงงานบริการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจสูงสุด

EXPRESS SERVICE-สามารถรับรถได้ภายในไม่เกิน 2 ชม. เมื่อนำรถเข้ามารับบริการเชคระยะที่ศูนย์บริการทั่วประเทศ 

TATA ALERT-ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์กับ TATA MOTORS แล้วเกิดปัญหาการใช้งานระหว่างทาง สามารถเรียกใช้บริการ ROADSIDE ASSISTANCE ตลอด 24 ชม. โดยลูกค้าจะได้รับความช่วยเหลือภายใน 1 ชม.

WIDE NETWORK COVERAGE-การทำตลาดรถ TATA ครั้งนี้ แม้จะเป็นการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ แต่ TATA MOTORS ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเดิม ยังให้บริการอยู่ ทำให้เป็นการทำตลาดที่มีการต่อยอดซึ่งกันและกัน มีการส่งข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลอะไหล่ เป็นต้น ทำให้ขณะนี้มีศูนย์บริการ 13 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 

TATA MASTER CARE+-บริการ SERVICE PACKAGE MAINTENANCE และขยายการรับประกันอะไหล่รายการหลักเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้ามีมั่นใจ โดยเป็นการบริการที่ขายพร้อมตัวรถ

FLEET EDGE TELEMATICS-พแลทฟอร์มการติดตามยานพาหนะ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และการแจ้งเตือน ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งในรถยนต์ TATA สำหรับลูกค้าที่ต้องการทราบรายละเอียดการขับขี่ของคนขับ รวมถึงสมรรถนะของรถ และอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงแบบเรียลไทม์เพื่อนำข้อมูลมาใช้วางแผนการเดินทางเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ

ขณะเดียวกัน TATA MOTORS ยังเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าที่ต้องการ “ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน” รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มือสองแบบไม่ยุ่งยาก ด้วย TATA OK ซึ่งเป็นบริการแบบครบวงจรช่วยคุณค้นหารถมือสองที่เหมาะกับธุรกิจ นำเสนอโซลูชันตั้งแต่ต้นจนจบสำหรับการ “ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน” โดยรับประกันความน่าเชื่อถือ และความโปร่งใสสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อรถบรรทุกมือสอง ขายรถคันเก่า หรือเปลี่ยนรถเป็นคันใหม่ให้เหมาะกับธุรกิจ และงบประมาณ ด้วยการตรวจสอบคุณภาพถึง 120 รายการ พร้อมแพคเกจการรับประกัน และการบริการที่หลากหลาย การโอนเอกสาร 100 % ตลอดจนตัวเลือกทางการเงินที่ง่าย ยานพาหนะที่ได้รับการรับรองจาก TATA OK จึงเป็นการลงทุนที่มั่นใจได้

ฟอร์มูลา : ปัจจุบันมีโชว์รูม และศูนย์บริการกี่แห่ง ?

ชาญชัย : สำนักงานใหญ่ของ TATA MOTORS ตั้งอยู่ที่ถนนลำลูกกา คลอง 6 จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วยโชว์รูม ศูนย์บริการ ศูนย์จำหน่ายอะไหล่ และศูนย์ฝึกอบรม TRAINING CENTER และได้แต่งตั้งผู้แทนจำหน่ายรถ TATA ที่มีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ 13 แห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย รองรับด้านการขาย การบริการ และอะไหล่ 

ฟอร์มูลา : การแข่งขันของรถเชิงพาณิชย์ ?

ชาญชัย : TATA มองที่ความคุ้มค่า คุ้มราคา โดยในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40” TATA เป็นรถที่สร้างโอกาสทางธุรกิจที่ราคาถูกที่สุด

TATA พยายามสร้างจุดยืนที่พร้อมจะส่งมอบสินค้าแก่ลูกค้า สร้างความแตกต่างด้วยผลิตภัณฑ์ แต่การแข่งขัน คือ การช่วยกันขยายตลาด เราอยากเป็นองค์กรที่มั่นคง มีเป้าหมายให้เราอยู่ได้ ดีเลอร์อยู่ได้ ดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง และสร้างความพึงพอใจสูงสุดปีนี้ เราจะมุ่งสร้างการรับรู้ และแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยตั้งเป้ามียอดขาย 1,000 คัน/ปี

ฟอร์มูลา : TATA มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับรถไฟฟ้า ?

ชาญชัย : TATA มีความพร้อมอย่างมากสำหรับรถไฟฟ้าที่มีอยู่หลากหลายรุ่น หลายเซกเมนท์ นอกจากรถไฟฟ้าก็ยังมีรถพลังงานทางเลือกอื่นๆ อีก เช่น ไฮโดรเจน และพลัก-อิน