เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
HORIZON เทคโนโลยีใหม่สุดล้ำที่กำลังจะมาถึง
1. NOTHING PHONE (3) ราคาเริ่มต้น 799 ปอนด์, nothing.tech
สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกจาก NOTHING เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มาพร้อมคุณสมบัติระดับเรือธงครบถ้วน ทั้งกล้องประสิทธิภาพสูง ชิพประมวลผลรุ่นใหม่ แบทเตอรีความจุสูง หน้าจอคมชัด และดีไซจ์นเรขาคณิตอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบของ NOTHING ที่ยังคงโดดเด่นไม่เหมือนใคร
ชุดกล้องหลัง 3 ตัวมาพร้อมระบบซูม และกันสั่นแบบออพติคอล พร้อมเซนเซอร์หลักขนาดใหญ่ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการถ่ายวิดีโอระดับ 4K ที่ 60 เฟรม/วินาทีจากเลนส์ใดก็ได้
ภายในขับเคลื่อนด้วย ชิพ SNAPDRAGON 8S GEN 4 ส่วนหน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รีเฟรชเรท 120HZ ขอบจอบางไม่ถึง 2 มม. และให้ความสว่างสูงสุดถึง 4,500 นิท เมื่อใช้งานในโหมด HDR
วัสดุภายนอกได้รับการออกแบบอย่างประณีต เฟรมผลิตจากอลูมิเนียม ด้านหลังเป็น กระจกใสที่ให้ความรู้สึกหรูหรา แบทเตอรีขนาด 5,150MAH ใช้เทคโนโลยี ซิลิคอน-คาร์บอน ที่ให้พลังงานได้ตลอดวัน รองรับการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 15 วัตต์ และแบบมีสาย 65 วัตต์
สมาร์ทโฟนรุ่นนี้สะท้อนความตั้งใจของ NOTHING ในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างและโดดเด่น แม้ว่าจะยังไม่อาจสรุปได้ว่าจะพาบแรนด์ก้าวขึ้นสู่ระดับผู้นำตลาดหรือไม่ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่ท้าทายมาตรฐานของสมาร์ทโฟนเรือธงทั่วโลก และอาจเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนผ่านจากยุคของ “สมาร์ทโฟนสี่เหลี่ยมธรรมดา” สู่สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า
SPIFFY GLYPH
ลวดลาย GLYPH แบบเดิมได้รับการปรับโฉมใหม่เป็น GLYPH MATRIX ชุดไฟ LED สีขาวบริเวณมุมขวาด้านหลังที่โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถแสดงการแจ้งเตือน แถบความคืบหน้า หรือรูปแบบสัญญาณต่างๆ ได้อย่างชัดเจน และเข้าใจง่าย
ความเห็นจาก T3 - NICKS ODANTZIS, บรรณาธิการ T3
“อัญมณีอีกชิ้นจากบริษัทที่ไม่รู้จักคำว่า “น่าเบื่อ”
การใช้งาน
แม้จะเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธง แต่ก็อาจยังไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการพลังประมวลผลขั้นสูงสุด ชิพ SNAPDRAGON 8S GEN 4 ถือเป็นการอัพเกรดครั้งสำคัญจากรุ่น PHONE (2) ทั้งด้าน CPU, GPU และ NPU แต่ยังด้อยกว่าชิพ SNAPDRAGON 8 ELITE ที่ใช้ในสมาร์ตโฟนรุ่นสูงกว่าอย่าง GALAXY S25 ULTRA หรือ ONEPLUS 13
อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานทั่วไป ความเร็ว และการตอบสนองของระบบยังคงอยู่ในระดับยอดเยี่ยม ซึ่งเพียงพอสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงตัวเลขด้านเทคนิคมากนัก
NOTHING รุ่นใหม่
PHONE (3) มาพร้อม NOTHING OS 3.5 ระบบปฏิบัติการ ANDROID ที่ได้รับการปรับแต่งล่าสุดจาก NOTHING โดยเพิ่มฟังค์ชันใหม่หลายรายการ หนึ่งในนั้น คือ ESSENTIAL SEARCH BAR แถบค้นหาที่ผสานความสามารถของ AI อัจฉริยะ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในเครื่อง และบนโลกออนไลน์
อีกหนึ่งความสามารถ คือ ESSENTIAL KEY ปุ่มลัดบริเวณขอบเครื่อง ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ตั้งค่าการทำงานเฉพาะตัว เพื่อเชื่อมโยงกับฟังค์ชัน หรือแอพพลิเคชันที่ใช้บ่อยที่สุดได้อย่างยืดหยุ่น
2. ROG XBOX ALLY ราคารอประกาศ, asus.com
ไมโครซอฟท์จำเป็นต้องขยับตัวอย่างจริงจัง แม้คำว่า “ตกที่นั่งลำบาก” อาจฟังดูรุนแรงไปเล็กน้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสัญญาณของความท้าทายสำหรับธุรกิจคอนโซลภายในบ้านของพวกเขาเริ่มปรากฏชัดเจนขึ้นในยุคนี้
ภายใต้การเปลี่ยนผ่านสู่บทบาทใหม่ในฐานะผู้พัฒนา “ระบบนิเวศของการเล่นเกม” มากกว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว ไมโครซอฟท์จึงต้องหาหนทางในการเชื่อมต่อผู้เล่นจากทั้งตลาดพกพาและพีซีเข้าสู่พแลทฟอร์ม GAME PASS ซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์ของกลยุทธ์ดังกล่าว คือ การเปิดตัว ROG XBOX ALLY เครื่องเล่นแบบพกพารุ่นใหม่ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์ และ ASUS โดยพัฒนาต่อยอดจากพแลทฟอร์ม ROG ALLY ที่ได้รับการยอมรับอยู่แล้ว ดีไซจ์นภายนอกได้รับแรงบันดาลใจจากคอนทโรลเลอร์ XBOX ทำให้จับถนัดมือยิ่งขึ้น ส่วนภายในใช้พลังประมวลผลจาก AMD RYZEN Z2 A หรือในรุ่น ALLY X ที่มีขุมพลังมากกว่า จะขับเคลื่อนด้วย RYZEN Z2 EXTREME ซึ่งให้สมรรถนะเพียงพอต่อการเล่นเกมระดับ AAA ได้อย่างลื่นไหล แม้การรีดเฟรมเรทเต็มศักยภาพบนหน้าจอ FULL HD 120HZ อาจยังเป็นความท้าทายอยู่บ้างก็ตาม
3. GARMIN VENU X1 ราคา 680 ปอนด์, garmin.com
บางครั้งทิศทางของ GARMIN จะคาดเดาได้ไม่ยาก แต่บางทีบริษัทก็สร้างความประหลาดใจอย่างสิ้นเชิง เช่นเดียวกับการเปิดตัว VENU X1 รุ่นใหม่นี้ ที่มาพร้อมดีไซจ์นทรงเหลี่ยม และวางตำแหน่งให้เป็นคู่แข่งโดยตรงของ APPLE WATCH ULTRA 2 แบบไม่ทันตั้งตัว
ในด้านการออกแบบ VENU X1 ดูเรียบหรู และทันสมัย ตัวเรือนทำจากไททาเนียม กระจกแซฟไฟร์บางเฉียบ ให้ความรู้สึกแข็งแรง และพรีเมียมในขณะเดียวกัน ภายในอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีด้านกีฬา และการผจญภัยในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ GARMIN
อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกใช้เป็น “สนามทดลอง” ของบริษัทก็ว่าได้ เนื่องจากยังไม่มี ระบบ GPS แบบมัลทิแบนด์ และเซนเซอร์ ECG รวมถึงแบทเตอรีที่อยู่ได้เพียงไม่กี่วันหากเปิดโหมดหน้าจอแสดงผลตลอดเวลา แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
สิ่งที่น่าคาดหวัง คือ หากมีรุ่น VENU X2 ตามมา ข้อมูลจำเพาะต่างๆ น่าจะได้รับการยกระดับขึ้นอีกขั้น ส่วนในตอนนี้ ผู้ใช้ที่เลือกลองก่อนใครจะได้สัมผัสฟีเจอร์เด่นจากซีรีส์ FENIX และ FORERUNNER เช่น ระบบแผนที่สีแบบเต็มรูปแบบ บรรจุอยู่ในนาฬิกาที่มีรูปลักษณ์สวยงาม และแตกต่างจากรุ่นอื่นในตลาดอย่างชัดเจน
4. RUARK MR1 MK3 ราคา 399 ปอนด์, ruarkaudio.com
แม้บางคนอาจสงสัยว่า RUARK จะสามารถรักษามาตรฐานลำโพงระดับแนวหน้าติดต่อกันได้ถึง 3 รุ่นหรือไม่ แต่ประสบการณ์ที่ผ่านๆ มา ก็น่าจะคลายความสงสัยไปได้
รุ่น MR1 MK3 ใหม่ขยายขนาดเล็กน้อยจาก MK2 ปี 2017 แต่ยังคงเอกลักษณ์ของรุ่นก่อนหน้าไว้อย่างครบถ้วน ทั้งตู้ลำโพงไม้ คลาสสิคด้วยปุ่มควบคุมด้านบน และผ้าหน้าลำโพงที่ให้เสียงโปร่งใสทาง ACOUSTIC โดย คุณสมบัติใหม่เพิ่มเติม ได้แก่ รองรับ HI-RES AUDIO ผ่านสัญญาณออพทิคอล ช่องต่อ USB TYPE-C มี PHONO STAGE แบบ MOVING-MAGNET สำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงโดยตรง และระบบ BLUETOOTH ปรับปรุงใหม่ รองรับ APTX HD
ด้านเสียง RUARK ปรับปรุงทั้ง CROSSOVER และระบบ BASS REFLEX ผสมผสาน ทวีเตอร์ซิลค์โดมขนาด 20 มม. กับ วูเฟอร์ไฟเบอร์ธรรมชาติขนาด 85 มม. เพื่อให้เกิดสิ่งที่บริษัทเรียกว่า “ก้าวสำคัญในประสิทธิภาพเสียง”
5. BOSE QC ULTRA EARBUDS GEN 2 ราคา 299 ปอนด์, bose.com
หูฟัง BOSE QC ULTRA EARBUDS รุ่นปีที่แล้วซึ่งเคยได้รับรางวัลจาก T3 กลับมาอีกครั้งในเวอร์ชันปรับปรุงทั้งระบบ ครบตั้งแต่หัวจรดท้าย
ดีไซจ์นยังคงเอกลักษณ์เดิม แต่เพิ่มตัวเลือกสี PLUM ใหม่สดใส เข้าคู่กับสีดำ และสีขาวมาตรฐาน ขับเสียงด้วย ดไรเวอร์คุณภาพสูง แบบเดียวกับรุ่นก่อนหน้านี้ รองรับ BLUETOOTH 5.3 และแบทเตอรีใช้งานได้นานประมาณ 6 ชม./การชาร์จ 1 ครั้ง พร้อมกล่องชาร์จที่สามารถชาร์จเพิ่มได้อีก 3 ครั้ง
มีการปรับปรุงบางส่วน เช่น กล่องชาร์จรองรับ การชาร์จไร้สาย, สามารถปิดการใช้งาน ควบคุมสัมผัสแบบ CAPACITIVE และจุกหูฟังออกแบบใหม่ เพื่อลดการสะสมของขี้หู
อย่างไรก็ดี การอัพเกรดที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ระบบ ANC ซึ่ง BOSE เพิ่ม เลเยอร์ AI และเทคโนโลยีจากเครื่องช่วยฟังระดับสูง เพื่อปรับสมดุลเสียงรบกวนภายนอกอย่างราบรื่น และต่อเนื่อง
