เตรียมเปิดตัววันที่ 25 กันยายน 2568 แต่นิตยสาร 4 WHEELS ฉบับตุลาคมเล่มนี้ เราวางแผงหนังสือตั้งแต่ช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ฉะนั้นข้อเขียนต่อจากนี้ จะเป็นการคาดการณ์ข้อมูลล่วงหน้าของ SUZUKI FRONX (ซูซูกิ ฟรองซ์) รถเอสยูวี B-SEGMENT ที่จะเป็นความหวังครั้งสำคัญของ ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย)ฯ
หลายสำนักรวมถึงเรา คาดว่าถ้าเปิดราคารุ่นเริ่มต้น 6 แสนกว่าบาท รถรุ่นนี้ยังแข่งขันในตลาดรถเอสยูวีกลุ่มนี้ได้อยู่ เมื่อเทียบกับ JAECOO 5 EV (เจคู 5 อีวี) รถไฟฟ้าที่นำเข้าจากจีน เปิดขายราคาพิเศษช่วงแนะนำ 549,000-599,000 บาท เล่นเอาตลาดแตก สร้างความปั่นป่วนให้แก่รถ EV จากจีนด้วยกันเอง และส่งผลกระทบไปหารถ ICE โดยเฉพาะกลุ่มอีโค คาร์ โดนเต็มๆ !
การมาของ SUZUKI FRONX เปิดตัวทั้งรุ่น ICE และ MILD HYBRID ระยะเวลา 4 เดือน นับจากเดือนกันยายน-ธันวาคมปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายไว้ 2,000 คันเฉพาะรุ่นนี้ แต่ถ้ารวมทุกรุ่นของ SUZUKI ปีนี้ตั้งเป้าไว้ 8,000 คัน ถามว่ามีรุ่นไหนบ้างที่นำเข้าจากอินโดนีเซีย มาปรับเวอร์ชันในแบบที่คนไทยชอบ ตอบเลยครับว่า มีทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1.5 AT และ DUAL JET 1.5 MILD HYBRID 6 AT ซึ่งที่อินโดนีเซียเปิดตัวไปก่อนหน้าประเทศไทย ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
สเปคของอินโดนีเซีย ขุมพลังวางเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร กระบอกสูบxระยะช่วงชัก 74.0x85.0 อัตราส่วนกำลังอัด 10.5:1 กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 138 นิวทันเมตร/14.1 กก.ม. ที่ 4,400 รตน. จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ/อัตโนมัติ 4 จังหวะ และขับเคลื่อนล้อหน้า
ส่วนรุ่น MILD HYBRID วางเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K15C DUAL JET ขนาด 1.5 ลิตร กระบอกสูบxระยะช่วงชัก 74.0x85.0 อัตราส่วนกำลังอัด 12.0:1 กำลังสูงสุด 101 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 135 นิวทันเมตร/13.8 กก.ม. ที่ 4,400 รตน. ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า WA06A กำลัง 3.1 แรงม้า ที่ 800-1,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 60 นิวทันเมตร ที่ 100 รตน. คล้ายๆ รุ่น ERTIGA (แอร์ติกา) และ ERTIGA HYBRID (แอร์ติกา ไฮบริด) ในบ้านเรา
ระบบ SHVS (SUZUKI HYBRID VEHICLE SYSTEM) เป็นระบบ MILD HYBRID 12V ISG (INTEGRATED STARTER GENERATION) ช่วยในการออกตัว และเร่งแซง จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ/อัตโนมัติ 6 จังหวะ และขับเคลื่อนล้อหน้าเช่นกัน
ไฮไลท์หลักๆ ของตัวรถ อยู่ที่ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS ที่รอบนี้น่าจะมาแบบจัดเต็ม และมาพร้อมระบบอื่นๆ เช่น ระบบ ADAPTIVE CRUISE CONTROL, LANE KEEPING ASSIST, LANE DEPARTURE WARNING, BLIND SPOT MONITORING, RCTA หรือระบบอื่นๆ ระบบเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้ คือ สิ่งที่แฟนๆ ชาว SUZUKI อยากเห็นว่ามีติดตั้งในรถรุ่นใหม่ๆ ของ SUZUKI
นอกจากออพชันเหล่านี้แล้ว เรื่องของราคาก็มีผลโดยตรงต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อชาวไทย ในอินโดนีเซีย ราคารุ่นเริ่มต้นเกียร์ธรรมดา ประมาณ 5 แสนต้นๆ รุ่น MILD HYBRID ราคา 6 แสนกลางๆ (เทียบเป็นเงินบาท) ส่วนราคาในเมืองไทย เดาทางยากสักหน่อย ถ้าเทียบกับ SUZUKI SWIFT (สวิฟท์) ราคา 567,000-637,000 บาท และรุ่นพี่ SUZUKI XL7 HYBRID (เอกซ์แอล 7 ไฮบริด) ราคา 799,000 บาท ผมเชื่อว่า SUZUKI FRONX จะทำราคาอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 รุ่นนี้ !
สิ่งหนึ่งที่ SUZUKI เดินเกมการตลาดเร็ว และแปลกกว่าทุกครั้ง คือ ทีมขายของ SUZUKI ตามจีบ และยื่นข้อเสนอพิเศษให้แก่ลูกค้าเก่า ที่สนใจสั่งจอง และรับรถภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ จะได้รับบัตรกำนัลน้ำมัน 3,000 บาท พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย
SUZUKI FRONX จะเป็นความหวังของหมู่บ้านหรือไม่ ? ต้องรอดูตัวเลขยอดขายในเดือนแรกที่เปิดตัวจำหน่าย เราไปรอลุ้นราคาในวันที่ 25 กันยายน กันอีกที และปลายปีนี้ จะนำเข้า SUZUKI E VITARA (อี วีทารา) รถ EV 100 % มาเสริมทัพอีก 1 รุ่น ตามแผนงานที่ได้ประกาศไปเมื่อปีที่แล้ว

