ผลทดสอบต่างแดน
วอกซ์ฮอลล์ ซาฟีรา 1.6 ใหม่
รถบางรุ่นประสบความสำเร็จได้ โดยไม่จำเป็นต้องขายความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี การตอบสนองการใช้งานต่างหากที่ผู้บริโภคต้องการ สำหรับ "ซาฟีรา" (ZAFIRA) ได้ทำการพิสูจน์แล้ว ไม่ว่าจะติดโลโก วอกซ์ฮอลล์ โอเพล หรือ เชฟโรเลต์ ในบ้านเราก็ตาม ด้วยรูปแบบของรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งที่มีการตอบสนองการใช้งานง่าย คือ จุดขายของรถรุ่นนี้
ซาฟีรา เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 ด้วยแนวคิดการจัดที่นั่งแบบ ฟเลกซ์-7 เพื่อให้มีการใช้สอยพื้นที่ภายในห้องโดยสารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จาก 5 ที่นั่งในการใช้งานปกติ หากต้องการรับผู้โดยสารเพิ่มสามารถเพิ่มที่นั่งแถวที่ 3 ได้อีก 2 ที่นั่ง องค์ประกอบอื่นๆ ที่ทำให้ ซาฟีรา ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ด้วยระดับราคาที่เชิญชวนให้เลือกใช้ อุปกรณ์ภายในที่เพียบพร้อม และเครือข่ายศูนย์บริการที่มากกว่า นั่นคือ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ ซาฟีรา ได้รับความนิยมติดอันดับหนึ่งในอังกฤษ ตั้งแต่เปิดตัวจนปีที่แล้ว ยังทำยอดอันดับหนึ่ง ทิ้งห่าง โฟล์คสวาเกน ตูรัน (VOLKSWAGEN TOURAN) ถึง 4 เท่าตัว
วอกซ์ฮอลล์ ซาฟีรา รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในปีนี้ ยังคงใช้การจัดที่นั่งแบบ เฟลกซ์-7 บนโครงสร้างของรุ่นอัสตรา โดยรุ่นที่ได้มีโอกาสทดสอบคือ วอกซ์ฮอลล์ ซาฟีรา 1.6 คลับ ที่ได้ติดตั้งระบบปรับอากาศมาให้เรียบร้อย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับห้องโดยสารที่มีเนื้อที่กระจกมากขึ้น
การใช้งานปกติในรูปแบบ 5 ที่นั่ง จัดว่าห้องโดยสารกว้างขวางอย่างเพียงพอสำหรับผู้ใหญ่ 5 คนโดยเฉพาะช่องวางขา และเนื้อที่เหนือศีรษะ ในแถวที่ 2 อาจจะคับแคบไปนิดสำหรับผู้โดยสาร 3 คนแต่ถ้ามีเพียง 2 คนจัดว่าสะดวกสบายไม่น้อย เพราะสามารถพับพนักพิงกลางมาเป็นที่พักแขนได้อย่างพอดิบพอดี ที่นั่งในแถวที่สองสามารถปรับเลื่อนเดินหน้า/ถอยหลัง เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารในแถวที่ 2 หรือในยามที่ต้องการเนื้อที่สำหรับสัมภาระในด้านหลัง
ที่นั่งแถวที่ 3 กางขึ้นอย่างง่ายดาย โดยการเลื่อนเบาะแถวที่ 2 มาด้านหน้าจนสุด แล้วดึงขึ้นจากช่องเก็บเบาะภายในพื้นห้องโดยสาร เบาะนั่งแถวที่ 2 ในตำแหน่งนี้จะเป็นการเปิดให้ผู้โดยสารขึ้นสู่ภายในรถได้ หากผู้โดยสารในแถวที่ 3 ต้องการลงจากรถ ก็สามารถปลดลอค เลื่อนที่นั่งแถวที่ 2 ได้เพียงสัมผัสปุ่มลอค ที่อยู่ด้านข้างที่นั่งแถวที่ 2 ได้อย่างง่ายดาย
