เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
ทดสอบ รีวิว และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยให้คุณเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ
PIXEL 9 PRO ราคาเริ่มต้น 999 ปอนด์ store.google.com
สมาร์ทโฟน ANDROID ระดับบอสส์กลับมาอีกครั้ง พร้อมฟอร์มที่ดีที่สุด
PIXEL 9 PRO เป็นสมาร์ทโฟน ANDROID ที่สมบูรณ์แบบที่สุดจาก GOOGLE ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ IPHONE 15 PRO ของ APPLE และ GALAXY S24 ของ SAMSUNG การอัพเกรดในรุ่นล่าสุดนี้ รวมถึงการออกแบบใหม่, หน้าจอ, ชิพเซท, ระบบระบายความร้อน และการชาร์จที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือก XL กลับมาอีกครั้ง พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ 6.8 นิ้ว ซึ่งเป็นจุดแตกต่างเดียวจากรุ่นปกติ
การออกแบบที่ทันสมัย
ในแง่ของการออกแบบ PIXEL 9 PRO อาจทำให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะ “แถบกล้อง” ที่ไม่เชื่อมต่อกับขอบตัวเครื่องอีกต่อไป แต่เปลี่ยนมาเป็นลักษณะคล้ายเกาะลอยที่ซ่อนกล้อง 3 ตัวไว้ด้านในพร้อมเฉดสีดำโค้งมน การออกแบบนี้ดูทันสมัย และไม่เหมือนใคร โดดเด่นจาก คู่แข่ง อย่างไรก็ตาม ขอบที่มีมุมชันอาจดึงดูดเศษฝุ่น หรือสิ่งสกปรกได้ง่าย ขณะที่ขอบโลหะของตัวเครื่องก็เป็นรอยนิ้วมือได้ง่าย ทำให้ต้องทำความสะอาดบ่อยขึ้น
สี และการใช้งาน
ในแง่ของสีสัน GOOGLE เลือกใช้โทนสีที่ค่อนข้างเรียบง่าย สี HAZEL ที่รีวิวมาเป็นสีเทา-เขียว พร้อมตกแต่งด้วยขอบโลหะ ตัวแผงหลังมีการเคลือบที่ช่วยให้ดูสะอาด และเรียบร้อย อีกทั้งยังให้ความรู้สึกสบายมือ ด้วยขอบโค้งมนเล็กน้อยที่ออกแบบมาอย่างดี
ปรับแต่งโครงสร้าง
สำหรับตัวเครื่องของ PIXEL 9 PRO ขอบจอถูกลดขนาดให้บางลง ทำให้ดูทันสมัยมากขึ้น GOOGLE ยังคงให้ความสำคัญกับความโค้ง โดยมุมโค้งมนของตัวเครื่องถูกออกแบบให้ดูสมบูรณ์ และเข้ากับมือผู้ใช้
ข้อมูลจำเพาะ
หน้าจอ 6.3 นิ้ว/6.8 นิ้ว (XL) SUPER ACTUA DISPLAY, ความละเอียด 1280x2856 LTPO OLED ที่ 495 PPI/1344x2992 LTPO OLED ที่ 486 PPI (XL), ความสว่างสูงสุด 2,000 NITS (HDR) และความสว่างพีคสูงสุด 3,000 NITS, อัตราการรีเฟรช 120HZ พโรเซสเซอร์ GOOGLE TENSOR G4 RAM 16GB พื้นที่เก็บข้อมูล 128GB/256GB/512GB/ 1TB ระบบปฏิบัติการ ANDROID 14 แบทเตอรี 4,700 MAH พร้อมการชาร์จเร็ว 37 วัตต์ ใช้งานได้เกิน 24 ชม. การเชื่อมต่อ USB-C, WI-FI 7, BLUETOOTH 5.3 ขนาด 152.8x72x8.5 มม./162.8x76.6x8.5 มม. (XL) น้ำหนัก 199 กรัม/221 กรัม (XL)
ใหญ่ที่สุดแบบไร้ข้อโต้แย้ง
CAMERA BAR บน PIXEL 9 PRO ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างมาก โดยไม่ได้ยื่นถึงขอบหน้าจออีกต่อไป และมีความนูนที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น
โดดเด่นกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ
