ปัจจุบันขุมพลังแบบเทอร์โบยังคงได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง จากเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ที่ทันสมัยกว่าแต่ก่อน อย่างไรก็ตามปัญหาการตอบสนองในช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำ หรือ เทอร์โบแลก (Turbo Lag) ยังคงมีให้สัมผัส แม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม แต่อาจส่งผลต่อสมรรถนะโดยรวม ทาง Mercedes-AMG จึงคิดค้นระบบอัดอากาศรูปแบบใหม่ นั่นคือ การรวมกันระหว่าง เทอร์โบ และซูเพอร์ชาร์จไฟฟ้าระบบซูเพอร์ชาร์จเดิมจะใช้การต่อสายพานเข้ากับตัวเครื่องยนต์ ทำให้มีการตอบสนองที่ดีในช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำ แต่บั่นทอนพละกำลังของเครื่องยนต์พอสมควร ปัจจุบันแทบไม่มีรถยนต์รุ่นไหนใช้งานระบบอัดอากาศประเภทนี้แล้ว แต่ระบบใหม่ของ Mercedes-AMG จะเป็นซูเพอร์ชาร์จที่ทำงานด้วยไฟฟ้า ไม่เป็นภาระกับเครื่องยนต์ แหล่งกำเนิดพลังงานไฟฟ้าจะคล้ายกับระบบไฮบริด นั่นคือ มีตัวสร้างกระแสไฟฟ้า EQ Boost Starter-Alternator ติดตั้งระหว่างเครื่องยนต์ และชุดส่งกำลัง ป้อนพลังงานไฟฟ้าให้กับชุดแบทเตอรีขนาดกระทัดรัด ผลลัพธ์ คือ เครื่องยนต์สำหรับตัวแรงรหัส AMG 53 ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง ขนาด 3.0 ลิตร พ่วงทั้งเทอร์โบ และซูเพอร์ชาร์จไฟฟ้า โดยระบบของ EQ Boost Starter-Alternator สามารถร้างพละกำลังเพิ่มเติมอีก 22 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดอีก 25.5 กก.-ม. เลยทีเดียว เพิ่มเติมจากพละกำลังของเครื่องยนต์ที่ 435 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุดที่ 53.1 กก.-ม. เตรียมวางอยู่ในตัวแรง 3 รุ่น ได้แก่ สปอร์ทซีดานระดับหรูรุ่นล่าสุด นั่นคือ Mercedes-AMG CLS 53 4Matic+ ตามด้วยสปอร์ทคูเป Mercedes-AMG E 53 4Matic+ Coupe รวมถึงรุ่นเปิดประทุน Mercedes-AMG E 53 4Matic+ Cabriolet อัตราเร่งของเครื่องยนต์ระบบใหม่ 0-100 กม./ชม. ใน 4.5 วินาที (ยกเว้น E 53 4Matic+ Coupe คือ 4.4 วินาที) อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 11.9 กม./ลิตร (ยกเว้นรุ่น E 53 4Matic+ Cabriolet อยู่ที่ 11.8 กม./ลิตร) แต่ละรุ่นมีความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม. ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ สามารถเลือกโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย ได้แก่ Eco Comfort Sport Sport+ และ Individual ตกแต่งหรูสมความสปอร์ทระดับ AMG ปรับแต่งระบบรองรับ และการตอบสนองของพวงมาลัยได้หลายระดับ พร้อมระบบความปลอดภัยที่ครบครัน ขุมพลังรูปแบบใหม่ภายใต้รหัส AMG 53 ถูกเปิดตัวแล้วในงาน North America International Auto Show 2018 หรือ Detroit Auto Show 2018 และเชื่อว่าจะถูกเตรียมนำมาใช้กับตัวแรงของ Mercedes-AMG อีกหลายรุ่นในอนาคต
บทความแนะนำ