ความสะดวกสบายสำหรับที่นั่งแถวที่ 3 ขึ้นอยู่กับการปรับระยะที่นั่งแถวที่ 2 ได้อย่างพอเหมาะแล้วก็จะทำให้ทุกที่นั่งมีเนื้อที่เพียงพอสำหรับวางเท้า และมีพื้นที่เหนือศีรษะอย่างเพียงพอ อย่างไรก็ตามผู้โดยสารในแถวที่ 3 อาจรู้สึกอึดอัดจากช่องกระจกที่แคบกว่า และไม่มีประตู แต่ผนังห้องโดยสารได้มีการเว้าช่องเผื่อไว้สำหรับวางศอกในทั้ง 2 ด้าน และได้ติดตั้งที่วางแก้วน้ำไว้ให้อีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร จัดว่ากว้างขวางไม่น้อย โดยเฉพาะการจัดที่นั่งแบบ 5 ที่นั่ง ทำให้มีเนื้อที่ภายในมากถึง 645 ลิตร สามารถเพิ่มขึ้นด้วยการพับเบาะแถวที่ 2 ลง แม้ว่าไม่สามารถเก็บราบลงกับพื้นได้ทั้งหมด แต่ก็สามารถเพิ่มเนื้อที่ขึ้นเป็น 1,070 ลิตร หรือจะเลื่อนเบาะแถวที่ 2 มาด้านหน้าสุดแล้วเอนพนักพิงราบลง ก็จะมีเนื้อที่ให้ใช้สอยไม่น้อยเช่นกัน หากกางเบาะแถวที่ 3 ขึ้นจากพื้นก็จะเหลือเนื้อที่บรรทุกเพียง 140 ลิตร หากต้องการเนื้อที่มากขึ้นสามารถพับเบาะที่ 1 ลงกับพื้นยังมีเนื้อที่เพียงพอสำหรับกระเป๋าเดินทางขนาดเขื่องได้สักใบ
ภายในห้องโดยสาร จัดว่าพัฒนาขึ้นมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน หรือคู่แข่งในคลาสส์เดียวกัน อุปกรณ์ภายในห้องโดยสารล้วนผลิตขึ้นด้วยวัสดุเนื้อนุ่มมือ ช่วยสร้างความประทับใจได้ไม่น้อย
ตั้งแต่ที่นั่งคนขับที่สามารถปรับระดับความสูงได้ พนักพิงสามารถปรับได้ละเอียดกว่าด้วยปุ่มหมุนพวงมาลัยสามารถปรับเลื่อนเข้า/ออกหรือความเอียงได้ตามต้องการ พวงมาลัยมีขนาดพอเหมาะออกแบบได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ แม้แต่การจัดที่นั่งของผู้ขับขี่ที่แตกต่างจากรุ่นเดิม ทั้งที่เบาะมีมุมตั้งชันมากกว่ารถนั่งทั่วไป แต่ก็ให้ความสบายเกินพอ
อุปกรณ์ภายในจัดว่ามีคุณภาพสูง ทั้งถูกจัดวางอยู่ในตำแหน่งใช้งานได้อย่างสะดวกนอกจากตำแหน่งการจัดวางปุ่มควบคุมวิทยุสเตอริโอ ที่ต้องสร้างความเคยชินบ้างเล็กน้อยโดยภาพรวมจัดว่าอุปกรณ์ภายใน อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ในแง่ของความสะดวกในการใช้งาน
แหล่งพละกำลังสำหรับคันที่นำมาทดสอบเป็นเครื่องเดียวกับที่ใช้ใน อัสตรา เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4สูบ 16 วาล์ว ความจุ 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 104 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 15.3 กก.-ม. ที่ 3,900 รตน. จัดว่าเป็นเครื่องยนต์มีการตอบสนองที่นุ่มนวล แต่ยังมีเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องยนต์ในรอบสูง เมื่อเดินทางบนมอเตอร์เวย์ ความสิ้นเปลืองอยู่ในระดับ 8.4 กม./ลิตรที่ 1,000 รตน.
