ค่ายรถยนต์บแรนด์ดังทั้ง มิตซูบิชิ ฮอนดา มาซดา และโตโยตา เรียกรถที่ติดตั้งถุงลมนิรภัย ทาคาตะ (Takata) เข้าตรวจสอบ แก้ไข และเปลี่ยนอุปกรณ์แล้วถุงลมนิรภัย ทาคาตะ บรรจุสารแอมโมเนียมไนเตรท ถุงลมนิรภัยของ ทาคาตะ เริ่มผลิตตั้งแต่ปี 1990 มีลักษณะเป็นกล่องเหล็กขนาดเล็ก ภายในจะบรรจุสารสารแอมโมเนียมไนเตรท (Ammonium Nitrate) เป็นส่วนประกอบหลัก เนื่องจากขณะนั้นสารแอมโมเนียมไนเตรทมีราคาถูกและผลิตได้ครั้งละเป็นจำนวนมาก แต่ ทาคาตะ ไม่ได้สนใจเรื่องสภาพแวดล้อมภายในห้องโดยสาร ซึ่งมีทั้งความร้อนและชื้น แตกต่างกันไปทุกช่วงเวลา ทำให้สารเคมีที่บรรจุอยู่ภายในมีค่าไม่เสถียร เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน จะถูกจุดระเบิดอย่างรุนแรง ส่งผลให้ชิ้นส่วนของถุงลมที่เป็นโลหะแตกตัว เป็นอันตรายต่อผู้ขับและผู้โดยสารภายในรถ มีผู้เสียชีวิตจากถุงลมนิรภัย ทำให้ถูกสอบสวน ตั้งแต่ปี 2003 ทาคาตะ เริ่มรับรู้ถึงการทำงานที่ผิดพลาดของถุงลมนิรภัย จากผู้ใช้งานในประเทศสวิทเซอร์แลนด์ และเรียกแก้ไขถุงลมนิรภัยใน ฮอนดา แอคคอร์ด และซีวิค รวมแล้วจำนวน 4,600 คัน ในปี 2008 ปี 2009 มีรายงานผู้เสียชีวิตจากถุงลมนิรภัย ทาคาตะ ที่สหรัฐฯ ในรถยนต์ ฮอนดา แอคคอร์ด รุ่นปี 2001 นำไปสู่การเรียกคืนถุงลมนิรภัยในรถ ฮอนดา อีกกว่า 285,000 คัน ในขณะนั้น ปี 2014 กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ เริ่มกระบวนการสอบสวน หลังตรวจพบว่าพนักงานของ ทาคาตะ ปกปิดปัญหาถุงลมนิรภัยมาโดยตลอด จนในภายหลัง ทาคาตะ ต้องออกมายอมรับ และขอโทษต่อสาธารณชน ตามมาด้วยการประกาศยุติการผลิตถุงลมนิรภัยที่ใช้สารแอมโมเนียมไนเตรท จนกระทั่งในปี 2017 ทาคาตะ ได้ยอมรับผิดต่อกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ในข้อหาก่ออาชญากรรม กรณีปกปิดข้อผิดพลาดและปลอมแปลงผลการทดสอบถุงลมนิรภัยต่อค่ายรถยนต์ตั้งแต่ปี 2000 จนนำไปสู่เหตุการณ์ถุงลมนิรภัยระเบิด และมีผู้เสียชีวิตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และต้องเสียค่าปรับถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้บริษัทถึงกับล้มละลาย และต้องขายสินทรัพย์ทั้งหมดให้แก่ Key Safety Systems (KSS) ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของสหรัฐฯ ค่ายรถ 4 บแรนด์ในไทย เรียกตรวจสอบถุงลม - มิตซูบิชิ มิตซูบิชิ ได้ส่งจดหมาย และข้อความ SMS แจ้งไปยังลูกค้า ที่ใช้รถยนต์ 4 รุ่น ประกอบไปด้วย ทไรทัน ปี 2005 - 2014, แลนเซอร์ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ปี 2006, ปาเจโร รถยนต์นำเข้า ปี 2008 - 2009 และเดลิคา สเปศ แวกอน รถยนต์นำเข้า ปี 2015 รวมทั้งสิ้น 102,843 คัน ให้นำรถไปเปลี่ยนชิ้นส่วนถุงลมนิรภัยของ ทาคาตะ สามารถตรวจสอบได้ที่ https://vinsearch.mitsubishi-motors.co.th/ - โตโยตา จากการตรวจสอบ พบว่ามีรถยนต์โตโยตา และเลกซัส ทั้งหมด 484,914 คัน ที่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนถุงลมนิรภัย โดยเรียกตรวจสอบตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปัจจุบันมีลูกค้าได้นำรถเข้ามาเปลี่ยนชุดถุงลมนิรภัยไปแล้ว 107,243 คัน โตโยตา จึงออกมาย้ำให้ลูกค้านำรถเข้ามาตรวจสอบที่ศูนย์บริการของผู้แทนจำหน่าย โตโยตา 471 แห่งทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รถทั้ง 6 รุ่น ได้แก่ โตโยตา อัลฟาร์ด ปี 2009 - 2014, แคมรี ปี 2001 - 2006, วีออส ปี 2007 - 2013, ยารีส ปี 2006 - 2013, เลกซัส อาร์เอกซ์ ปี 2015 - 2016, เลกซัส ไอเอส ปี 2006 - 2012 สามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.toyota.co.th/ssc/toyota/ - ฮอนดา บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เรียกรถที่เข้าข่ายดังกล่าวมาตรวจสอบตั้งแต่ปี 2559 - 2560 จำนวนรวมกว่า 6 แสนคัน ในรถรุ่น ซิที, แจซซ์, แจซซ์ ไฮบริด, แจซซ์ (นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น), ฟรีด รุ่นปี 2012, แอคคอร์ด, แอคคอร์ด (นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น) รุ่นปี 2012, แอคคอร์ด รุ่นปี 2003 - 2007, ออดิสซีย์ รุ่นปี 2004 - 2006 และเลเจนด์ รุ่นปี 2007 สามารถตรวจสอบได้ที่ https://vinsearch.honda.co.th - มาซดา มาซดา พบรถยนต์ที่เข้าข่ายจำนวน 102,296 คัน และได้เริ่มทยอยส่งจดหมายเรียกลูกค้ามาตรวจสอบ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017 ได้แก่รุ่น มาซดา 2 ปี 2009 - 2014 จำนวน 101,436 คัน, มาซดา บีที-50 ปี 2006 - 2011 จำนวน 710 คัน และซีเอกซ์-9 ปี 2007 - 2012 จำนวน 126 คัน ซึ่งขณะนี้พบว่าลูกค้าเกือบทั้งหมดนำรถเข้ามารับบริการเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงบางส่วนเท่านั้น สามารถตรวจสอบได้ที่ https://mservice.mazda.co.th/vincheck
บทความแนะนำ