แล่นไปในสายน้ำ

ทดสอบเรือยอชท์ SUNSEEKER 100

30 Apr 2024

จากเซาแธมพ์ตัน สู่พูล การเดินทางท่ามกลางสายลมเย็นของเรือยักษ์รุ่นล่าสุด ของ SUNSEEKER

ส่วนใหญ่แล้ว การทดสอบเรือยอชท์ที่ทั้งใหญ่ และมีเสน่ห์อย่าง SUNSEEKER 100 จะเกิดขึ้นบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพราะเมื่อแดดออก และคลื่นลมสงบ คุณจะยิ่งหลงใหลในความยิ่งใหญ่ และหรูหราของมัน แต่ความท้าทายที่แท้จริงในการทดสอบเรือลำนี้ คือ การต้องเดินทางฝ่าสายลม ทะเลคลั่ง หลังดวงตะวันลับขอบฟ้า เมื่อออกจาก เซาแธมพ์ตัน มุ่งหน้าสู่เมืองพูล หลังงานแสดงเรือ ในเซาแธมพ์ตัน สิ้นสุดลง และเราก็ไม่อาจจินตนาการได้ว่า ความแตกต่างของ SUNSEEKER 100 ลำนี้ จะมีมากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับตอนที่มันเปิดตัวในงาน CANNES YACHTING FSETIVAL เมื่อเกือบ 1 ปีก่อน แต่ขณะที่บรรดาลูกเรือกำลังกุลีกุจอ จัดเตรียมของ และติดเทป ลงไปบนส่วนต่างๆ ที่ยังไม่ได้ตอกตะปู เราก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้น และอยากรู้ว่าเรือสุดหรูหราลำนี้ จะรับมือกับสภาพเส้นทางที่ไม่เอื้ออำนวยได้ดีแค่ไหน

ก่อนอื่น เราขออธิบายก่อนว่า เหตุใด SUNSEEKER 100 จึงเหมาะกับการเดินทางในสภาพอากาศที่อบอุ่น มากกว่าหนาวจัด นั่นก็เพราะ ในขณะที่คู่แข่งอย่าง PRINCESS X95, WALLY WHY200 และ FERRETTI INFYNITO ให้ความสำคัญกับพื้นที่ใช้สอยภายในเรือ มากกว่าดาดฟ้าภายนอก SUNSEEKER 100 กลับมีแบ่งพื้นที่ 2 ส่วนนี้ ให้มีขนาดเท่าๆกัน แถมยังตกแต่งภายในอย่างโอ่อ่า ด้วยการมีห้องสวีทวิวดาดฟ้าสำหรับเจ้าของเรือ ห้องโดยสารสำหรับแขกอีก 4 ห้อง และห้องคนขับแบบยกสูง แต่ส่วนที่ดูมีระดับที่สุด คงหนีไม่พ้น พื้นที่ใช้สอยภายนอก เริ่มจากท้ายเรือ กว้างใหญ่ เพียบพร้อมไปด้วยคลังความสนุกนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น WILLIAMS SPORTJET 460 เจทสกี SEA-DOO GTX 255 และสกูเตอร์ SEABOBS หรือคุณจะใช้พื้นที่นั้น ทำเป็นที่นั่งในร่มชิลล์ๆ สไตล์บีชคลับก็ได้ และยังสามารถปิดประตูท้ายเรือเพื่อเปิดใช้เก้าอี้อาบแดด X-TEND ก็ได้เช่นกัน

การเล่นระดับ

สิ่งที่เป็นจุดเด่นจริงๆ ของ SUNSEEKER 100 คือ การออกแบบพื้นที่ด้านบน เพราะแทนที่จะใช้สะพานเดินเรือแบบปกติ ที่เริ่มจากท้ายเรือ ทอดยาวสู่กลางลำ ซึ่งมีกระจกบังลม คอยปกป้องวิสัยทัศน์ ทำให้มองเห็นส่วนหน้าของบริเวณดาดฟ้า สะพานเดินเรือของ SUNSEEKER 100 ลำนี้ กลับทอดยาวจากปลายด้านหนึ่งของเรือ ไปยังอีกด้าน ในระดับที่ลดหลั่นกัน ทำให้เกิดพื้นที่สันทนาการกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่ทอดยาวจากท้ายเรือ สู่หัวเรือโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น เริ่มจากอ่างน้ำร้อนแบบ INFINITY ที่มีผนังกระจก มองเห็นวิวท้ายเรือ ลากยาวผ่านระเบียงด้านข้างที่ยกสูงขึ้นเล็กน้อย ไปยังระเบียงด้านหน้า บริเวณหัวเรือ ที่ทั้งเรียบหรู และสะดวกสบาย