ซาฟีรา 1.6 คลับ ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เมื่อใช้งานร่วมกับเครื่องยนต์ที่มีความจุเพียง 1.6ลิตร จึงต้องมีการไล่เกียร์บ่อยครั้งกว่า ทำให้ตัวเลขความสิ้นเปลืองยังไม่ประทับใจ จากตัวเลขความสิ้นเปลืองในสเปค คือ 16.5 กม./ลิตร แต่ค่าความสิ้นเปลืองจริงคือ 8.2 กม./ลิตร ในสนามทดสอบความสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 11.1 กม./ลิตร ดีที่สุดคือ บนมอเตอร์เวย์ 12.4 กม./ลิตร ยังไม่สามารถผ่านหลัก 12.8 กม./ลิตร ไปได้ที่พึ่งสุดท้าย น่าจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซล CDTI 120 ที่ผ่านมาตรฐาน ยูโร 4
ด้านน้ำหนักตัว ในคู่มือรถ ระบุว่า 1,507 กก. สามารถทำอัตราเร่ง จากจุดหยุดนิ่งไปถึง 96 กม./ชม.ภายใน 13.5 วินาที ส่วนการเร่งแซง 48-80 กม./ชม. ทำได้ 9.9 วินาที
ซาฟีรา ใหม่ มีการย้ายตำแหน่งเกียร์ไปอยู๋ในตำแหน่งคอนโซลกลาง ใกล้กับพวงมาลัยมากขึ้น ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น การทำงานแม่นยำพอควร นอกจากช่วงเปลี่ยนจากเกียร์ 2 ไป 3 ที่ยังพบข้อผิดพลาดในบางครั้ง
แป้นเหยียบมีการจัดวางอย่างดี และให้น้ำหนักเหมาะสม คลัทช์นุ่มนวล เบรคถ่ายทอดความรู้สึกได้ดีสามารถหยุดสนิทจากความเร็ว 112 กม./ชม. ภายในระยะ 50 ม. และหยุดจากความเร็ว 96 กม./ชม.ภายใน 2.9 วินาที
จากการที่ ซาฟีรา ใช้โครงสร้างเดียวกับ อัสตรา จึงไม่ต้องสงสัยในประสิทธิภาพการยึดเกาะบนทางเรียบเลย พวงมาลัยมีการถ่ายทอดความรู้สึกดี และแม่นยำ ในทางโค้งมีการควบคุมการทรงตัวที่ดีต้องยกความดีความชอบให้กับระบบรองรับที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ไม่ว่าจะใช้กับรุ่นใดก็ตาม
การตอบสนองการขับขี่ จัดว่าเป็นรถที่ขับสนุกด้วยพวงมาลัยที่แม่นยำ ระบบเกียร์ตอบสนองได้ดั่งใจระบบเบรคสั่งได้ ประกอบกับระบบรองรับที่ยอดเยี่ยม สามารถสร้างแรงจี ได้แค่ 0.87 จี ซึ่งจัดว่าดีเกินพอแล้ว สำหรับรถอเนกประสงค์ขนาดนี้
ไม่เพียงแต่การตอบสนองการขับขี่ที่โดดเด่นอย่างเดียว ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารจัดว่าเพียบพร้อม มีการเก็บเสียงที่ดีไม่ว่าจะเป็นเสียงที่มาจากการทำงานของเครื่องยนต์เสียงลมที่ปะทะตัวรถ และเสียงการทำงานของยาง
สำหรับเบาะนั่งในด้านหน้าแม้จะมีซับพอร์ทที่ค่อนข้างน้อย แต่ก็มีความโอบกระชับในระดับพอใช้ได้ขนาดของเบาะแถวหน้า และแถวกลางกว้างขวางเพียงพอสำหรับความสบายตลอดการเดินทางมีเพียงเบาะหลังที่มีความสะดวกสบายที่ด้อยกว่า
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จัดว่าเหนือกว่ารถในระดับเดียวกัน ทั้งระบบเอบีเอส ถุงลมนิรภัย 4 ตำแหน่ง ที่นั่งคนขับที่อยู่สูง เครื่องเล่นซีดี กระจกไฟฟ้า และในรุ่น คลับ คันที่เรานำมาทดสอบหรูหราด้วยล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ชุดควบคุมระบบเสียงบนพวงมาลัย ถุงลมนิรภัยแบบม่านกระจกข้างปรับไฟฟ้า หากยังไม่พอ ยังมีออพชันให้เลือกจับจ่ายด้วยราคาที่สมเหตุสมผล
ABOUT THE AUTHOR
อ
อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบต่างแดน