DIY...คุณทำเองได้
เลือกรถให้เหมาะกับการใช้งาน
ยุคนี้เป็นยุคที่ต้องพอเพียงจริงๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเรื่องการเมือง และสภาพเศรษฐกิจที่ลุ่มเล้า
ทำให้สภาพการณ์โดยรวมดูซบเซาไปมาก แต่ถึงกระนั้นกลุ่มผู้บริโภคเองก็ยังที่จะดิ้นรนเปลี่ยน
รถกันใหม่เพื่อสนองความต้องการตัวเอง ไหนๆ ความอยากที่จะเปลี่ยนรถใหม่มันก็มีมากกว่า
อยู่แล้ว เราก็เลยอยากจะให้ข้อคิดในการเลือกซื้อ และเลือกใช้รถให้เหมาะสมกับความต้องการ
ของคุณ และเรื่องสำคัญ คือ เรื่องของงบประมาณที่ต้องจ่ายเป็นค่างวดในแต่ละเดือน เพียงแค่
คุณรู้จักเปรียบเทียบ และพิจารณาให้รอบคอบ โดยเฉพาะในกลุ่มของรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่
กำลังนิยมอยู่ในขณะนี้
รถ 4WD มีความจำเป็นกับคุณแค่ไหน ?
กลายเป็นกระแสมานานพอสมควรกับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ เอะอะอะไรก็ต้องขับ 4 ไว้ก่อนทั้งๆ
ที่ไม่เคยใช้งาน การเลือกซื้อรถในบ้านเรานั้น มีค่านิยมที่ว่า เวลาจะซื้อรถ ต้องซื้อตัวทอพ ถ้า
มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็ต้องเลือกเอาไว้ก่อน ทั้งๆ ที่ไม่เคยใช้มาก่อน และยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า
หลังจากซื้อมาแล้วจะมีโอกาสได้ใช้หรือไม่
ลองคิดดูว่า ในแต่ละปีคุณมีเวลาว่างที่จะไปเที่ยวต่างจังหวัดได้บ่อยขนาดไหน 1 ปีถึง 2 ครั้ง
หรือเปล่า และการไปเที่ยวแต่ละครั้ง คุณชอบไปที่ไหน สภาพเส้นทางเป็นอย่างไร ถ้าชอบไป
เที่ยวแบบสบายๆ รถอะไรก็ไปถึง และไม่ชอบเที่ยวแบบลำบาก ต้องผจญความร้อน หรือ
ต้องนอนเทนท์ รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ยิ่งไม่มีความหมายอะไรกับคุณเลย ดังนั้นการเลือกซื้อ
รถขับเคลื่อน 4 ล้อมา มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เหมือนซื้ออาหารกระป๋องมาแล้วไม่กิน หรือ
เอามาตั้งไว้ 3-4 ปี ก็ขายต่อ แล้วอย่างนี้จะซื้อมาทำไม
ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์เองก็ทราบดี ถึงลักษณะการใช้งานของลูกค้า รถยนต์รูปแบบเดียวกัน
แต่มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ มาให้เลือกเพิ่มขึ้น จากเดิมอาจจะมีแค่ระบบ
ขับเคลื่อน 4 ล้อเพียงอย่างเดียว ก็เพิ่มรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อมาให้อีกหนึ่งทางเลือก เพราะรู้
ว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ขนาดผู้
ผลิตเองยังรู้ว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ตัวคุณเองที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว อย่างนี้ยังจะคิดว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็น
คำตอบสุดท้ายอยู่หรือไม่
รู้จักระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ?