6. HUAWEI WATCH 5 ราคาเริ่มต้น 400 ปอนด์, huawei.com
นี่อาจเป็นช่วงเวลาที่นาฬิกาอัจฉริยะ จะกลับสู่รูปลักษณ์ และคุณภาพแบบนาฬิกาคลาสสิค ดูและดีไซจ์นของ HUAWEI WATCH 5 รุ่นล่าสุด ก็ตอกย้ำเรื่องนี้อย่างชัดเจน ด้วยตัวเรือนสแตนเลสส์ หรือไททาเนียมที่มีความประณีต สายรัดขนาดใหญ่ที่ให้ความมั่นคง และไม่หนาจนเกินไป หรือมีขอบหน้าปัดที่ดูเกินจริง
นาฬิกานี้ไม่ได้พยายามโชว์เทคโนโลยี แต่เป็นนาฬิกาที่ ใช้ระบบสมาร์ทอินเตอร์เฟศ แทนการเคลื่อนไหวแบบกลไก หรือควอทซ์ และเน้นที่การออกแบบพรีเมียมเป็นหลัก
แน่นอนว่าผู้ใช้ต้องจ่ายเพิ่มเพื่อแลกกับดีไซจ์นระดับพรีเมียม แต่หากต้องการคุณสมบัติเพิ่มเติม หรือต้องการรุ่นราคาย่อมเยากว่า อาจพิจารณา ONEPLUS WATCH 3 หรือ HUAWEI WATCH GT รุ่นอื่นๆ และแนะนำให้เปลี่ยนหน้าปัดเริ่มต้น ที่อาจดูไม่สวยเท่าไหร่
อย่างไรก็ตาม HUAWEI WATCH 5 ก็นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าแน่นอน
7. XGIMI MOGO 4 ราคา 509 ปอนด์, uk.xgimi.com
พโรเจคเตอร์ XGIMI MOGO 4 มีขนาดเล็กเทียบเท่าลำโพง BLUETOOTH ขนาดกลาง สามารถใช้งานได้สะดวก และเข้ากับทเรนด์การรับชมภาพยนตร์แบบพกพาได้อย่างลงตัว ได้แรงบันดาลใจจากพโรเจคเตอร์พกพารุ่นล่าสุดหลายรุ่น ทำให้เป็นอุปกรณ์ “POINT-AND-HOOT” ที่เหมาะสำหรับการดูหนังได้ทุกที่
แบทเตอรีสามารถใช้งานได้ราว 2 ชม. ครึ่ง/การชาร์จ 1 ครั้ง แม้ความสว่างสูงสุดจะอยู่ที่ 450 ลูเมน ซึ่งไม่ใช่ระดับสูงที่สุด แต่เพียงพอที่จะสร้างภาพที่น่าประทับใจในห้องมืด แม้การฉายที่ขนาด 150 นิ้วตามสเปค อาจไม่ชัดเต็มขนาด แต่ก็สามารถได้ภาพขนาดใหญ่ที่เหมาะสม
ระบบปฏิบัติการพื้นฐานจาก GOOGLE ช่วยให้เข้าถึงแอพพลิเคชันสตรีมิงต่างๆ ได้ครบถ้วน นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับฮาร์ดดไรฟ และ HDMI สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบสาย แม้ไม่ใช่พโรเจคเตอร์ที่ดีที่สุดด้านสมรรถนะ แต่ถือเป็นตัวเลือกที่สะดวกและใช้งานง่าย
8. ENABOT EBO AIR 2 PLUS ราคา 309 ปอนด์, enabot.com
แม้จะใช้ชื่อรุ่นต่อท้ายว่า “Pศ๊ฆ” แต่ความจริงแล้ว EBO AIR 2 PLUS แทบจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งระบบ ตัวเครื่องเปลี่ยนจาก “ดวงตาไฟ LED” มาเป็น หน้าจอแสดงผลแบบปรับแต่งได้ เพิ่มความสามารถด้าน AI TRACKING, ระบบ SMART HOME PATROL สำหรับตรวจตราภายในบ้าน รวมถึงฟีเจอร์ ผู้ช่วยอัจฉริยะ AI ASSISTANT ที่ตอบสนองคำสั่งได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ฮาร์ดแวร์ภายในก็ได้รับการอัพเกรดไม่น้อย ทั้งเซนเซอร์ที่มีความละเอียดสูงขึ้น แบทเตอรีที่มีความจุเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และล้อที่สามารถวิ่งผ่านสิ่งกีดขวางสูงถึง 10 มม. หรือทางลาดชันถึง 15 องศา ได้อย่างมั่นคง แม้จะมีคำถามอยู่ว่า “เราจำเป็นต้องมีหุ่นยนต์ AI ตัวเล็ก ๆ แบบนี้ไว้ในบ้านจริงหรือ” แต่ก็ต้องยอมรับว่า EBO AIR 2 PLUS คือก้าวกระโดดครั้งใหญ่ ทั้งในด้านความฉลาด การใช้งาน และความสนุกในการมีหุ่นยนต์ส่วนตัวคอยวิ่งสำรวจภายในบ้าน