สิ่งที่น่ารัก คือ แม้พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดจะเชื่อมต่อกัน เพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนที่ไปมาบนเรือ แต่ผู้โดยสารก็ยังสามารถทำกิจกรรมแบบแยกโซนกันได้ บางคนอาจนอนเล่นในอ่างน้ำร้อน บางคนนั่งชิลล์ที่โต๊ะหลัก บางคนเอนจอยเครื่องดื่มที่บาร์ บางคนอาจนั่งพักผ่อนแถวๆ เลาน์จ์ส่วนหน้า หรือนอนอาบแดดสบายๆ ในระยะไม่ไกลจากกันเกิน 2-3 ก้าว การนำกิจกรรมที่ไม่ค่อยถูกสนใจมาใส่ไว้ในพื้นที่เพิ่มขึ้นแบบนี้ ทำให้ประสบการณ์บนเรือดีขึ้นมาก

จริงๆ แล้ว คุณสามารถออกแบบพื้นที่บริเวณสะพานเดินเรือส่วนกลางได้ตามใจชอบ แต่บนเรือทดสอบของเรามีบาร์ยาว หันหน้าไปทางท้ายเรือ ซึ่งผู้โดยสารสามารถนั่งบนเก้าอี้สตูล เพลิดเพลินกับคอคเทลยามเย็น และชื่นชมทักษะของเชฟได้

และอย่ากังวลว่า การมุ่งเน้นไปที่ความบันเทิงกลางแจ้งของ SUNSEEKER 100 จะหมายถึงความไม่ใส่ใจเรื่องการตกแต่งภายใน เพราะนั่นไม่จริงเลย การวางแผงควบคุมไว้ในห้องขับเรือที่ยกสูงขึ้นอีกชั้นหนึ่งนั้น ทำให้ผู้โดยสารใช้ดาดฟ้าหลักที่มีความยาวเต็มๆ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้ และตามที่คาดไว้ ครึ่งหลังของเรือ ประกอบด้วยห้องโถงแบบเปิดโล่ง และพื้นที่รับประทานอาหารที่ล้อมรอบด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน หรือคุณจะติดประตูบานเลื่อนด้านข้างด้วยก็ได้ หากต้องการใกล้ชิดกับทะเลมากขึ้น สิ่งเดียวที่เราไม่ชอบใจ คือ โทรทัศน์ขนาดใหญ่ 65 นิ้ว ซึ่งติดตั้งไว้ที่ด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่น เพราะมันบดบังวิวที่เราควรจะได้เห็น จากบริเวณที่นั่งหลัก พูดกันแบบแฟร์ๆ เราเข้าใจว่าไม่มีตรงไหนที่เหมาะจะวางทีวีกว่านี้แล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนมาใช้ หน้าจอแบบเลื่อนขึ้นลงจากพื้น หรือซ่อนเก็บได้ ก็จะดูน่ารำคาญน้อยลง

ใกล้ๆ โต๊ะอาหาร มีบันไดไปสู่ห้องคนขับ มีประตูบานเลื่อนที่เชื่อมกับห้องครัว และมีบันไดอีกอันสำหรับไปยังพื้นที่ของบรรดาลูกเรือ ซึ่งควรค่าแก่การกล่าวถึง เพราะไม่ใช่เรื่องปกติของเรือไซซ์นี้ ที่จะมีพื้นที่รับประทานอาหารที่เหมาะสมสำหรับลูกเรือ พร้อมห้องครัวของตัวเอง แถมยังมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ พร้อมห้องซักรีด และห้องโดยสารส่วนตัว 3 ห้องแยกกัน (มีเตียง 2 ชั้น 2 หลัง และห้องโดยสารของกัปตัน 1 ห้อง) นอกจากนั้น ลูกเรือยังสามารถเข้าออกทางประตูดาดฟ้าด้านข้าง ขึ้นไปยังสะพานเดินเรือ หรือห้องคนขับได้ โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องผู้โดยสารอีกด้วย