ถึงแม้จะเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็ทำให้บางส่วนของเนื้อหาบนหน้าจอถูกตัดออกไปบ้าง เช่น ตัวอักษร “X” ที่อยู่ใกล้กับโฆษณาในเกม อย่างไรก็ตาม ในเมื่อ GOOGLE เป็นผู้สร้าง ANDROID และเข้าใจการทำงานของแอพพลิเคชันส่วนใหญ่ได้ดี การออกแบบที่โค้งมนของหน้าจอก็อาจจะดูชันไป เล็กน้อย แต่ก็เป็นข้อสังเกตที่ไม่ได้สำคัญนัก
จอแสดงผลโดยรวมแล้วแทบไม่มีอะไรให้ตำหนิ PIXEL 9 PRO อาจมี จอที่ดีที่สุดในบรรดาสมาร์ทโฟน ANDROID ณ ตอนนี้ ด้วยจอ SUPER ACTUAL OLED ขนาด 6.3 นิ้ว ที่มอบสีสันที่คมชัด และสดใส พร้อมความสมดุล และความเป็นธรรมชาติในยามที่จำเป็น แม้จะมีข้อสังเกต เล็กน้อยเกี่ยวกับความเงามันที่สังเกตได้ในความสว่างระดับต่ำ และระบบปรับแสงอัตโนมัติที่ลดความสว่างมากเกินไป แต่เมื่อเพิ่มความสว่างขึ้นมา จอแสดงผลจะกลายเป็นสิ่งที่น่าทึ่งทันที.
สมดุลที่ลงตัว
GOOGLE ใช้ PIXEL 9 PRO เป็นตัวอย่างของการสร้างสมดุลที่ดีเยี่ยม โดยไม่เร่งการใช้งานฟีเจอร์ให้สุดขั้วเกินไป มือถือรุ่นนี้ทำงานได้ดีในการยืดอายุการใช้งานแบทเตอรี พร้อมกับมอบพลังการประมวลผลที่เพียงพอ
ระบบปรับแสงอัตโนมัติถูกออกแบบมาเพื่อยืดอายุแบทเตอรี ซึ่งทำได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะแบทเตอรีสามารถใช้งานได้นานเกินวันด้วยการใช้งานแบบผสม
ชิพ TENSOR G4 ของ GOOGLE เป็นก้าวที่เหนือกว่า G3 ใน PIXEL 8 อย่างเห็นได้ชัด PIXEL 9 PRO สามารถเล่นเกมที่ต้องการทรัพยากรสูงได้โดยไม่มีอาการกระตุก และยังสามารถเปิดแอพพลิเคชันหลายตัวพร้อมกันได้อย่างราบรื่นด้วย RAM 16GB
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด อาจต้องทราบว่าชิพ G4 มีการปรับลดพลังงานในบางจังหวะ ซึ่งอาจไม่สามารถเทียบได้กับชิพ QUALCOMM SNAPDRAGON 8 GEN 3 แต่ในความเป็นจริง ปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด เกมไม่สะดุด และโทรศัพท์ยังคงใช้งานได้ดีโดยไม่ร้อน หรือสิ้นเปลืองแบทเตอรีเร็วเกินไป
PIXEL 9 PRO ยังมีการตั้งค่าบางอย่างที่เปิดใช้งานมาให้ตั้งแต่เริ่มต้น เช่น ความละเอียดจอที่ตั้งมาให้ต่ำกว่าความละเอียดเต็ม (1280x2856) ซึ่งหากเลือกใช้ความละเอียดเต็ม แบทเตอรีอาจหมดเร็วขึ้น นอกจากนี้ SMOOTH DISPLAY ที่มีรีเฟรชเรทสูงสุด 120HZ ก็เปิดใช้งานมาให้ ซึ่งคุณสามารถปรับเป็น 60HZ เพื่อยืดอายุแบทเตอรี แต่เราไม่แนะนำ เพราะรีเฟรชเรทที่สูงทำให้การใช้งานโดยรวมลื่นไหลมาก
จุดแข็งที่แท้จริงของ PIXEL 9 PRO
จุดเด่นอีกประการ คือ การนำปัญญาประดิษฐ์ GOOGLE GEMINI เข้ามาใช้งาน TENSOR G4 เป็นชิพแรกที่รองรับ GEMINI NANO ด้วยการทำงานแบบหลายโหมด ทำให้มันเป็น “AI ที่ทรงพลังที่สุดบนอุปกรณ์”
ตรงไปตรงมา
กล้องยังคงเหมือนของ PIXEL PRO รุ่นก่อนหน้า แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแย่ เพราะยังคงเป็นหนึ่งในระบบกล้องที่ดีที่สุด แม้ว่าการปรับปรุงด้วย AI ด้านการถ่ายภาพจะยังไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม
45TOPS ความสามารถในการประมวลผลสูงถึงหลายล้านล้านครั้ง/วินาที
GOOGLE TENSOR สามารถประมวลผลได้ 45TOPS (TRILLIONS OF OPERATIONS PER SECOND) ซึ่งในทางทฤษฎีดูเหมือนว่าจะนำหน้า SNAPDRAGON ในแง่ของจำนวนการดำเนินการที่ทำได้ แต่การที่ทำได้มากกว่าไม่ได้หมายความว่าดีกว่าเสมอไป และโลกของ AI ยังต้องพัฒนาอีกมากกว่าจะสร้างประโยชน์ได้อย่างเต็มที่กับฟีเจอร์ทั้งหมด
ศักยภาพของ AI มีให้เห็นในบางฟีเจอร์ เช่น การตอบกลับข้อความใน GMAIL และ WHATSAPP แต่ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาโมเดลให้ ตอบสนองได้ดีขึ้น และมีประโยชน์มากขึ้นสำหรับชีวิตของผู้ใช้
ในส่วนของฟีเจอร์กล้อง และ AI ด้านการถ่ายภาพนั้น แม้ว่าจะดูยอดเยี่ยมในทางทฤษฎี เช่น การลบวัตถุในฉาก การเติมเนื้อหาด้วย GENERATIVE FILL หรือฟีเจอร์ “ADD ME” ที่เพิ่มตัวคุณลงในภาพ แต่เมื่อใช้งานจริง ฟีเจอร์เหล่านี้ยังคงอยู่ในช่วงพัฒนา
ไม่ได้หมายความว่า GOOGLE ล้าหลัง เพราะผู้ผลิตรายอื่น เช่น SAMSUNG ก็เผชิญปัญหาลักษณะเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ AI ที่มีประโยชน์มากที่สุดในปัจจุบันคือการบันทึกและแปลงข้อความอัตโนมัติในแอพพลิเคชัน RECORDER ของ GOOGLE ซึ่งพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ และหวังว่าความก้าวหน้านี้จะถูกนำมาใช้ในแอพพลิเคชัน PIXEL SCREENSHOTS ที่ออกแบบมาให้ AI ฉลาดขึ้น แต่ปัจจุบันยังจำกัดเพียงแค่การ “อ่าน” ข้อความในภาพสำหรับการค้นหา
สิ่งที่น่าประหลาดใจ คือ บางฟีเจอร์ AI ถูกลอคไว้หลังระบบสมาชิก GEMINI ADVANCED ซึ่งแม้จะได้รับฟรี 1 ปี เมื่อซื้อ PIXEL 9 PRO แต่หลังจากนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
แบทเตอรีที่พัฒนาขึ้น
การชาร์จแบบมีสายเพิ่มกำลังไฟจาก 30 วัตต์ เป็น 37 วัตต์ ซึ่งสามารถชาร์จแบทเตอรีได้ถึง 70 % ภายในเวลาเพียง 30 นาที อย่างไรก็ตาม ในกล่องไม่ได้แถมอแดพเตอร์มาให้ แต่ GOOGLE มีอแดพเตอร์ 45 วัตต์ จำหน่ายแยกต่างหาก
ราคา 18.99 ปอนด์/เดือน
นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่าอนาคตของสมาร์ทโฟนอาจพัฒนาไปในรูปแบบการสมัครสมาชิก
มุมมองที่ยอดเยี่ยม
แม้ว่าฟีเจอร์ AI ในการถ่ายภาพบางส่วนจะดูสนุก แต่สิ่งที่ทำให้ PIXEL 9 PRO โดดเด่น คือความสามารถของฮาร์ดแวร์กล้องที่ยอดเยี่ยม และการตั้งค่าที่หลากหลา ย แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์มากนักในแต่ละรุ่น แต่ระบบกล้องของรุ่นนี้ยังคงให้ผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ
GOOGLE ได้ออกแบบระบบประมวลผลภาพใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ประสบการณ์การถ่ายภาพเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพทั่วไป การใช้โหมด PRO หรือการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วย NIGHT SIGHT และ NIGHT SIGHT VIDEO
