เทคนิคตีนโต
XDRIVE
ในปีนี้ค่าย บีเอมดับเบิลยู ทำการเปิดตัวรถเอสยูวี รุ่น เอกซ์ 5 อีกครั้งหลังจากที่ต้องโดนพิษภาษีเล่นงานจนต้องยุติการขายไปอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากรถรุ่นนี้ได้สร้างชื่อเสียงไว้มากในเรื่องความหรูหรา และสมรรถนะที่น่าตื่นตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งประสิทธิภาพด้านการทรงตัวและยึดเกาะถนน ถือว่าเป็นเอสยูวีคันแรกของค่าย จากนั้นจึงได้เปิดตัวน้องเล็ก รุ่น เอกซ์ 3 ตามออกมา ซึ่งมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจ คือ ระบบ XDRIVE สำหรับ เอกซ์ 5 ใหม่ มีการนำระบบนี้มาใช้เช่นกัน แต่มีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับขนาดและน้ำหนักของตัวรถที่เพิ่มขึ้น
ในระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อของ บีเอมดับเบิลยู เป็นแบบฟูลล์ไทม์ ระบบขับเคลื่อนเน้นการกระจายกำลังไปสู่ล้อทั้งสี่ตามสภาพการขับขี่ ซึ่งการทำงานจะสามารถพาตัวรถผ่านอุปสรรคต่างๆได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับการลุยมากนัก ระบบ XDRIVE ถูกออกแบบมาให้มีความสามารถทำงานในลักษณะของการใช้งานในเส้นทางวิบากได้ดีขึ้น โดยอาศัยการทำงานร่วมกับระบบ DYNAMIC STABILITY CONTROL หรือเรียกสั้นๆ ว่า DSC ซึ่งเป็นระบบช่วยควบคุมการทรงตัว
สาเหตุที่ต้องทำงานร่วมกันเพราะว่าต้องอาศัยสัญญาณร่วมกัน เนื่องจากระบบ DSC จะคอยสำรวจลักษณะการทรงตัวของรถตลอดเวลา เพื่อคำนวณการสั่งการระบบต่างๆ ให้ทำงาน ช่วยให้ตัวรถมีเสถียรภาพตลอดเวลา ระบบนี้จะรู้ความเร็วของตัวรถ, รอบเครื่องยนต์, รอบการหมุนของล้อทุกล้อ,ทิศทางของตัวรถ, องศาการลาดเอียง, องศาคันเร่ง, องศาพวงมาลัย ฯลฯ ทุกอย่างจะถูกนำมาประมวลผลร่วมกัน และทั้ง 2 ระบบยังต้องทำงานร่วมกันอีกต่างหากเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
หน้าที่หลักของระบบ DSC จะควบคุมการทรงตัว เช่น การป้องกันล้อหมุนฟรีอันจะเกิดขึ้นได้ เมื่อมีการกดคันเร่งที่เร็วเกินไปบนสภาพถนนที่เปียกลื่น โดยการควบคุมในเรื่องของการจุดระเบิด เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์สร้างกำลังออกมามากเกินความต้องการ กรณีที่รถเริ่มเสียการทรงตัวเมื่ออยู่ในโค้ง ไม่ว่าจะออกอาการอันเดอร์ หรือโอเวอร์สเตียร์ ECU จะอาศัยสัญญาณจากเซนเซอร์ในจุดต่างๆ มาประมวลผลเพื่อทำการแก้ไขอาการทันที ระบบ DSC จะทำการสั่งให้ระบบ ABS ทำงานเพื่อเบรคในบางล้อเพื่อแก้อาการที่เกิดขึ้น ทำให้รถกลับมามีเสถียรภาพในทันทีที่เริ่มออกอาการ การทำงานมีหลายระดับซึ่งอาจจะทำการลดองศาไฟจุดระเบิดลงเพื่อลดแรงบิดที่เกิดขึ้น รวมถึงอาจจะมีการตัดการจ่ายน้ำมันเมื่อเห็นว่าสมควร เช่น รถเสียอาการ แต่ผู้ขับขี่ไม่ยอมถอนเท้าออกจากคันเร่ง เป็นต้น