พื้นที่ท้ายเรือขนาดใหญ่สามารถใช้เป็นบีชคลับได้

ที่นั่ง X-TEND หันหน้าไปทางท้ายเรือในระดับต่ำ หรือจะยกขึ้นเพื่อใช้เป็นเก้าอี้เสริมชั้นบน ก็ได้เช่นกัน

ประตูกระจก และเฟอร์นิเจอร์แบบตั้งพื้น ทำให้สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้เต็มที่

ผลลัพธ์ที่ได้ คือ พื้นที่สันทนาการกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่ทอดยาวจากท้ายเรือสู่หัวเรือ โดยไม่มีอะไรขวางกั้น

ห้องรับแขก และพื้นที่รับประทานอาหาร ล้อมรอบด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน เสียแค่มีทีวีเท่านั้น

สะพานเดินเรืออันกว้างใหญ่ และพื้นที่ส่วนหน้า เชื่อมต่อกันด้วยดาดฟ้าด้านข้างที่ลาดเอียงเบาๆ ล้อมรอบห้องคนขับที่ยกสูง เจ้าของเรือสามารถปรับแต่งพื้นที่ใช้สอย และเฟอร์นิเจอร์ได้ตามใจชอบ

ระเบียงส่วนตัว ของเจ้าของเรือ บริเวณส่วนหน้าของเรือยอชท์

ห้องสวีทของเจ้าของเรือ ที่ทั้งสว่าง เงียบสงบ และเป็นส่วนตัว เหมาะกับการใช้เวลาดีๆ

ทางขวามือของส่วนรับประทานอาหารมีบันไดอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งทอดลงไปยังห้องโดยสารชั้นล่าง และทางเดินสั้นๆ พร้อมห้องน้ำขนาดกะทัดรัดด้านข้าง มีช่องเก็บของ และตู้แช่ไวน์อีกด้านหนึ่ง ทว่าสิ่งที่อยู่ทางด้านหน้าสุดทางเดินนั้นเป็นอีกหนึ่งจุดขายของเรือลำนี้ ห้องโดยสารหลักอาจไม่ได้ดูใหญ่เท่ากับห้องโดยสารที่มีความกว้างเท่าตัวเรือ ทว่าหากได้ลองนอนในห้องนี้ คุณจะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างทันที ที่ชั้นล่างนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขจัดเสียงรบกวนไม่พึงประสงค์ออกไปได้ทั้งหมด หากไม่ใช่เสียงรบกวนจากเครื่องปั่นไฟ หรือครีบกันเรือโคลงที่รบกวนการนอนหลับของคุณ ก็จะต้องเป็นเสียงน้ำกระทบเข้ากับตัวถังเรือที่จะได้ยินตลอดเวลา ห้องโดยสารด้านหน้ามักจะต้องเผชิญกับเสียงกระทบกันของสมอเรือ และคลื่นน้ำ สำหรับนักเดินเรือ นี่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตบนท้องทะเล แต่สำหรับท่านอื่นๆ ความสุขของห้องโดยสารหลัก คือความเงียบที่เกิดจากทั้งชั้น และแผงกั้นหลายๆ จุดที่กันห้องโดยสารให้ห่างออกจากเสียงรบกวน

ระเบียงส่วนตัว

ไม่ใช่แค่ความเงียบเท่านั้นที่ทำให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่สุดพิเศษ แต่มันยังให้ทัศนียภาพมุมสูงจากหน้าต่างบานใหญ่ พื้นที่ใช้สอยของเรือเพิ่มขึ้นจากดาดฟ้าด้านข้าง และประตูกระจกบานเลื่อนส่วนใหญ่จะพาคุณออกไปยังระเบียงดาดฟ้าเรือส่วนตัวของคุณเอง ระเบียงนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าเลาน์จ์หลักที่ส่วนหน้า แต่เชื่อมกันด้วยบันไดสั้นๆ ทำให้ระเบียงแยกออกจากกันมากพอที่จะให้คุณรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว และยังคงเข้าถึงสะพานเรือได้ง่าย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ ลูกเรือจะต้องใช้ระเบียงเดียวกันนี้ในการทอด หรือเก็บสมอ

