เจาะสนามแข่งต่างประเทศ
ปิดฉากศึก ดาการ์ แรลลี 2013
การแข่งขันแรลลีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ดาการ์ แรลลี 2013 จบลงแล้ว พร้อมรอยยิ้มแห่งชัยชนะ รวมถึงคราบน้ำตาของญาติ และเพื่อนของผู้ที่สูญเสีย ซึ่งเรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับการแข่งขันรายการนี้ไปเสียแล้ว สำหรับการแข่งขันในปีนี้ เป็นครั้งที่ 34 โดยเส้นทางยังคงเป็นทวีปอเมริกาใต้ เริ่มการแข่งขันในวันที่ 5 มกราคม ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู และไปสิ้นสุดที่กรุงซานติเอโก ในประเทศชิลี รวมระยะทางกว่า 8,400 กม. โดยมีพาหนะเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 449 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 153 คัน รถบรรทุก 75 คัน รถวิบาก 38 คัน และรถจักรยานยนต์ 183 คัน
เข้าสู่การแข่งขันในสเตจแรก ระยะทางสั้นเพียง 13 กม. เริ่มต้นออกสตาร์ทจากกรุงลิมา มุ่งเข้าสู่ปลายทางที่เมืองปิสโก สเตจนี้ การ์โลส เซนซ์ (CARLOS SAINZ) แชมพ์เก่าปี 2010 ทำเวลาได้ดีสุดเข้าอันดับ 1 ด้วยเวลา 7 นาที 40 วินาที เฉือน ลูซีโอ อัลวาเรซ (LUCIO ALVAREZ) จากอาร์เจนตินา ไปแค่ 0.08 วินาที ส่วนแชมพ์เก่าปี 2011 นาสเซอร์ ซาเลห์ อัล-อัตติยาห์ (NASSER SALEH AL-ATTIYAH) เข้าอันดับที่ 4
สเตจที่ 2 เส้นทางในทะเลทรายเมืองปิสโก ประเทศเปรู ระยะทางรวม 240 กม. แชมพ์สเตจนี้ในประเภทรถยนต์เป็นของ "แชมพ์เก่า" ชเตฟาเน เพเทร์ฮันเซล (STEPHANE PETERHANSEL) นักขับทีม มีนี ชาวฝรั่งเศส หลังขับเข้าเส้นชัยคันแรก ทำเวลา 2 ชั่วโมง 35 นาที 38 วินาที
เข้าสู่สเตจ 3 เส้นทางจากปิสโก มุ่งหน้าเข้าสู่นาสกา ระยะทางรวม 343 กม. สำหรับสเตจนี้ อัล-อัตติยาห์ ซึ่งออกสตาร์ทจากอันดับ 7 เป็นผู้คว้าแชมพ์ ด้วยเวลา 2 ชั่วโมง 30 นาที 14 วินาที ส่วนเวลารวม เพเทร์ฮันเซล ขึ้นเป็นผู้นำ
อัล-อัตติยาห์ ยังคงร้อนแรงด้วยการคว้าแชมพ์ต่อในสเตจที่ 4 บนเส้นทางจากนาสกา ไปยังอเรกิปา ระยะทาง 289 กม. โดยทำเวลาได้ 3 ชั่วโมง 28 วินาที 36 วินาที ส่วนเวลารวม เพเทร์ฮันเซล ยังเป็นผู้นำอยู่
อันดับ 1 ของแต่ละสเตจยังคงเปลี่ยนมือไปมา โดยสเตจที่ 5 เป็นของ นานี โรมา (NANI ROMA) นักขับชาวสเปน ซึ่งทำเวลาได้ 1 ชั่วโมง 49 นาที 40 วินาที ส่วน เพเทร์ฮันเซล แชมพ์เก่า ตามหลังมาด้วยเวลา 1 นาที 23 วินาที ทางด้าน อัล-อัตติยาห์ เปิดเผยว่าเกิดข้อผิดพลาดของอุปกรณ์นำทาง จึงทำให้เสียเวลา แต่ตำแหน่งอันดับเวลารวมยังคงน่าพอใจ
สเตจ 6 เกิดเรื่องเศร้าขึ้น เมื่อรถทีมสนับสนุน ประสบอุบัติเหตุชนกับรถแทกซีของเปรู บริเวณถนนทางหลวง ห่างจากพรมแดนเปรู-ชิลี 10 กม. จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน โดยหนึ่งในนั้นเป็นคนขับรถแทกซีชาวเปรู และได้รับบาดเจ็บอีก 7 คน เป็นชาวเปรู 4 คน และอีก 3 คน เป็นชาวอังกฤษ โดยผลการแข่งขัน แชมพ์กลับมาเป็นของ อัล-อัตติยาห์ อีกครั้ง โดยทำเวลาอยู่ที่ 3 ชั่วโมง 32 นาที 8 วินาที
ต่อกันที่สเตจ 7 บนเส้นทางจากกาลามา ไปยังเมืองซัลตา ระยะทาง 218 กม. เพเทร์ฮันเซล ขยับตำแหน่งตัวเอง โดยคว้าอันดับ 1 ไปครอง ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 47 นาที 27 วินาที แล้วเกิดเรื่องเศร้าซ้ำขึ้นอีกครั้ง โดย โธมัส บูร์แฌง (THOMAS BOURGIN) นักขับชาวฝรั่งเศส ที่ลงแข่งขันประเภทรถจักรยานยนต์วิบาก เสียชีวิตหลังประสบอุบัติเหตุ ซึ่งฝ่ายจัดการแข่งขัน แถลงว่านักบิดวัย 25 ปี ถูกรถยนต์ที่วิ่งเข้ามาบนเส้นทางพุ่งชน
การแข่งขันยังคงมีความท้าทายอย่างต่อเนื่องบนสเตจ 8 อยู่ๆ ก็มีพายุฝนตกลงมาอย่างหนัก สร้างความยากลำบากให้กับนักขับ บนเส้นทางจากซัลตาไปยังตูคูมาน ระยะทาง 470 กม. ซึ่งมีรถแข่งติดอยู่ตามเส้นทาง เนื่องจากมีน้ำท่วมสูงเกือบ 3 ม. และมีน้ำป่าไหลบ่าเข้ามาบนเส้นทางแข่งขัน ทำให้ทีมงานต้องยกเลิกการแข่งขันสำหรับสเตจนี้ แต่ก็มีรถที่สามารถฝ่าความหฤโหดเข้าเส้นชัยมาได้ 5 คัน คือ เกอแลง ชีเชอริต (GUERLAIN CHICHERIT) นักขับชาวฝรั่งเศส โดยทำเวลาได้ 1 ชั่วโมง 55 นาที 6 วินาที เข้ามาเป็นคันแรก ตามด้วย โอร์ลันโด เตร์ราโนวา (ORLANDO TERRANOVA) นักแข่งเจ้าถิ่น ทำเวลาตามหลังเข้ามา 4 นาที 2 วินาที ส่วนคันที่ 3 คือ รอบบี กอร์ดอน (ROBBY GORDON) นักขับชาวอเมริกัน ทำเวลาตามหลัง 5 นาที 17 วินาที ขณะที่ เพเทร์ฮันเซล ตามเข้ามาเป็นคันที่ 4 ด้วยเวลาตามหลัง 12 นาที 15 วินาที ส่วนคันที่ 5 คือ โรมา ทำเวลาตามหลัง 15 นาที 43 วินาที
ผ่านสเตจ 8 เข้าสู่สเตจที่ 9 บนเส้นทางจากตูคูมาน ไปยังเมืองโคร์โดบา ในประเทศอาร์เจนตินา โรมา ที่ฝ่าด่านนรกสเตจที่แล้วมาได้ ยังคงแสดงความเหนือชั้น คว้าชัยในสเตจนี้ได้ ด้วยเวลา 5 ชั่วโมง 36 นาที 28 วินาที โดย เพเทร์ฮันเซล ตามมาเป็นที่ 2 ด้วยเวลาตามหลัง 4 นาที 11 วินาที โดยเวลารวม เพเทร์ฮันเซล ยังคงเป็นผู้นำ ส่วน อัล-อัตติยาห์ หมดโอกาสป้องกันแชมพ์แล้ว เนื่องจากเครื่องยนต์มีปัญหาจนไม่สามารถแก้ไขได้ ส่งผลให้ต้องขอถอนตัวออกจากการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย
การแข่งขันยังคงมีการเปลี่ยนมือแชมพ์กันอีกครั้งในสเตจ 10 โดย เตร์ราโนวา นักขับชาวอาร์เจนตินา ของทีม บีเอมดับเบิลยู คว้าชัยในสเตจนี้ ทำเวลา 3 ชั่วโมง 57 นาที 58 วินาที ตามมาด้วย โรมา เวลา 2 นาที 7 วินาที ส่วน เพเทร์ฮันเซล เข้ามาเป็นอันดับ 3