จุดเด่นของกล้อง 3 เลนส์ใน PIXEL 9 PRO ได้แก่ :
• เลนส์หลัก 50 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/1.7 และระบบกันสั่น OIS
• เลนส์ซูมออพทิคอล 5x ขนาด 48 ล้านพิกเซล พร้อม OIS
• เลนส์อุลทราไวด์ 48 ล้านพิกเซล
ผลลัพธ์จากเลนส์ทั้ง 3 ดูสอดคล้องกันอย่างดี เหมือนทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ การถ่ายภาพจากเลนส์ซูมแบบปริทรรศน์ให้ความพึงพอใจ โดยระบบกันสั่นทำงานได้ดีเยี่ยม ช่วยลดการสั่นไหวระหว่างถ่ายภาพ
แอพพลิเคชันกล้องยังช่วยเลือกโหมดอัตโนมัติ เช่น โหมดมาโครสำหรับภาพระยะใกล้ และ NIGHT SIGHT ในสภาวะแสงน้อย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ลอคโฟคัสแม้ว่าคุณจะเคลื่อนกล้องไปมา
ภาพถ่ายที่ได้มีความคมชัด และสว่าง แม้ในสภาวะแสงน้อย PIXEL 9 PRO ก็ยังคงสามารถถ่ายภาพที่มีรายละเอียดสูงได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ GOOGLE ยังสัญญาว่าจะอัพเดทฟีเจอร์ MAGIC EDITOR และซอฟท์แวร์ถ่ายภาพให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 7 ปี ทำให้ PIXEL 9 PRO เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในด้านการถ่ายภาพ
บทสรุป :
GOOGLE PIXEL 9 PRO มอบประสบการณ์ที่สมดุล ด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลัง และอายุการใช้งานแบทเตอรีที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าจะมีข้อเสีย เล็กน้อย เช่น มุมโค้งของหน้าจอ GEMINI AI ที่ยังพัฒนาได้อีก และระบบปรับแสงอัตโนมัติที่บางครั้งทำงานมากเกินไป แต่โดยรวมแล้ว นี่คือ หนึ่งในสมาร์ทโฟน ANDROID ที่ดีที่สุดที่เราเคยพบ
คะแนนสรุป :
ข้อดี : หน้าจอสวยงาม, ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น, กล้องยอดเยี่ยม, แบทเตอรีทนทาน
ข้อเสีย : ฟีเจอร์ AI ยังไม่สมบูรณ์
คำตัดสิน : สมาร์ทโฟนเรือธงปี 2024 ของ GOOGLE นำเสนอตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมแทน IPHONE
อุปกรณ์เสริมสำหรับ PIXEL 9 PRO
PIXEL BUDS PRO 2 ราคา 219 ปอนด์, store.google.com
เปิดตัวพร้อมกับ PIXEL 9 PRO หูฟังไร้สายระดับเรือธงของ GOOGLE ที่ยังไม่ได้วางจำหน่าย มาพร้อมคุณสมบัติเด่น เช่น การตัดเสียงรบกวนที่ยอดเยี่ยม การใช้งาน GEMINI แบบแฮนด์ฟรี และแบทเตอรีที่ใช้งานได้ยาวนาน
CASE-MATE LENS PROTECTOR ราคา 15.99 ปอนด์, case-mate.com
ด้วยการออกแบบแถบกล้อง (CAMERA BAR) ของ PIXEL 9 PRO ที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย ส่วนที่อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายที่สุด คือ เลนส์กล้อง เพื่อป้องกันความเสียหาย เราแนะนำให้ติดฟีล์มกันรอยเลนส์แบบง่ายๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ
GOOGLE 45W USB-C POWER CHARGER ราคา 29.99 ปอนด์, store.google.com