9. SONY REON POCKET PRO ราคา 199 ปอนด์, sony.co.uk
หากพูดถึงอุปกรณ์สวมใส่ส่วนตัวของ SONY รุ่นนี้ สิ่งแรกที่ควรกล่าวถึง คือ มันอาจทำให้คุณดู “แปลกตา” อยู่บ้าง เมื่อสวมไว้บริเวณต้นคอด้านหลังเหมือนมีอุปกรณ์ล้ำยุคติดอยู่กับร่างกาย แต่ความรู้สึกนั้นจะหายไปทันทีเมื่อคุณได้สัมผัสถึง ความเย็นสบายราวกับมีแอร์ส่วนตัวอยู่ในเสื้อ เพราะ REON POCKET PRO สามารถปรับอุณหภูมิได้แบบเรียลไทม์ ตามกิจกรรมที่คุณทำในขณะนั้น
แม้ SONY จะระบุว่าอุปกรณ์นี้ “ใช้งานได้อย่างแนบเนียน” แต่ในความเป็นจริงก็ยังสังเกตได้ชัดอยู่บ้าง ทว่าก็มีการออกแบบให้เหมาะสมกับการแต่งกายที่ต่างกัน เช่น ช่องลม 2 ขนาดสำหรับเสื้อเชิร์ท และเสื้อยืด อีกทั้งยังสามารถ สลับโหมดได้ตามฤดูกาล เป่าลมอุ่นในฤดูหนาว และลมเย็นในฤดูร้อน
แบทเตอรีใช้งานได้นานสูงสุด 15 ชม./การชาร์จ 1 ครั้ง ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานตลอดวัน และด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนมากขึ้นในปัจจุบัน อุปกรณ์นี้อาจกลายเป็น สิ่งจำเป็นที่ดูขำๆ แต่ใช้งานได้จริง ในเวลาไม่นาน
10. QUAD 3 ราคา 1,249 ปอนด์, quad-hifi.co.uk
สำหรับบแรนด์เครื่องเสียงระดับตำนานจากสหราชอาณาจักรอย่าง QUAD การย้อนกลับไปหยิบแรงบันดาลใจจากอดีตไม่ใช่เรื่องแปลก ตรงกันข้าม มันคือ “เอกลักษณ์” ที่ผู้หลงใหลในเสียงดนตรีคาดหวัง และในครั้งนี้ QUAD 3 ก็ได้สืบทอดจิตวิญญาณของแอมพ์รุ่นคลาสสิคอย่าง QUAD 33 ปี 1967 ทั้งในแง่ของการออกแบบที่โดดเด่นด้วย สีส้มสด และวงกลมเรียงตัวสวยงาม
แม้จะคงเสน่ห์วินเทจไว้ครบ แต่ QUAD 3 กลับอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีรุ่นใหม่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น DAC กเรดไฮเอนด์ ช่องต่อ HDMI 2.1 ARC ภาค PHONO STAGE สำหรับเครื่องเล่นแผ่นเสียง แอมป์หูฟัง และ BLUETOOTH APTX HD สำหรับการสตรีมเสียงคุณภาพสูง ทั้งหมดนี้ถูกบรรจุอยู่ในตัวเครื่องขนาดเพียง 30 ซม. กะทัดรัดพอจะซ่อนไว้ในตู้ทีวี แต่ก็สวยพอจะตั้งโชว์ระหว่างลำโพงคู่โปรดได้อย่างภาคภูมิ
และที่น่าประทับใจที่สุดคือ “ราคา” แม้จะดูสูงเมื่อเทียบกับเครื่องเสียงทั่วไป แต่สำหรับผู้ที่เริ่มก้าวเข้าสู่โลกของ HI-FI แท้จริง นี่คือจุดเริ่มต้นที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง















