หลังจากเปิดตัวสปอร์ทซีดานตัวเก่งประจำค่ายไปแล้วที่เมืองนอก ล่าสุดค่าย โพร์เช เสริมทัพตามกันมาด้วยรุ่นขุมกำลังไฮบริดแบบ พลัก-อิน พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาขุมกำลังระบบไฮบริด ประกอบไปด้วย เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ วี 6 สูบ ขนาด 2.9 ลิตร กำลังสูงสุด 330 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 136 แรงม้า คิดเป็นกำลังทั้งระบบที่ 462 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติของ โพร์เช (PDK) 8 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.6 วินาที ภายใต้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยเพียง 40 กม./ลิตร หากชาร์จกระแสไฟฟ้าเต็มสามารถแล่นได้ด้วยไฟฟ้าล้วน เป็นระยะทางสูงสุด 50 กม. ใช้เวลาชาร์จกระแสไฟฟ้าเต็ม (จากครัวเรือน) ในเวลา 5.8 ชม. หากชาร์จแบบเร่งด่วนจะใช้เวลาที่ 3.6 ชม. รูปทรงภายนอกใกล้เคียงกับ พานาเมรา รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในเมืองนอกไปไม่นาน เสริมความแตกต่างเล็กน้อย เช่น คาลิเพอร์เบรคสีเขียวอ่อน รวมถึงสีเขียวอ่อนที่โลโก อี-ไฮบริด บริเวณช่องระบายอากาศด้านข้าง และโลโก พานาเมรา 4 ด้านท้ายตัวถัง ภายในห้องโดยสารติดตั้งอุปกรณ์ใช้งานที่ทันสมัย พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน พร้อมปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ที่แตกต่างจาก โพร์เช รุ่นอื่นๆ ซึ่งตามปกติแล้วจะมีโหมด สปอร์ท และ สปอร์ท พลัส เท่านั้น แต่ของ พานาเมรา 4 อี-ไฮบริด เพิ่มโหมด ไฮบริด ออโท (Hybrid Auto) อี-เพาเวอร์ (E-Power) อี-โฮลด์ (E-Hold) และ อี-ชาร์จ (E-Charge) แต่ละโหมดมีลักษณะการทำงานคร่าวๆ ดังนี้ โหมด อี-เพาเวอร์ ด้วยพลังงานไฟฟ้าส่วนของ โหมด ไฮบริด ออโท เป็นรูปแบบการขับขี่ที่ได้รับการคิดค้นและพัฒนาขึ้นใหม่ เมื่อผู้ขับขี่เลือกใช้งานรูปแบบดังกล่าว พานาเมรา จะปรับตั้งการทำงานของระบบขับเคลื่อนทั้งหมดโดยอัตโนมัติเพื่อรองรับการขับขี่ที่ให้ประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด ถัดมา คือ โหมด อี-โฮลด์ เปิดโอกาสให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการทำงานของระบบการชาร์จพลังงานได้อย่างเต็มที่ พร้อมรองรับการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % และโหมด อี-ชาร์จ เครื่องยนต์ เบนซิน วี 6 สูบ จะรับบทบาทในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าคืนกลับให้แก่ระบบ ในการเลือกใช้งานรูปแบบการขับขี่ลักษณะนี้เครื่องยนต์เบนซินอาจทำงานมากกว่าความต้องการใช้กำลังจากเครื่องยนต์เพื่อรองรับการขับขี่ในขณะนั้น ขณะที่รูปแบบการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะสูงสุดนั้นอยู่ในโหมด สปอร์ท และ สปอร์ท พลัส เครื่องยนต์สันดาปจะทำงานอย่างเต็มที่ต่อเนื่องเมื่อเลือกใช้ลักษณะการขับขี่ใน 2 รูปแบบทั้งสอง สำหรับโหมด สปอร์ท อัตราการชาร์จพลังงานไฟฟ้าคืนกลับไปยังแบทเตอรีนั้นจะถูกกำหนดให้อยู่ในระดับที่ต่ำสุด เพื่อให้แน่ใจว่าระบบขับเคลื่อนจะมีกำลังสำรองเพียงพอในการตอบสนอง และรองรับการขับขี่แบบเน้นสมรรถนะอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่ผู้ขับขี่ต้องการ ส่วนรูปแบบการขับ สปอร์ท พลัส จะเป็นลักษณะการทำงานที่สมรรถนะสูงสุด สปอร์ทซีดานรุ่นนี้ให้ทำความเร็วสูงสุดระดับ 278 กม./ชม. และระบบจะทำการชาร์จพลังงานไฟฟ้าในอัตราที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ จากการช่วยเหลือของเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ โพร์เช พานาเมรา 4 อี-ไฮบริด สปอร์ทซีดาน ขุมกำลังไฮบริดแบบ พลัก-อิน เตรียมเปิดตัวที่เมืองนอกเร็วๆ นี้ ส่วนบ้านเราคงต้องอดใจรออีกเล็กน้อย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Porsche Centre Bangkok ถ. วิภาวดีรังสิตโทร. 02-522-6655 Porsche Centre Pattanakarn ถ. พัฒนาการโทร. 02-369-1111 Porsche City Showroom Siam Paragon ชั้น 2 โทร. 02-610-9911 เวบไซท์ของผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ : AAS Auto Service Ltd.