เพื่อใช้งานความสามารถในการชาร์จแบบมีสายของ PIXEL 9 PRO ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คุณจำเป็นต้องมีอแดพเตอร์ที่รองรับกำลังไฟฟ้า GOOGLE แนะนำอแดพเตอร์ USB-C ของตัวเองที่มีกำลังไฟ 45W ซึ่งเหมาะสมอย่างยิ่งกับอัตราการชาร์จ 37 วัตต์ ของโทรศัพท์
HORIZON เทคโนโลยีล่าสุดที่กำลังมุ่งหน้ามาหาคุณ
IPHONE 16 PRO/PRO MAX ราคาเริ่มต้นที่ 999 ปอนด์, apple.com
นี่คือ การเปิดตัวครั้งใหญ่ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงอาจดูเล็กน้อย เมื่อเราหยิบ PRO MAX รุ่นใหม่ขึ้นมา ซึ่งดูคล้ายกับรุ่นก่อนหน้า สิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจ คือ หน้าจอขนาด 6.9 นิ้ว นี่คือ หน้าจอที่ใหญ่ที่สุดของ APPLE และแม้ว่าตัวเครื่องจะใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่พื้นที่เพิ่มเติมนี้มาจากขอบจอที่บางลง ไม่ใช่ตัวเครื่องที่ใหญ่ขึ้น รุ่น PRO ที่มีหน้าจอ 6.3 นิ้ว ก็ใช้เทคนิคเดียวกัน APPLE บอกว่าพวกเขาได้ย้ายวงจรจอภาพจากขอบไปอยู่ใต้หน้าจอ เราอาจจะเห็นยุคที่ขอบจอหมดไปในอนาคตอันใกล้นี้
ปุ่มใหม่ : CAMERA CONTROL
ทุกรุ่น รวมถึงรุ่นที่ไม่ใช่ PRO มาพร้อมกับปุ่มใหม่ CAMERA CONTROL ซึ่งอยู่ใต้ปุ่มเปิด-ปิด เป็นปุ่มแบบสัมผัส/แรงกดที่ให้ประสบการณ์คล้ายปุ่มชัทเตอร์ในกล้อง SLR โดยสามารถกดเบา กดหนัก หรือปัดเพื่อเข้าถึงฟีเจอร์การถ่ายภาพต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้อาจเปลี่ยนวิธีการใช้ IPHONE ของคุณ และเราก็ใช้เวลาเพียง 20 วินาทีในการทำความเข้าใจ
APPLE ยังไม่พร้อมให้เราทดสอบ APPLE INTELLIGENCE AI ใหม่ทั้งหมด แต่สิ่งที่ได้ลอง เช่น ฟีเจอร์ PHOTO CLEAN UP ทำงานได้อย่างราบรื่น รวมถึง SIRI ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่ที่ดูโดดเด่น
รุ่นมาตรฐาน
แล้ว IPHONE รุ่นมาตรฐานล่ะ รุ่นนี้มีปุ่มใหม่ 2 ปุ่มเพิ่มขึ้นมา ได้แก่ CAMERA CONTROL และ ACTION BUTTON ซึ่งเดิมมีเฉพาะในรุ่น PRO นอกเหนือจากนั้น ทุกอย่างค่อนข้างเหมือนเดิม เป็นโทรศัพท์ที่ ทรงพลัง และคุ้นเคย มีดีไซจ์น และความรู้สึกแบบ IPHONE ซึ่งไม่ใช่ เรื่องแย่ เราพบว่ารุ่นนี้ยังคงตอบสนองได้ดี แม้ว่าจะยังใช้จอ 60HZ
มีการอัพเดทภายนอก เช่น สีใหม่ที่สดใส และดีไซจ์นกล้องหลังที่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ยังใช้ชิพเซท A18 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แม้ว่า PRO จะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ แต่รุ่นมาตรฐานก็ไม่ได้ถูกมองข้าม การเปรียบเทียบกับรุ่นปีก่อนจะต้องรอดูต่อไป
NEW PROCESSOR
ระยะเวลาทดสอบที่จำกัดไม่เพียงพอให้เราได้ทดลองเล่นเกม AAA อย่างเต็มที่ แต่ชิพเซท A18 PRO รุ่นใหม่สามารถประมวลผลงานที่ใช้ APPLE INTELLIGENCE AI ได้อย่างรวดเร็ว และโดยรวมแล้วโทรศัพท์ให้ความรู้สึกตอบสนองได้ดี ระบบจัดการความร้อนใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด เราคิดว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะผลักดันให้เครื่องทำงานหนัก เกินไป