มาที่สเตจ 11 ภัยธรรมชาติยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับการแข่งขันในสเตจนี้ บนเส้นทางจากเมือง ลา รีโอฆา ไปยังฟีอัมบาลา ระยะทาง 481 กม. โดยเกิดมีน้ำท่วมฉับพลันบนเส้นทาง จากแม่น้ำที่อยู่ใกล้ๆ ทำให้การแข่งขันต้องยุติลงขณะที่ทำการแข่งขันไปเพียง 53 กม. โดยเวลารวม เพเทร์ฮันเซล ยังคงเป็นผู้นำ
หลังผ่านอุปสรรคในสเตจ 11 กลับมาแข่งขันต่อบนเส้นทางจากฟีอัมบาลา ไปยังเมืองโกปิอาโป สเตจ 12 ระยะทาง 715 กม. โรมา มักจะร้อนแรงหลังผ่านอุปสรรค โดยเข้าเส้นชัยอันดับแรกอีกครั้ง ด้วยเวลา 3 ชั่วโมง 36 นาที 34 วินาที
เข้าสู่สเตจ 13 เส้นทางโกปิอาโป ไปยังลา เซเรนา เราเริ่มเห็นว่าที่แชมพ์ปีนี้ หลังจากคู่ปรับสำคัญ อัล-อัตติยาห์ และเซนซ์ นักขับจากสเปน ต่างมีอันต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันไป โดย เพเทร์ฮันเซล จบการแข่งขัน ด้วยเวลารวมห่างจากอันดับ 2 เกือบ 45 นาที ส่วนแชมพ์ประจำสเตจเป็นของ กอร์ดอน นักแข่งชาวอเมริกัน จากทีม ฮัมเมอร์ ทำเวลาได้ 3 ชั่วโมง 40 นาที 53 วินาที
สุดท้ายของการแข่งขัน หลังผ่านเส้นทางหฤโหดไม่ต่ำกว่า 8,400 กม. และเจอกับภัยธรรมชาติที่ไม่คาดคิด ซึ่งตำแหน่งแชมพ์ก็ไม่มีพลิกโผ และเป็นไปตามคาดหมาย โดย เพเทร์ฮันเซล นักขับชาวฝรั่งเศส วัย 47 ปี สังกัดทีม มีนี สามารถคว้าชัยชนะเป็นสมัยที่ 11 และเป็นแชมพ์สมัยที่ 5 ในประเภทรถยนต์ โดยทำเวลาได้ทั้งสิ้น 38 ชั่วโมง 32 นาที 39 วินาที เอาชนะ ฌีนีล เดอ วิลลิเอร์ส์ (GINIEL DE VILLIERS) นักขับจากแอฟริกาใต้ ที่จบการแข่งขันปีนี้คว้าอันดับที่ 2 ด้วยเวลาตามหลัง 42 นาที 22 วินาที ส่วนแชมพ์สเตจที่ 14 ก็คือ โรมา นักขับจากแดนกระทิงดุ เพื่อนร่วมทีม มีนี ของ เพเทร์ฮันเซล ที่ทำเวลาได้ 1 ชั่วโมง 44 นาที 10 วินาที
[table]
ผลการแข่งขัน ดาการ์ แรลลี 2013
ประเภทรถยนต์
อันดับ, ผู้ขับ ,ประเทศ/รุ่นรถ ,เวลา
1 ,นานี โรมา, สเปน/มีนี, 1 ชั่วโมง 44 นาที 10 วินาที
2, โอร์ลันโด เตร์ราโนวา, อาร์เจนตินา/บีเอมดับเบิลยู, ตามหลัง 13 วินาที
3 ,ลูซีโอ อัลวาเรซ ,อาร์เจนตินา/โตโยตา ,ตามหลัง 31 วินาที
4 ,ฌีนีล เดอ วิลลิเอร์ส์ ,แอฟริกาใต้/โตโยตา, ตามหลัง 1 นาที 27 วินาที
5 ,เกอแลง ชีเชอริต, ฝรั่งเศส/บักกี, ตามหลัง 2 นาที 5 วินาที
โอเวอร์ออลล์
อันดับ, ผู้ขับ, ประเทศ/รุ่นรถ, เวลา
1 ,ชเตฟาเน เพเทร์ฮันเซล, ฝรั่งเศส/มีนี, 38 ชั่วโมง 32 นาที 39 วินาที
2 ,ฌีนีล เดอ วิลลิเอร์ส์, แอฟริกาใต้/โตโยตา ,ตามหลัง 42 นาที 22 วินาที
3, เลโอนิด โนวิสต์กีย์, รัสเซีย/มีนี, ตามหลัง 1 ชั่วโมง 28 นาที 22 วินาที
4 ,นานี โรมา ,สเปน/มีนี, ตามหลัง 1 ชั่วโมง 36 นาที 43 วินาที
5 ,โอร์ลันโด เตร์ราโนวา, อาร์เจนตินา/บีเอมดับเบิลยู ,ตามหลัง 1 ชั่วโมง 49 นาที 10 วินาที
[/table]
ABOUT THE AUTHOR
อ
อิมพเรซา
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2556
คอลัมน์ Online : เจาะสนามแข่งต่างประเทศ