น่ายินดีที่ทุกวันนี้ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ ไม่ได้ก้มหน้าก้มตาผลิตรถแข่งกันลูกเดียว แต่ยังนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมทันสมัยที่มีอยู่ในมือมากมาย มาสร้างสรรค์สิ่งอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์กับโลก เช่น โครงการ WOVEN CITY ของ TOYOTA
WOVEN CITY คือ ชื่อเมืองอัจฉริยะ ที่ TOYOTA สร้างขึ้นบริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ในจังหวัดชิซุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ตั้งโรงงาน ฮิงาชิ-ฟูจิ ของ TOYOTA มีพื้นที่ทั้งหมดราว 700,000 ตารางเมตร (2 เท่าของสวนลุมพินี) รองรับประชากรประมาณ 2,000 คน ซึ่งจะเริ่มทยอยเข้าอยู่ในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักวิจัย พนักงาน TOYOTA และครอบครัว ตลอดจนผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลพิเศษ
เป้าหมายหลักของ WOVEN CITY คือ เป็น “ห้องปฏิบัติการที่มีชีวิต” สำหรับการพัฒนา และทดลองนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการใช้พลังงาน เทคโนโลยีการขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน INTERNET OF THINGS (IoT)
เมืองอัจฉริยะนี้ออกแบบโดย BJARKE INGELS (บยาร์เก อิงเกลส์) สถาปนิกชื่อดังชาวเดนมาร์ค ซึ่งใช้แนวทางผสมผสานความทันสมัยเข้ากับธรรมชาติ
ชื่อของเมืองมาจากแนวคิดการ “ถักทอ” (WOVEN) ชุมชน ที่อยู่อาศัย การเดินทาง และเทคโนโลยี เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน โดยประชากรใน WOVEN CITY จะถูกเรียกว่า WEAVERS
ถนนในเมืองแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ถนนสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ถนนสำหรับจักรยาน และยานพาหนะขนาดเล็ก และทางสำหรับคนเดินเท้า การออกแบบเน้นเรื่องความปลอดภัย และการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
อาคารส่วนใหญ่ จะสร้างด้วยไม้ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน ซึ่งรวมถึงการใช้พลังงานสะอาด จากแสงอาทิตย์ และไฮโดรเจน เป็นแหล่งพลังงานหลักของเมือง
จุดเด่นอีกอย่างของเมืองนี้ คือ การใช้เทคโนโลยี AI ในการบริหารจัดการ เช่น บ้านอัจฉริยะ ที่เรียนรู้พฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย และปรับตัวให้เหมาะสม รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ สำหรับให้บริการขนส่ง ระบบเครือข่ายข้อมูล ที่เชื่อมต่อทุกส่วนของเมือง เพื่อวิเคราะห์ และปรับปรุงการดำเนินชีวิต
นอกจากนี้ WOVEN CITY ยังใช้หุ่นยนต์ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของเหล่า WEAVERS เช่น ส่งของ ปรนนิบัติผู้สูงอายุ และดูแลพื้นที่สาธารณะ
WOVEN CITY จึงไม่ได้เป็นเพียงโครงการสร้างเมืองอัจฉริยะ สำหรับทดลองเทคโนโลยี เพื่อนำไปพัฒนารถยนต์เท่านั้น แต่ยังเป็นการนำเสนอวิถีชีวิตที่บูรณาการเทคโนโลยีขั้นสูง เข้ากับความยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ของ TOYOTA อย่างเป็นรูปธรรม
และคงดีที่สุด ถ้า WOVEN CITY จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นต้นแบบการพัฒนาเมืองอื่นๆ ทั่วโลกในอนาคต