สำหรับระบบ XDRIVE จะทำการควบคุมในส่วนของการส่งถ่ายกำลังเพิ่มขึ้นด้วยชุดคลัทช์แบบแผ่นซ้อนกันหลายแผ่น (MULTIPLE-PLATE CLUTCH) ภายในตัวทรานสเฟอร์เกียร์ หน้าที่ของมัน คือ การแบ่งถ่ายกำลังเสียใหม่ก่อนที่จะส่งไปยังล้อหน้าหรือหลัง เพื่อให้เหมาะสมกับอาการของตัวรถที่เกิดขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับการทำงานของระบบ DSC ความพิเศษของระบบนี้ไม่ใช่แค่เพียงแบ่งการถ่ายทอดกำลังอย่างเหมาะสม เช่น 50/50 หรือ 60/40 หรือ 70/30 เท่านั้นแต่ระบบยังสามารถแบ่งถ่ายกำลังไปยังล้อหน้าหรือหลังแบบ 100 % ได้อีกด้วย เพื่อช่วยเสริมให้ตัวรถมีเสถียรภาพที่ดีตลอดเวลา แล้วภายใต้สถานการณ์ใดละ จึงจะเหมาะสม ? ยกตัวอย่างเช่น เกิดอาการโอเวอร์สเตียร์ ขณะเข้าโค้ง อาการนี้ก็คือ ท้ายจะกวาดออกไปนอกโค้งเพราะสูญเสียการยึดเกาะถนน ระบบ XDRIVE จะทำการเพิ่มแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหน้ามากขึ้น เพราะจังหวะนั้นล้อหน้ายังมีการยึดเกาะที่ดีอยู่เพื่อช่วยแก้อาการโอเวอร์สเตียร์ที่เกิดขึ้น ซึ่งระบบจะทำงานร่วมกับระบบ DSC เมื่อคำนวณแล้วว่าการทำงานระบบเดียวไม่อาจทำให้รถกลับมามีเสถียรภาพดังเดิมได้ เป็นการทำงานเพื่อหักล้างแรงที่เกิดขึ้นกับตัวรถนั่นเอง นอกเหนือจากเรื่องของเสถียรภาพและความปลอดภัยแล้ว ระบบยังออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานด้วย โดยปกติแล้วระบบขับเคลื่อนจะเป็นแบบฟูลล์ไทม์ คือ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ระบบนี้มีข้อเสีย คือ จะทำให้วงเลี้ยวของรถกว้างขึ้น จะเห็นได้ชัดขณะที่เข้าจอดในที่แคบๆ เช่น ตามอาคารจอดรถต่างๆ ระบบ XDRIVE สามารถแบ่งถ่ายกำลังไปยังล้อหน้าหรือหลังได้แบบ 100 % ที่กล่าวไปในข้างต้น จะมาช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายด้วย กรณีที่เข้าจอดรถในที่แคบ ความเร็วรถต่ำมากๆ และมีการหันเลี้ยวของพวงมาลัยมากกว่าปกติ ระบบจะคำนวณว่า ขณะนั้นคุณกำลังจะจอดรถ ระบบ XDRIVE จะทำการส่งกำลังขับเคลื่อนทั้งหมดไปยังล้อหลัง เพื่อให้ล้อหน้าไม่มีแรงบิดเกิดขึ้น การเลี้ยวในที่แคบจะทำได้ง่ายกว่า กลไกการทำงานของระบบและหน่วยควบคุมนั้นใช้เวลาในการประมวลผลและสั่งการได้ภายในเสี้ยววินาทีเท่านั้น
แต่อาจจะต้องทำใจในเรื่องของราคาค่าตัวรถรุ่นนี้ภายใต้ภาษีใหม่แม้จะมีความน่าใช้ในหลายด้านก็อาจจะทำให้ผู้ที่คิดจะซื้อต้องคิดหนัก ซึ่งรถในกลุ่มนี้ที่เป็นรถนำเข้าก็เริ่มจะค่อยๆ หายหน้าไปจากบ้านเรา จะมีเพียงก็บริษัทใหญ่ที่นำเข้ามาขายเพื่อเป็นหน้าตาให้กับตนเอง เพราะถึงอย่างไรยังคงมีเศรษฐีกระเป๋าหนักรอคอยรถยนต์ในกลุ่มนี้อยู่เสมอ
เรื่องโดย : พหลฯ 30
ภาพโดย : -
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : เทคนิคตีนโต
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57803