CAMERA BUMP
ทั้ง 16 PRO และ PRO MAX มาพร้อมกับระบบซูมแบบ 5 เท่า TETRA PRISM รุ่นใหม่ของ APPLE และเซนเซอร์กล้อง ULTRA-WIDE ความละเอียด 48MP ใหม่ เราได้ถ่ายภาพตัวอย่างบางส่วน ซึ่งดูดีบนหน้าจอ และเห็นได้ชัดว่ากล้องหลัก 48MP มีความเร็วชัทเตอร์ที่ไวขึ้น แต่เรา ต้องรอการรีวิวฉบับเต็มเพื่อวิเคราะห์ผลการถ่ายภาพอย่างละเอียด
APPLE WATCH SERIES 10 ราคาเริ่มต้นที่ 399 ปอนด์, apple.com
หน้าจอ คือ จุดเด่นของ APPLE WATCH 10 ไม่ใช่แค่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ดู น่าสนใจ แต่ขนาด 46 มม. (ใหญ่กว่าหน้าจอของ APPLE WATCH ULTRA 2 ด้วยซ้ำ) ทำให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น แม้จะเป็นแอพพลิเคชันที่ต้องการความละเอียดอ่อน เช่น เครื่องคิดเลข
เทคโนโลยีจอ LTPO-3 WIDE-ANGLE OLED ใหม่ มาพร้อมความสว่างสุดยอด คมชัด สีสดใส และมองเห็นได้ชัดเจนแทบทุกมุมมอง ยิ่งเมื่ออัพเดทแบบ 1HZ คุณสามารถเห็นการเดินของวินาทีได้อย่างชัดเจน
ตัวเรือนบางลง 1MM เมื่อเทียบกับ SERIES 9 ซึ่งแม้จะฟังดูเล็กน้อย แต่ส่งผลต่อความรู้สึกมาก และดูหรูหรามาก โดยเฉพาะในรุ่นวัสดุ TITANIUM พร้อมสี SLATE FINISH
ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทดสอบ ทั้งการชาร์จที่เร็วขึ้น ลำโพงที่ทรงพลังขึ้น และฟังค์ชันสุขภาพใหม่ๆ ซึ่งอยู่ภายใต้ประสิทธิภาพของชิพ S10 เราตื่นเต้นที่จะเจาะลึกเพิ่มเติม
APPLE AIRPODS 4 เริ่มต้นที่ 129 ปอนด์, apple.com
นี่คือ เรื่องราวของ 2 โมเดลที่แตกต่างกัน ได้แก่ AIRPODS 4 และ AIRPODS 4 WITH ACTIVE NOISE CANCELLATION (ANC) ใช่แล้ว ทั้ง 2 รุ่นดูเหมือนกัน และยังคงรูปลักษณ์คลาสสิคของ AIRPODS
ทั้ง 2 รุ่นใช้ชิพ H2 PROCESSOR ที่ถ่ายทอดมาจากรุ่น AIRPODS PRO รองรับระบบเสียง SPATIAL AUDIO และมาพร้อมเคสที่บางเฉียบ แต่ระหว่าง 2 รุ่นนี้มีความแตกต่างกันทั้งราคา และฟีเจอร์
รุ่น ANC มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจะทำงานได้ดีแค่ไหนเมื่อไม่มีจุกยางกันเสียง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเคสที่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย และลำโพงที่ใช้งานร่วมกับ FIND MY ได้ ซึ่งน่าจะคุ้มค่า ที่จะอัพเกรด
ชิพ H2 ที่ถูกถ่ายทอดมายัง AIRPODS 4 ทำให้เราอาจได้เห็น AIRPODS PRO รุ่นใหม่ที่ใช้ชิพ H3 ในเร็วๆ นี้
BANG & OLUFSEN BEOPLAY H100 ราคา 1,299 ปอนด์, bang-olufsen.com
เริ่มกันที่ราคาก่อน นี่คือ หูฟังที่แพงที่สุดในตลาดหูฟังที่ไม่ใช่สายบูทิค เท่าที่เราทราบ ราคานี้สูงกว่ารุ่น AIRPODS MAX ของ APPLE ถึง 2 เท่าครึ่ง ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยสำหรับสายผลิตภัณฑ์ BEOPLAY สุดหรูของ B&O