ขณะเดียวกัน ผู้โดยสารของคุณก็มีพื้นที่ใช้สอยส่วนตัวที่ชั้นล่าง พื้นที่สามารถแบ่งออกเป็นห้องโดยสารขนาดใกล้เคียงกันถึง 4 ห้อง แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว หรือจะเป็นห้องโดยสารแบบ VIP ขนาดใหญ่ 1 ห้องด้านท้ายเรือ และห้องโดยสารเตียงคู่ หรือเตียงใหญ่ที่ด้านหน้า ห้องโดยสารแบบเตียงคู่นั้นยังมาพร้อมกับตัวเลือกเตียง 2 ชั้น โดยสามารถรองรับจำนวนเตียงของผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 12 เตียง

ระเบียงส่วนตัวของเจ้าของเรืออยู่ที่บริเวณด้านหน้าของเรือ

ห้องสวีทที่ดาดฟ้าหลักนั้นสว่างไสว, เงียบสงบ และเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่น่าใช้เวลาด้วย

ทั้งหมดนี้ห่างไกลจากความคิดของเรา เมื่อเราเรือจาก SOLENT เข้าสู่อ่าว POOLE ทันใดที่แรงลมระดับ 5-6 ไปทางตะวันตกเฉียงใต้แล่นผ่าน NEEDLES ปะทะเข้ากับหัวเรือ และแสงอาทิตย์อ่อนๆ ค่อยๆ เลื่อนต่ำลงลับขอบฟ้า ก็ถึงเวลาที่เราจะพาเครื่องยนต์ และตัวถังเรือเข้าสู่การทดสอบ

เรือทดสอบของเรานั้นติดตั้งเครื่องยนต์ MTU V12 ที่มีกำลังน้อยที่สุดในรุ่นที่ 1,950 แรงม้า 2 ตัวบนเพลาตรง ซึ่งทำให้การใช้งานเรือเหล่านี้ดูเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผล มีเจ้าของ หรือกัปตันเรือไม่กี่คนเลือกที่จะใช้ความเร็ว 28 นอท ในระยะเวลาใดก็ได้กับเรือที่มีน้ำหนักกว่า 100 ตัน ในขณะที่คุณสามารถล่องเรือได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกสบายกว่าที่ความเร็ว 10-12 นอท

ตามที่คาดการณ์ไว้ เรือยอชท์รุ่น 100 ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย และผ่อนคลายมากอย่างน่าอัศจรรย์ที่ความเร็วเท่านี้ โดยมีระดับเสียงรบกวนของเครื่องยนต์อยู่ที่เพียง 50 เดซิเบล (A) และอัตราการเผาผลาญของเชื้อเพลิงที่ 10-12 ลิตร/1 ไมล์ทะเล ซึ่งเป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ เราเร่งเครื่องไปจนถึง 2,450 รตน. เพื่อดูว่าเครื่องยนต์ทำงานอย่างไรที่ความเร็วระดับนี้ ทว่าเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสุขุม มั่นคงที่ความเร็ว 24 นอท บนความนิ่งเดียวกับตอนทำความเร็ว 12 นอท แต่ที่ระยะนี้เครื่องยนต์ใช้เชื้อเพลิง 33 ลิตร/1 ไมล์ทะเล นับว่าเป็นอัตราเผาผลาญที่เกินความจำเป็นไปนิดหนึ่ง

