ฉบับนี้ผมขอพูดถึงรถยนต์ค่าย MAZDA (มาซดา) นะครับ เพราะเขาเพิ่งจัดงานแถลงข่าวใหญ่ประจำปี 2568 เรื่องประกาศแนวทางการดำเนินธุรกิจครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศไทย สาระสำคัญอยู่ตรงที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า, ตัวแทนจำหน่าย และเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ
การแถลงข่าวครั้งนี้ มาซาฮิโร โมโร ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ MAZDA MOTOR CORPORATION พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงทั้งจากญี่ปุ่น และไทย ร่วมแถลงวิสัยทัศน์ครั้งสำคัญนี้
ประเด็น คือ MAZDA พร้อมเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สู่อนาคตที่ยั่งยืนภายใต้ธีม THE FUTURE, CRAFTED BY THE JOY OF DRIVING ชูวิสัยทัศน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ เพื่อส่งมอบการขับขี่ที่ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นมัลทิ-โซลูชัน ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ภายใน 3 ปีต่อจากนี้ จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่หลากหลายรูปแบบของพลังงาน 5 รุ่น เป้าหมาย คือ นำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้าตามภาพรวมของ MAZDA ทั่วโลก ที่บอกไว้ว่า จะนำเสนอรถไฟฟ้าในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งภายในปี 2573 รวมถึงรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่มาพร้อมพลังงานไฟฟ้า และคาดว่ายอดจำหน่ายของรถ BEV จะอยู่ที่ประมาณ 25-40 % ของยอดจำหน่ายทั่วโลก ซึ่ง MAZDA เองก็กำหนดทิศทางธุรกิจสู่ยานยนต์ไฟฟ้าเช่นกัน
แผนงานถูกแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรก เป็นการเตรียมความพร้อม เฟส 2 เป็นการเปลี่ยนผ่านแบบค่อยเป็นค่อยไป และเฟส 3 เป็นการแนะนำรถไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งแน่นอนว่า รูปแบบของรถที่ใช้พลังงานทางเลือกใหม่ ได้แก่ MHEV, HEV, PHEV, BEV, R-EV และรถยนต์ที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน จะทยอยเปิดตัวสู่สาธารณชนในอนาคตอันใกล้นี้
แผนการนำเสนอรถไฟฟ้าสำหรับตลาดประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดหลักที่สำคัญ มีการเร่งแผนเปิดตัวรถไฟฟ้าให้เร็วขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยวางแผนแนะนำรถไฟฟ้าในประเทศไทย ให้เป็นไปตามกลยุทธ์ 3 เฟส ซึ่งเฟส 2 จะเปิดตัวเทคโนโลยีรถไฟฟ้า ทั้งรูปแบบ BEV, PHEV, HEV ตั้งแต่ปี 2568-2570 และปลายปีนี้ เตรียมเปิดตัว MAZDA 6E รถสปอร์ทซีดานที่เกิดจากความร่วมมือกับ CHANGAN (ฉางอัน) หนึ่งในค่ายรถยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน
ส่วนแผนการลงทุนเพิ่มอีก 5,000 ล้านบาท เพื่อสร้างไทยให้เป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกรถไฟฟ้าคอมแพคท์เอสยูวี ตั้งเป้าหมายการผลิตไว้ 100,000 คัน/ปี โดยมุ่งเน้นไปที่การประกอบรถยนต์, การผลิตเครื่องยนต์, เกียร์ และแบทเตอรี
นอกจากนี้ ยังมีแผนการปรับโครงสร้าง และพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย ปัจจุบันในกรุงเทพฯ และปริมณฑล MAZDA มีผู้จำหน่ายทั้งหมด 19 โชว์รูม มีความสามารถรองรับการบริการลูกค้าได้ถึง 250,000 ราย/ปี หรือมากกว่า 20,000 คัน/ปี ส่วนต่างจังหวัดกำลังเร่งพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายที่มีอยู่ 65 แห่งทั่วประเทศ ให้รองรับการบริการได้ 450,000 คัน/ปี หรือมากกว่า 37,000 คัน/เดือน ภาพรวมทั่วประเทศ MAZDA มีลูกค้ากว่า 250,000 คัน แผนที่ว่านี้ คือ แผนงานที่เตรียมไว้สำหรับการเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ ที่พร้อมเปิดตัวระหว่างปี 2568-2570 จะมีรถแบบ BEV 2 รุ่น PHEV 1 รุ่น และ HEV อีก 2 รุ่น
แต่น่าแปลกใจ คือ แผนงานสำหรับรถกระบะ ยังไม่มีความเคลื่อนไหว หลังจากที่แนะนำ BT-50 (บีที-50) โฉมใหม่ ที่เปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร และเกียร์ใหม่
สรุปประเด็นสำคัญ คือ MAZDA ประกาศปักหมุดประเทศไทย เดินหน้าลุยต่อ ทุ่มเงินลงทุนเพิ่มกว่า 5,000 ล้านบาท, สร้างฐานการผลิต xEVs, เตรียมผลิตรถพลังงานไฟฟ้าคอมแพคท์เอสยูวี 100,000 คัน/ปี, เตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 5 รุ่น ภายใน 3 ปี และไร้เงารถกระบะรุ่นใหม่ !