BMW (บีเอมดับเบิลยู) ถือว่าเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรก ที่ได้รับการอนุญาตให้นำระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ LEVEL 3 ติดตั้งในรถยนต์เพื่อจำหน่ายได้ในเยอรมัน
BMW เป็นบริษัทรถยนต์เก่าแก่ มีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีล้ำหน้ามาอย่างต่อเนื่อง และยาวนาน ถ้าเผื่อนึกภาพไม่ออก ลองย้อนกลับไปดูภาพยนตร์ดังๆ ในอดีตจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ นับว่าเป็นเรื่องที่ทีมวิศวกรใฝ่ฝันมากเรื่องหนึ่ง
เทคโนโลยีที่เราใช้อยู่ในรถปัจจุบันล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นมาในอดีต เพียงแต่ว่าขาดความพร้อม หรือข้อจำกัดมากมายหลายด้านในช่วงเวลานั้นๆ เช่น ชิพที่มีความรวดเร็วในการประมวลผลแบบในปัจจุบัน หรือแม้แต่ความแม่นยำของสัญญาณ GPS รวมถึงหลายๆ อย่าง เป็นตัวแปรสำคัญในการพัฒนา ยกตัวอย่างให้เห็นง่ายๆ คอมพิวเตอร์เมื่อ 30 ปีก่อน กับคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ความสามารถแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และการนำระบบใดๆ มาใช้กับรถยนต์นั้นต้องมีการทดสอบจนมั่นใจว่าปลอดภัย ซึ่งหมายความว่าเทคโนโลยีที่กำลังทดสอบอยู่นั้น กลับล้าหลังเพราะมีเทคโนโลยีใหม่มาทดแทนโดนตลอด เพราะการนำมาใช้ในรถยนต์นั้นเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิตผู้คน
การได้รับอนุญาตจากหน่วยงานของรัฐในเยอรมันนับว่าเป็นก้าวสำคัญของ BMW เลยทีเดียว การกำหนดระดับความสามารถในการขับขี่แบบอัตโนมัติของรถยนต์นั้น ระดับสูงสุดที่ SAE กำหนดไว้ คือ LEVEL 4 ในระดับนี้ ผู้ขับขี่จะสามารถปล่อยให้รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องบังคับควบคุมใดๆ จะดูหนัง ฟังเพลง ที่ยังไม่มีบริษัทไหนก้าวไปถึง
ปัจจุบันที่มีติดตั้งในรถยนต์ที่วางขายในโชว์รูม คือ ระดับ LEVEL 2 ซึ่งทาง BMW เป็นรายแรกที่ได้รับอนุญาตในระดับ LEVEL 3 ความสามารถของรถยนต์ในระดับนี้ แม้ว่าจะปล่อยให้ตัวรถสามารถขับเคลื่อน และตัดสินใจเองได้ โดยผู้ขับขี่สามารถใช้ระบบสื่อสารอื่นๆ ของตัวรถไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ ใช้งานโทรศัพท์ หรือแม้แต่การใช้หน้าจอดูภาพยนตร์เรื่องโปรด แต่ความเร็วสูงสุดที่อนุญาตให้ตัวรถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง คือ ไม่เกิน 60 กม./ชม. และผู้ขับขี่ยังต้องควบคุมรถด้วยตัวเองในกรณีที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ให้เข้าใจสั้นๆ ง่ายๆ คือ ไม่สามารถละสายตาจากถนนเบื้องหน้า หรือสภาพแวดล้อมรอบตัวได้ 100 % BMW PERSONAL PILOT L3 จะถูกติดตั้งในรถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่น หรือซื้อเป็นออพชันเสริมได้ ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้