ในราคานี้ คุณจะได้รับ TITANIUM DRIVERS, หนังแกะ และหนังวัวคุณภาพสูง, อลูมิเนียมจำนวนมาก และเทคโนโลยี ANC รุ่นล่าสุดของ B&O ตัวหูฟังออกแบบแบบโมดูลาร์ ทำให้ทุกส่วนตั้งแต่หนังไปจนถึงดไรเวอร์สามารถเปลี่ยนได้ นี่อาจช่วยให้ราคานี้ดูน่าลงทุนขึ้น
B&O ยังบอกอีกว่าคุณอาจสามารถอัพเกรดชิ้นส่วนในอนาคต เช่น ดไรเวอร์ใหม่ หรืออีเลคทรอนิคส์ที่ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อ ทำให้ BEOPLAY H100 เป็นการลงทุนระยะยาวอย่างแท้จริง
REMARKABLE PAPER PRO ราคา 559 ปอนด์, remarkable.com
เราเคยลองแทบเลทจอ E-INK เกือบทุกรุ่นที่ T3 และไม่มีรุ่นไหนที่ทำได้ลงตัว ทั้งการออกแบบ การตอบสนอง และซอฟท์แวท์ที่ยอดเยี่ยมเท่ากับ REMARKABLE 2 รุ่น PAPER PRO ลดความหน่วงระหว่างปากกากับหน้าจอลงไปอีก เหลือเพียง 12MS ซึ่งแทบจะไม่รู้สึกเลย หมึกบนหน้าจอจะอยู่ห่างจากปลายปากกาไม่ถึง 1 มม. แม้จะขีดเขียนอย่างรวดเร็ว
แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นนี้คือ สี : REMARKABLE ได้พัฒนาจอ CHROMATIC E-PAPER DISPLAY ใหม่ ที่เหมาะสำหรับการไฮไลท์โน้ต หรืออ่านเอกสารสี ถึงแม้จะไม่สดใสมาก แต่เราขอยกย่องว่า บริษัทนี้มีความน่าเชื่อถือที่สุดในการพัฒนาจอ E-INK สี
ACER NITRO BLAZE 7 ราคารอประกาศ, acer.com
เพื่อไม่ให้ตกขบวนการแข่งขันด้าน PC รุ่นล่าสุด ACER ได้เปิดตัวเครื่อง HANDHELD PC รุ่นแรกของบริษัท รุ่นนี้มาพร้อมระบบควบคุมที่ตัดทอนลงเล็กน้อย โดยไม่มี TOUCHPADS หรือปุ่มด้านหลัง ซึ่งมักไม่ได้ใช้งานมากนักในอุปกรณ์อย่าง STEAM DECK แต่เพิ่มปุ่มสำหรับเปิดใช้งาน ON-SCREEN KEYBOARD โดยเฉพาะ
อีกหนึ่งความแตกต่างจากมาตรฐานปัจจุบัน คือ ACER เลือกใช้ RYZEN 7 8804HS แทนที่จะเป็นพโรเซสเซอร์ ซีรีส์ Z ของ AMD รุ่นนี้มาพร้อมฟีเจอร์ AI (แม้จะไม่ได้จำเป็นนัก) และยังมีประสิทธิภาพด้านกราฟิคแบบรวมที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อรองรับจอ 144HZ VRR
บททดสอบจริงจะอยู่ที่อายุการใช้งานแบทเตอรี ราคา และวันที่วางจำหน่าย ซึ่งยังคงเป็นปริศนาในขณะนี้ ด้วยตลาดที่มีการแข่งขันสูง หวังว่าแนวทางการปรับแต่งของ ACER จะช่วยให้รุ่นนี้โดดเด่น
KLIPSCH FLEXUS CORE 300 ราคาประมาณ 760 ปอนด์, klipsch.com
สมาชิกใหม่ในไลน์ FLEXUS ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านลำโพง KLIPSCH กับผู้เชี่ยวชาญด้าน A/V ONKYO นี่ไม่ใช่แค่ SOUNDBAR ธรรมดา (โอเค มันก็ใช่) แต่มันคือ SOUNDBAR รุ่นแรกที่นำเทคโนโลยี DIRAC LIVE ROOM CORRECTION TECHNOLOGY เข้ามาใช้ เทคโนโลยีนี้เป็นอัลกอริธึมการปรับเสียงในห้องที่ก่อนหน้านี้สงวนไว้สำหรับอุปกรณ์ไฮเอนด์ระดับสูง
FLEXUS CORE 300 มอบเสียงเบสส์ที่แน่นขึ้น เสียงที่โปร่งใส และความชัดเจนที่ SOUNDBAR รุ่นอื่นได้แค่ฝันถึง ด้วยระบบเสียง 5.1.2 TRUE SETUP เรามั่นใจในประสิทธิภาพของรุ่นนี้ โดยอิงจากผลงานที่ยอดเยี่ยมของรุ่นเล็กในตระกูลเดียวกัน