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีใช้กันอยู่ในรถรุ่นปัจจุบันมี 2 แบบด้วยกัน แต่ละแบบก็มีความเหมาะสม
ในการใช้งานแตกต่างกัน ลองมารู้จักว่าแต่ละแบบที่มีขายในรถทั่วไป มันเหมาะกับการใช้งาน
ในลักษณะไหน แล้วตัวคุณเองมีความจำเป็นต้องใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบนี้หรือเปล่า
- FULL TIME 4WD
หมายถึง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ข้อดีของการขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา คือ เรื่อง
ของประสิทธิภาพการทรงตัวเมื่อใช้ความเร็วสูง การบังคับควบคุมในทางโค้งจะทำได้ดีกว่า
เพราะล้อทุกข้างจะมีการยึดเกาะที่ดีกว่า แต่ข้อเสียของระบบนี้ก็มีเหมือนกัน อย่างแรก คือ
ราคาจะแพงกว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ PART TIME ต่อมาคือ เรื่องของความสิ้นเปลือง
น้ำมันที่มีมากกว่า อย่างที่ 3 คือ เรื่องของวงเลี้ยวจะกว้างกว่ารถขับเคลื่อน 2 ล้อ และ
ระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ PART TIME ระบบขับเคลื่อนแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบใช้
ความเร็วสูงเป็นประจำ
ทำไมถึงสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาได้ ? ทั้งที่พื้นฐานของระบบส่งกำลังก็เหมือน
กับระบบ PART TIME นั่นเพราะว่ามีการเพิ่ม CENTRAL DIFFERENTIAL เข้ามาซึ่งเป็น
อุปกรณ์ที่มีราคาแพง อุปกรณ์ตัวนี้จะอยู่คั่นกลางระหว่างการส่งถ่ายกำลังของล้อหน้า/หลัง
หน้าที่ของมัน คือ ดูดซับความแตกต่างระหว่างการหมุนของล้อหน้า/หลัง เพื่อป้องกันไม่
ให้ระบบขับเคลื่อน และชุดเกียร์เกิดความเสียหาย อุปกรณ์ชิ้นนี้จะไม่มีในรถขับเคลื่อน 4
ล้อ แบบ PART TIME ในบ้านเราที่มีใช้อย่างแพร่หลาย ระดับราคาล้านต้นๆ คือ โตโยตา
ฟอร์ทูเนอร์ โดยปกติแล้วเราจะพบได้เฉพาะรถระดับพรีเมียม ซึ่งข่าวที่ได้มานั้นทาง
โตโยตา อาจจะผลิตรถรุ่นนี้ที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ออกมาจำหน่าย หลังจากที่
เคยทำมาแล้วในรุ่น สปอร์ท ไรเดอร์ เพราะเล็งเห็นว่าลูกค้าจำนวนไม่น้อย ไม่มีความจำเป็น
ต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าอีกทางหนึ่ง
- PART TIME
เป็นระบบที่มีใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในรถพิคอัพ และเอสยูวี บางรุ่น เช่น ฮอนดา ซีอาร์-วี
เป็นต้น ชื่อของระบบก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นบางเวลา คือ สามารถใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้เป็น
บางโอกาสเท่านั้น สาเหตุก็เพราะว่ามันไม่มี CENTRAL DIFFERENTIAL
การใช้งานของระบบขับเคลื่อน
4 ล้อแบบนี้ จึงมีข้อจำกัดบางอย่างในรถพิคอัพทั่วไป ถูกกำหนดด้วยเรื่องต้นทุนเป็นหลัก ถ้าจะทำให้
เป็นระบบ FULL TIME ก็ทำได้ แต่ต้นทุนจะแพงขึ้นและไม่จำเป็นสำหรับรถระดับนี้
ระบบนี้สามารถใช้ได้บนถนนลูกรัง ดิน โคลน ทราย หรือแม้แต่ทางเปียกลื่น แต่ไม่สามารถใช้บนถนน
ที่แข็งและแห้งอย่างถนนราดยาง คอนกรีท หรือถนนที่มีความฝืดสูงๆ ได้ เพราะมันจะทำให้เกียร์
ทรานสเฟอร์มีหน้าที่แบ่งถ่ายกำลังไปยังล้อหน้า/หลังนั้น หมุนด้วยความเร็วรอบที่เท่ากัน
อันจะส่งผลให้เฟืองเกียร์เสียหายได้ ดังนั้นมันจะใช้ได้เฉพาะถนนที่มีความฝืดต่ำๆ
อย่างระบบ REAL TIME ของ ซีอาร์-วี ก็เช่นกัน ระบบถูกออกแบบมาให้ล้อคู่หลังทำงาน
ต่อเมื่อล้อคู่หน้าเกิดการสลิพ นั่นก็หมายความว่า ล้อหน้าหมุนด้วยความเร็วรอบที่ไม่เท่ากัน
เนื่องจากยางไม่สามารถยึดเกาะพื้นผิวถนนได้ดี เมื่อล้อคู่หน้าเกิดการสลิพ กลไกจะทำให้
ชุดคลัทช์ของเพลาหลังทำงาน เพื่อส่งกำลังจากเพลากลางไปยังล้อคู่หลังทันที เมื่อใดที่
ล้อหน้าสามารถยึดเกาะผิวถนนได้เหมือนเดิม กลไกด้านหลังก็จะยกเลิกการทำงานในทันที
ระบบผู้ขับขี่ไม่สามารถจะเลือกให้ทำงานตามที่ผู้ขับขี่ต้องการได้ หรือไม่สามารถเลือกให้
มันทำงานตลอดเวลาได้
เลือกรถอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งาน ?
นี่คือประเด็นหลักของเราในฉบับนี้ ตัวอย่างแรก คือ กลุ่มลูกค้าที่เลือกใช้รถพิคอัพ ที่คิดว่า
ตัวเองมีความจำเป็นต้องเลือกระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ว่าตนเองต้องการอะไรแน่ ถ้าคุณชอบ
เข้าป่าจริงๆ ที่มีเส้นทางธรรมชาติ ไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้ แนะว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ แต่ถ้าคุณแค่คิดว่า อาจจะมีโอกาสเข้าป่าบางครั้ง หรือคิดว่ามี
ไว้ก็ดี เผื่อฉุกเฉิน หรือตัวเองไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวไหนไกลๆ อย่างนี้จะซื้อรถขับเคลื่อน 4 ล้อ
มาเพื่ออะไร เพราะซื้อมาแล้วไม่มีโอกาสได้ใช้ หรือถ้าต้องการรถที่ดูสูงสง่าแบบรถขับเคลื่อน 4 ล้อ
หรือคิดว่าซื้อมาแล้ว จะแต่งเท่ๆ แล้วขับในเมืองอย่างเดียวเท่านั้น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ยิ่งไม่จำเป็น
ถ้าเป็นอย่างนี้ รถขับเคลื่อน 2 ล้อ แบบยกสูง คือทางออกที่เหมาะสมกว่า สู้เก็บเงินส่วนต่าง
ที่ว่ากันแล้วก็เหยียบๆ แสนนั้นเอาไปซื้อของแต่งตามใจชอบไม่ดีกว่าหรือ เนื่องจากว่าระบบขับ
เคลื่อน 4 ล้อ นั้นเมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือนานๆ ใช้ที มันก็เสียหายได้เหมือนกัน และจะเห็นได้ว่าที่
ผ่านมานั้น ทุกค่ายต่างก็ผลิตรถขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง ออกมาเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้า
พอเป็นอย่างนี้แล้ว คุณยังคิดว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังจำเป็นสำหรับคุณหรือเปล่า
เช่น กรณีของ ฮอนดา ซีอาร์-วี ใหม่ ที่เพิ่มรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อมาให้ลูกค้า ก็ถือว่าเป็นทางเลือก
ที่เหมาะสมมากกับการใช้งานในเมือง เพราะค่าตัวที่ต่ำกว่ากันถึง 100,000 บาท จะช่วยให้
คุณประหยัดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะอะไรนะหรือ คนที่ซื้อรถรุ่นนี้ แทบจะไม่มีใครที่เอาไปวิ่ง
ทางขุรขระจริงๆ จังๆ สักคน ยิ่งคนที่ใช้ในเมืองเป็นหลักด้วยแล้ว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยิ่ง
ไม่เคยได้ทำงานเลย บางคนอาจจะมองว่ามันจำเป็น โดยเฉพาะเวลาฝนตกน้ำท่วม ระบบ
ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะช่วยได้ แต่อย่าลืมนะครับอย่างที่บอกไปแล้ว ว่าระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
ของรุ่นนี้ มันจะทำงานก็ต่อเมื่อล้อหน้าเกิดการสลิพ หรือหมุนฟรีเท่านั้น คุณไม่สามารถ
เลือกได้ตามใจว่าจะให้มันทำงานแบบขับ 4 ตอนที่คุณต้องการได้ ฉะนั้นมันก็ไม่มีความ
จำเป็นอะไรสำหรับคนเมืองอย่างเราๆ
ในแง่ของการบำรุงรักษารถขับเคลื่อน 2 ล้อ ก็ถูกกว่า เพราะชิ้นส่วนน้อยลงมากเมื่อเทียบ
กับรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ในรถกระบะก็ไม่ต้องมีชุดเพลาขับหน้า ทรานสเฟอร์ เพลากลางท่อนหน้า
ฯลฯ ใน ซีอาร์-วี ก็ไม่ต้องมีเพลากลาง และชุดกลไกการทำงานของเพลาหลัง ค่าใช้จ่าย
ในการดูแลรักษาระยะยาวก็จะถูกลง
น้อยคนนักจะซื้อรถยนต์ด้วยเงินสด ยิ่งราคารถถูกลงดอกเบี้ยที่จะต้องเสียก็ถูกลง ยอดผ่อนต่อเดือน
ก็จะถูกลงตามไปด้วย นั่นหมายความว่าคุณจะมีความคล่องตัวทางการเงินเพิ่มขึ้น เพราะไม่ต้อง
ซื้อของที่ไม่จำเป็นมาใช้ รถขับเคลื่อน 2 ล้อ ลักษณะที่ว่ามานั้นมันสามารถเดินทางไปได้เกือบทุกที่
ขอเพียงแค่ผู้ขับขี่นั้นมีทักษะในการขับขี่เพียงพอเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางธรรมชาติ
ที่หายากขึ้นทุกวันๆ จากการขยายตัวของเมือง ในเส้นทางลูกรังเต็มไปด้วยหลุมบ่อ ระบบขับเคลื่อน
2 ล้อมันก็ไปได้
ก็อยากจะบอกกับคุณผู้อ่านว่า เลือกรถที่เหมาะสมกับการใช้งาน คือ ทางออกที่สมเหตุผลมากที่สุด
เรื่องโดย : พหล ฯ 30
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57784