การหมุนเผยให้เห็นว่า การเลี้ยวนั้นเบาอย่างน่าประหลาดใจ และตอบสนองได้เป็นอย่างดีสำหรับเรือที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ โดยเรือสามารถเลี้ยว 180 องศาเต็มได้ภายในการหมุนไม่กี่ครั้ง ขณะที่การเลี้ยวยังคงราบเรียบ ทัศนวิสัยของตำแหน่งคนขับก็ค่อนข้างดีเช่นกัน ด้วยกระจกบังลมด้านหน้าขนาดพอเหมาะซึ่งขยายไปทางด้านท้ายของเรือได้เป็นอย่างดี รูปทรงเพรียวบาง และแบ่ง 3 ตอน เอนทำมุม 4.5 องศา ทำให้คุณมองเห็นบริเวณหัวเรือได้ตลอดเวลา ถึงแม้จะต้องใช้คนช่วยดูจุดบอดที่ด้านหลังของคุณก่อนเลี้ยววงแคบก็ตาม สำหรับงานระยะใกล้ กราบเรือทั้ง 2 ด้านอยู่บริเวณด้านข้างของห้องคนขับพอดี ช่วยให้คนขับเห็นกราบทั้ง 2 ด้านจากมุมสูงได้อย่างชัดเจน

การหมุนพังงาเผยให้เห็นว่าการเลี้ยวนั้นเบาอย่างน่าประหลาดใจ และตอบสนองได้เป็นอย่างดีสำหรับเรือที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้

ห้องโดยสารทั้ง 4 ห้อง มีห้องน้ำในตัว พร้อมพื้นที่กว้างขวาง และแสงสว่างเพียงพอ

สิ่งที่เป็นตัวชูโรงของเรือลำนี้ คือ การที่ มันสามารถรับมือกับสถานการณ์ยุ่งเหยิงได้เป็นอย่างดี ขณะที่เราอยู่ในห้องคนขับอย่างปลอดภัย และนำเรือผ่าน HURST NARROWS ซึ่งมีลมต้านกระแสน้ำพัดสูงขึ้นที่ 1.5-2 ม. ด้วยครีบไฟฟ้า CMC และแถบ INTRUDER ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อรักษาระดับเรือ เราตั้งความเร็วคงที่ 16 นอท และเรือก็แล่นไปโดยเห็นเพียงแค่ขอบฟ้าเคลื่อนผ่านขึ้นลง และเมฆสีขาวกระจายทั้ง 2 ด้านอย่างราบรื่น จึเป็นการยืนยันว่าเรือทำงานได้ดีเพียงใด

สรุป

เรือยอชท์ 3 ชั้นขนาดกะทัดรัดสายพันธุ์ใหม่นี้ อาจดูฉลาดหลักแหลม และให้ความรู้สึกที่หนักหน่วงเล็กน้อย และแน่นอนว่า มีการสละพื้นที่สังสรรค์ภายนอกออกไปเพื่อแลกกับพื้นที่ใช้สอยภายใน ซึ่งสมเหตุสมผลมากในหน้าร้อนที่จำเป็นต้องใข้เครื่องปรับอากาศ แต่ในน่านน้ำเมดิเตอ เรเนียนที่ส่วนหนึ่งของความสนุกอยู่ที่การใช้เวลากลางแจ้ง เรือยอชท์ที่มีฟลายบริดจ์ขนาดใหญ่ลำนี้ก็พอจะสมเหตุสมผลอยู่เช่นเดียวกัน

SUNSEEKER 100 YACHT ทำหน้าที่ของมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ พื้นที่สังสรรค์ภายนอกยอดเยี่ยม เดินไปมาได้อย่างสะดวกสบาย การตกแต่งภายในคิดมาเป็นอย่างดี ห้องโดยสารหลักสุดโอ่อ่า ห้องพักลูกเรือมีพื้นที่ใช้สอยมากมาย เรือให้ทุกอย่างที่กล่าวมาในขณะที่ยังอยู่ภายใต้กฏความสูง 24 ม. และทำตัวเหมือนเป็นเรือเดินทะเลจริงๆ พร้อมกลิ่นอายของความเป็นอังกฤษมากมายที่สะท้อนถึงผู้ออกแบบ และผู้สร้างเรือลำนี้ได้อย่างชัดเจน

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ SUNSEEKER จะมีออเดอร์เรือรุ่นนี้เข้ามามากกว่า 20 ลำแล้ว

ติดต่อ: www.sunseeker.com

SUNSEEKER 100 YACHT มอบพื้นที่สังสรรภายนอกที่ยอดเยี่ยม