รุ่นนี้รองรับ DOLBY ATMOS และหากมันไม่ได้ยอดเยี่ยมจริง คงมีอะไรบางอย่างผิดพลาดอย่างแน่นอน
HYUNDAI N VISION 74 ราคา: รอประกาศ, Hyundai-n.com
การปฏิวัติรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในหลายด้าน หนึ่งในนั้น คือ การผลักดันให้เกิดการออกแบบที่แปลกใหม่และแนวคิดที่ล้ำสมัย HYUNDAI ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดด้วยการประกาศผลิตรถแนวคิด N VISION 74 ให้กลายเป็นรถจริงที่พร้อมวิ่งบนท้องถนนภายในสิ้นทศวรรษนี้
รถรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแนวคิด PONY COUPE ของบริษัทในปี 1974 และมาพร้อมดีไซจ์นทรงเหลี่ยมที่ดูทรงพลัง รถรุ่นนี้ไม่ใช่ EV เต็มรูปแบบ โดยเห็นได้จากช่องอากาศที่มีอยู่มากมาย HYUNDAI อธิบายว่ารถรุ่นนี้เป็น “HIGH-PERFORMANCE ROLLING LAB รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยี HYDROGEN FUEL CELL ที่ล้ำหน้าที่สุด” พร้อมแบทเตอรีความจุ 62.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ชาร์จได้รวดเร็ว และไฮโดรเจน 4.2 กก. ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 599 กม.
NEST LEARNING THERMOSTAT (4TH GEN) ราคารอประกาศ, nest.com
เรารอคอยเกือบ 10 ปีสำหรับ NEST LEARNING THERMOSTAT รุ่นใหม่ และแน่นอนว่า NEST THERMOSTAT 2020 ไม่นับ เพราะมันไม่ได้มีฟีเจอร์ LEARNING รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับยุคของ AI GOOGLE ได้นำความอัจฉริยะกลับมาอีกครั้ง
อุปกรณ์นี้มาพร้อม SOLI RADAR SENSOR เพื่อการตรวจจับการเคลื่อนไหวที่แม่นยำยิ่งขึ้น รองรับ MATTER เพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี SMART HOME รุ่นล่าสุด และมี NEST TEMPERATURE SENSOR รุ่นที่สองเพื่อช่วยตรวจวัดอุณหภูมิในห้องที่คุณต้องการ นอกจากนี้ ยังเพิ่มฟีเจอร์ AI AGENCY ที่ปรับการทำงานให้เหมาะสม และให้คุณควบคุมการตัดสินใจของระบบได้อย่างโปร่งใส
GARMIN FENIX 8 ราคาเริ่มต้นที่ 869 ปอนด์, garmin.com
สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ในไลน์ FENIX ของ GARMIN มาพร้อมคุณสมบัติ ที่จริงจัง และราคาที่เหมาะสำหรับนักผจญภัยตัวจริง ราคานี้ให้คุณสมบัติที่อาจทำให้ APPLE WATCH ULTRA ต้องหลีกทาง
หน้าจอ AMOLED ใหม่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่หากเลือกหน้าจอ MIP คุณจะได้รับฟีเจอร์ชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยให้แบทเตอรีใช้งานได้สูงสุด 29 วัน สำหรับ AMOLED และ 48 วัน สำหรับ MIP แม้เปิดหน้าจอตลอดเวลา
ภายในยังเพิ่มโหมดการฝึกใหม่ ฟังค์ชันแผนที่สำหรับนักวิ่งที่ชอบหลงทาง และโหมดดำน้ำที่รองรับความลึก 40 ม. ขนาดเริ่มต้นที่ 43 มม. ที่ราคา ข้างต้น และเพิ่มขึ้นเป็น 47 มม. และ 51 มม. สำหรับผู้ที่ต้องการความใหญ่