แวดวงรถยนต์
ไมเคิล เวทเตอร์ กรรมการผู้จัดการ PORSCHE ประเทศไทย
ไมเคิล เวทเตอร์ กรรมการผู้จัดการ PORSCHE ประเทศไทย แม่ทัพที่จะนำ PORSCHE (โพร์เช) สู้ศึกในตลาดรถหรูบ้านเรา
4WHEELS : ประวัติการทำงานกับ PORSCHE และผลงานที่ประสบความสำเร็จ ?
เวทเตอร์ : ผมเริ่มร่วมกับ PORSCHE ที่ PORSCHE AG และ PORSCHE ASIA PACIFIC และได้มีบทบาทในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งการเสริมสร้าง และขยายบแรนด์ PORSCHE ในตลาดเกาหลีใต้ กัมพูชา อินโดนีเซีย และ EUROKARS GROUP INDONESIA รับผิดชอบการบริหาร และพัฒนาบแรนด์ PORSCHE, BENTLEY (เบนท์ลีย์) และ ROLLS-ROYCE (โรลล์ส-รอยศ์)
หนึ่งในความสำเร็จที่ผมภาคภูมิใจที่สุด คือ การเสริมสร้างความเชื่อมั่น และการจดจำบแรนด์ PORSCHE ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่อย่างเกาหลีใต้ กัมพูชา และอินโดนีเซีย ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการขยายตัวของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และก่อให้เกิดความภักดีต่อบแรนด์ในกลุ่มลูกค้าอย่างมั่นคงตลอด 2 ทศวรรษที่ผ่านมา รวมถึงการมีส่วนช่วยให้ PORSCHE กลายเป็นบแรนด์หรูชั้นนำในหลายประเทศ พร้อมได้ส่งเสริมการเติบโตของบแรนด์ในด้านยานยนต์ไฟฟ้า และนวัตกรรมดิจิทอล
4WHEELS : ปรัชญาการบริหารงานที่จะนำมาใช้กับ PORSCHE ประเทศไทย ?
เวทเตอร์ : ผมจะนำปรัชญาการเป็นผู้นำที่มุ่งเน้นการเสริมศักยภาพให้แก่ทีม ส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านความร่วมมือ และประสบการณ์ของลูกค้า พร้อมรักษามาตรฐานด้านคุณภาพที่เป็นมรดกอันแข็งแกร่ง และวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของ PORSCHE อย่างแท้จริง
4WHEELS : นโยบาย และทิศทางการตลาดของ PORSCHE ประเทศไทย ?
เวทเตอร์ : PORSCHE เป็นรถยนต์ที่ต้องสัมผัสด้วยตัวเอง ถึงจะเข้าใจในสมรรถนะ และจิตวิญญาณของบแรนด์อย่างแท้จริง เราจึงให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์การขับขี่ PORSCHE ให้ทั้งลูกค้าปัจจุบัน และกลุ่มเป้าหมายในอนาคต ผ่านกิจกรรมหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนถนนปกติ ทางออฟโรด การรวมตัวของผู้ใช้ในรูปแบบคอมมูนิที ไปจนถึงการขับในสนามแข่ง โดยเน้นกลยุทธ์สร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบเอกซ์คลูซีฟ เพื่อจุดประกายความหลงใหลในรถยนต์ทั้ง 6 รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้ และแรงดึงดูดต่อบแรนด์ผ่านกิจกรรม คอมมูนิที และแคมเปญดิจิทอล
4WHEELS : PORSCHE ประเทศไทย มีแผนการลงทุนเพิ่มเติมในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าอย่างไร ?
เวทเตอร์ : PORSCHE มุ่งมั่นเติบโตในระยะยาว ด้วยการขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย และศูนย์บริการ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น สถานีชาร์จเร็ว และการผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทอลภายในองค์กร อีกทั้งเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับลูกค้า PORSCHE ทุกคนในประเทศไทยมากขึ้น เราจึงวางแผนจะเปิด PORSCHE CENTRE แห่งใหม่ต่อเนื่องในทุกปี
ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา PORSCHE เดินหน้าขยาย และยกระดับมาตรฐานศูนย์บริการทั่วประเทศ และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการฝึกอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษามาตรฐานการให้บริการระดับโลก โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2024 เปิด PORSCHE CENTRE BANGNA และในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่งเปิด PORSCHE CENTRE PATTAYA ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่จะใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น และยกระดับการบริการให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
4WHEELS : พฤติกรรมของลูกค้าในประเทศไทยเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับตลาดต่างประเทศ ?
เวทเตอร์ : ลูกค้าชาวไทยให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ประสบการณ์ดิจิทอล และการบริการแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น ซึ่งเป็นแนวโน้มที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ก็มีลักษณะเฉพาะของไทยที่แตกต่าง ทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับตลาดไทยโดยเฉพาะ ซึ่งสำหรับประเทศไทย กลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จควรมีความสมดุลระหว่างความพรีเมียม และความเข้าถึงได้ แม้ว่า PORSCHE จะเป็นบแรนด์ระดับพรีเมียม แต่ลูกค้าชาวไทยให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ ความอบอุ่น และการมีประสบการณ์ร่วมกัน ดังนั้น เราจึงเชื่อว่าการสร้างประสบการณ์ที่คัดสรรมาอย่างดีในแนวไลฟ์สไตล์ เช่น โรดทริพ ทริพวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ จะสามารถเชื่อมโยงกับความชอบของคนไทยได้ สิ่งสำคัญ คือ การ “โลคัลไลซ์” เช่น การร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ไทย การใช้คอนเทนท์ภาษาไทยที่เล่าเรื่องอย่างจริงใจ และการเข้าใจความแตกต่างของแต่ละภูมิภาค ทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และพัทยา นอกจากนี้ เรายังมองเห็นโอกาสในการผสานนวัตกรรมดิจิทอลเข้ากับกิจกรรมแบบพบปะจริงเพื่อสร้างความผูกพันระยะยาวกับคนไทย
4WHEELS : PORSCHE จะรักษาความเป็นผู้นำในตลาดรถหรูไว้อย่างไร ?
เวตเตอร์ : ความเป็นผู้นำของ PORSCHE ในตลาดรถยนต์หรูเกิดจากการออกแบบที่เหนือกาลเวลา สมรรถนะที่ไร้เทียมทาน และการมุ่งมั่นในนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรักษา และเสริมความแข็งแกร่งในตำแหน่งนี้ เราจะยังคงลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทอล โดยยังคงยึดมั่นในจิตวิญญาณของบแรนด์
สำหรับประเทศไทย เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ซึ่งไม่ใช่แค่การนำเสนอรถยนต์หลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำผ่านกิจกรรมสุดเอกซ์คลูซีฟ การสร้างชุมชนผู้รัก PORSCHE และบริการแบบเฉพาะบุคคล ด้วยการผสมผสานจุดแข็งในระดับโลกเข้ากับความเข้าใจเชิงลึกในความต้องการของลูกค้าไทย เราเชื่อว่า PORSCHE จะยังคงเป็นมาตรฐานของบแรนด์รถสปอร์ทหรูต่อไปในอนาคต
4WHEELS : PORSCHE มีบริการเสริมอะไรบ้าง ?
เวทเตอร์ : สำหรับ PORSCHE การให้บริการที่ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล คือ หัวใจสำคัญของการดูแลลูกค้า และงานบริการหลังการขาย PORSCHE ที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า โดยบริการที่โดดเด่น คือ การขยายระยะเวลารับประกันรถยนต์ PORSCHE ภายใต้พโรแกรม PORSCHE APPROVED WARRANTY ซึ่งสามารถขยายได้นานสูงสุดถึง 15 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ เรายังมีบริการปรับแต่งรถยนต์ใหม่ตามความต้องการของลูกค้า ผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านการขายที่ได้รับการรับรองจาก PORSCHE และทีม PORSCHE PRO ที่พร้อมให้คำปรึกษาที่โชว์รูมทั้ง 6 แห่งทั่วประเทศ หรือแม้แต่จากบ้านของลูกค้า ผ่านระบบออนไลน์ เช่น พโรแกรม EXCLUSIVE MANUFAKTUR ที่มีตัวเลือกพิเศษอย่าง “PAINT TO SAMPLE” สีพิเศษที่สามารถปรับแต่งเฉพาะบุคคล ฯลฯ
สำหรับลูกค้าที่เป็นเจ้าของรถอยู่แล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม TEQUIPMENT ซึ่งเปิดโอกาสให้เจ้าของรถสามารถปรับแต่งรถของตนได้ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่ง หรือชุดเพิ่มสมรรถนะที่ผ่านการรับรองจาก PORSCHE โดยเฉพาะ
เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียแปซิฟิค ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก PORSCHE AG ประเทศเยอรมนี ให้เป็น “PORSCHE CLASSIC PARTNER” ซึ่งสะท้อนถึงความใส่ใจของเราในการดูแลรถ PORSCHE รุ่นคลาสสิค และเจ้าของรถเหล่านี้อย่างจริงจัง โดย PORSCHE ประเทศไทย มีแผนจะขยายกิจกรรมในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่องในอนาคต
4WHEELS : ปัจจุบัน PORSCHE มีรถจำหน่ายในไทยกี่รุ่น รุ่นใดได้รับความนิยมสูงสุด ?
เวทเตอร์ : 911/718/PANAMERA (พานาเมรา) MACAN (มาคัน) TAYCAN (ไทย์คาน) CAYENNE (คาเยนน์) โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ CAYENNE ที่ลูกค้าชาวไทยจะชื่นชอบในดีไซจ์นที่โดดเด่น สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และความอเนกประสงค์ ที่ตอบโจทย์ทั้งการขับขี่ในเมือง และการเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้ CAYENNE เป็นรถเอสยูวีหรูที่ลงตัวทั้งในด้านประสิทธิภาพ และไลฟ์สไตล์
พร้อมกันนี้ การเปิดตัว CAYENNE รุ่นที่ประกอบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (REGIONAL ASSEMBLY) ยิ่งช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้า โดยยังคงคุณภาพตามมาตรฐาน PORSCHE ซึ่งปัจจัยนี้มีส่วนอย่างมากในการผลักดันให้ CAYENNE ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดไทย
4WHEELS : คุณมองว่ายานยนต์ไฟฟ้า เหมาะสมกับตลาดเมืองไทยหรือไม่ และรถยนต์รุ่นใหม่ของ PORSCHE จะตอบสนองทิศทางการใช้พลังงานประเภทใด ?
เวทเตอร์ : ตลาดไทยเริ่มมีความพร้อมมากขึ้นสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ทั้งในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังขยายตัว ความตระหนักรู้ของผู้บริโภค และแรงผลักดันจากภาครัฐที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ที่สำคัญ ลูกค้าชาวไทยโดยเฉพาะในเขตเมืองเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และให้ความสนใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับ PORSCHE เรายึดมั่นในกลยุทธ์ด้านการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าระดับโลก โดยไลน์อัพในอนาคตจะยังคงมีรุ่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่น่าตื่นเต้น เช่น TAYCAN และ MACAN รถไฟฟ้าใหม่ล่าสุด ขณะเดียวกัน เรายังขยายกลุ่มรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด เช่น PANAMERA 4 E-HYBRID เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกที่เหมาะสมในช่วงที่ระบบนิเวศของ EV กำลังเติบโต เครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งของเราในระยะใกล้