ทดสอบ
Subaru Forester 2.0 I-S สบายแบบ 5 ที่นั่ง ลุย 4 ล้อ สไตล์เจ้าป่า
เมื่อ 4 ปีก่อน 4 WHEELS เคยนำครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ (SUBARU FORESTER) ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาทดสอบด้วยเครื่องมือดาทรอน เพื่อให้รู้ถึงสมรรถนะ อัตราสิ้นเปลือง และความน่าใช้ ครั้งนี้ก็ถึงรอบเปลี่ยนแปลง เราจึงนำ ฟอเรสเตอร์ ปี 2019 รุ่น 2.0 ไอ-เอส มาทดสอบเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม
ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ใหม่ โฉบเฉี่ยวและทันสมัยขึ้น โดยมีมิติตัวรถ 4,625/1,815/1,730 มม. ยาวและกว้างกว่าเดิม 30/20มม. (รุ่น 2015 อยู่ที่ 4,595/1,795/1,735 มม.) ขณะที่ระยะฐานล้อ 2,670 มม. ยาวกว่า 30 มม. (รุ่น 2015 อยู่ที่ 2,640 มม.) แต่สัดส่วนตัวรถกระชับและระยะฐานล้อสั้นกว่า เอกซ์-ทเรล อยู่เล็กน้อย
รูปทรงไฟหน้าดูโฉบเฉี่ยว หลอดไฟหน้าแบบเอชไอดี ปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ แบบพโรเจคเตอร์ ทันสมัยด้วยไฟดีอาร์แอล แอลอีดี แบบเส้นนำแสง ที่จะสว่างขึ้นเมื่อเปิดไฟหรี่ ไฟตัดหมอกหน้าแบบแอลอีดี และยังมีระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้า ติดตั้งระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟเลี้ยวขนาดใหญ่ ออกแบบรูปทรงให้ลดเสียงลมปะทะ กระจังหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมู มีโลโกกลุ่มดาวลูกไก่ ที่เป็นเอกลักษณโดดเด่นของบแรนด์นี้
กระจกมองข้างพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวแบบแอลอีดี สปอยเลอร์หลังคา เสาอากาศแบบครีบฉลาม ซันรูฟขนาดใหญ่ แผ่นกันกระแทกใต้กันชนหน้า/หลัง และกาบกันกระแทกด้านข้าง สีเงิน ราวหลังคาพร้อมรู สำหรับติดอุปกรณ์เสริม เพิ่มความสปอร์ทดูทันสมัยมากขึ้น เติมเต็มด้วยล้ออลูมิเนียมอัลลอย ขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/50 R18
ภายในโทนสีดำ ดูสปอร์ท เรียบง่าย เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง ปรับไฟฟ้าคู่หน้า ออกแบบกระชับเข้ารูป
ส่วนเบาะหลัง สไตล์เรียบๆ มีปีกเบาะ สำหรับช่วยรับสรีระ สามารถปรับเอนและปรับพับได้ 60/40 ทั้งจากการดึงสลักที่ตัวเบาะ หรือการกดปุ่มบริเวณห้องเก็บสัมภาระท้าย แบบวันทัช มีราวอลูมิเนียมผ้าใบมาให้
เรือนไมล์แบบสปอร์ท พร้อมทริพมิเตอร์ คอนโซลกลางด้านบน มาตรวัดอเนกประสงค์ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงผลแบบอัจฉริยะ บอกข้อมูลได้ละเอียด ระบบ X-MODE แยกการทำงานของแต่ละล้อแบบเปอร์เซนต์ นอกจากนี้ ระบบเครื่องเสียงแบบมีหน้าจอขนาด 8.0 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง หน้าจอยังเชื่อมต่อกับกล้องมองภาพด้านหลัง ช่วยให้ถอยจอดในที่แคบได้อย่างปลอดภัย เครื่องเสียงแบบ 2 DIN มาพร้อมลำโพง 8 ตัว ซึ่งสามารถเชื่อมต่อบลูทูธได้
พวงมาลัยทรงสปอร์ทแบบ 3 ก้าน ดูทันสมัย แบบมัลทิฟังค์ชัน เชื่อมต่อโทรศัพท์, ครูสคอนทโรล และโหมดการขับขี่แบบสปอร์ท SI-DRIVE (Subaru Intelligent Drive) ใต้พวงมาลัยยังติดตั้งแป้นแพดเดิล ชิฟท์ สำหรับปรับเปลี่ยนเกียร์ ในแบบแมนวลโหมด ระบบเครื่องปรับอากาศแบบปรับแยกซ้าย/ขวา พร้อมช่องลมแอร์ด้านหลัง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า เบาะหลังปรับเอนได้ กระจกซันรูฟขนาดใหญ่ เปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า ม่านกั้นที่เก็บสัมภาระแบบเก็บได้
ผลการวัดระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสารของ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ทำได้ในเกณฑ์ดี อยู่ที่ 51/54/58/63 เดซิเบล เงียบกว่ารุ่นเดิมถึง 5 เดซิเบล เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง นิสสัน เอกซ์-ทเรล 2.0 วี ไฮบริด ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร เงียบกว่าทุกช่วงความเร็ว และยังเงียบสุดในกลุ่มของครอสส์โอเวอร์เอสยูวี เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ อีกด้วย
เครื่องยนต์สูบนอน บอกเซอร์ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงมากกว่ารุ่นเดิมและใช้รอบเครื่องยนต์น้อยลงเล็กน้อย (รุ่น 2015 อยู่ที่ 150 แรงม้า ที่ 6,200 รตน.) แรงบิดสูงสุด 20.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. ใกล้เคียงรุ่นเดิม (รุ่น 2015 แรงบิดสูงสุด 20.2 กก.-ม. ที่ 4,200 รตน.) ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ ซีวีที แบบลิเนียร์ทรอนิค ส่งกำลังลงสู่ล้อทั้ง 4 ด้วยระบบ AWD แบบสมมาตร อันลือชื่อของ ซูบารุ ถ่ายโอนกำลังไปยังล้อทั้ง 4 อย่างสมดุล พร้อมโหมด SNOW/DIRT สำหรับพื้นผิวลื่นที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสิ่งสกปรกหรือกรวด และ DEEP SNOW/MUD สำหรับถนนที่ทุรกันดารโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยางติดหิมะหรือโคลน ช่วยให้ขับเคลื่อนไปได้ทุกสภาพเส้นทาง
เครื่องยนต์ตอบสนองดี อัตราเร่งพอตัว จากผลทดสอบด้วยดาทรอน พบว่า อัตราเร่งตีนต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. รวมทั้งความเร็วปลาย 0-1,000 ม. ทำได้ 12.8/19.1/34.1 วินาที อยู่ในเกณฑ์พอใช้ พอๆ กับรุ่นเดิม (12.9/19.0/34.1 วินาที) ตามหลัง มาซดา ซีเอกซ์-5 2.0 เอสพี ที่ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า กำลัง 165 แรงม้า (11.5/18.1/32.9 วินาที) และนิสสัน เอกซ์-ทเรล 2.0 วี ไฮบริด ที่มีกำลังรวม 179 แรงม้า ทุกช่วง (10.4/17.5/32.0 วินาที)
อัตราสิ้นเปลืองของ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 ไอ-เอส ช่วงความเร็ว 60/100/120 กม./ชม. ทำได้ประหยัดในเกณฑ์ดี มีช่วงความเร็ว 60/80/100/120 กม./ชม. ที่ทำได้ 27.4/20.6/16.1/11.8 กม./ลิตร โดดเด่น ประหยัดมาก เทียบกับกลุ่มขับเคลื่อน 4 ล้อ อย่าง เอกซ์-ทเรล 2.0 วี ไฮบริด ที่ทำได้ 21.8/15.7/13.3/10.4 กม./ลิตร แต่เป็นรองครอสส์โอเวอร์ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า อย่าง ซีเอกซ์-5 เอสพี ที่ทำไว้ 28.4/23.4/16.4/13.2 กม./ลิตร
ระบบรองรับด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบดับเบิลวิชโบน เซทชอคอับและสปริง ที่เน้นความนุ่มนวลในแบบรถอเนกประสงค์มากขึ้น ขับแล้วรู้สึกถึงความสบายกว่า เอกซ์วี ที่เซทช่วงล่างแบบสปอร์ท ระยะยืดยุบน้อย ติดตั้งระบบเบรคแบบจาน พร้อมครีบระบายความร้อน ทั้งหน้าและหลัง เสริมด้วยระบบ ABS ป้องกันล้อลอค ระบบกระจายแรงเบรค EBD และระบบเสริมแรงเบรค BA ตลอดจนระบบ HSA ช่วยออกตัวบนทางชัน ระบบ HDC ช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน และยังมีระบบ VDC ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบ TCS ควบคุมการลื่นไถล
จากผลทดสอบเบรค ที่ความเร็ว 60-0 กม./ชม. ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 ไอ-เอส ทำได้ดีมาก ระยะเบรคสั้นเพียง 15.1 ม. เบรคที่ความเร็ว 80-0 กม./ชม. ระยะเบรคดี 27.6 ม. เบรคที่ความเร็ว 100-0 กม./ชม. ประสิทธิภาพเบรค 43.0 ม. ลดลงเล็กน้อย ใช้ระยะทางมากกว่า ซีเอกซ์-5 2.0 เอสพี ที่ทำไว้ 14.9/26.3/41.8 ม. แต่ยังใช้ระยะทางสั้นกว่ารุ่นเดิม ที่ทำไว้ 15.6/28.6/44.0 ม. และสั้นกว่า เอกซ์-ทเรล 2.0 วี ไฮบริด ที่ต้องการระยะถึง 16.1/29.0/46.3 ม.
ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 ไอ-เอส เป็นครอสส์โอเวอร์เอสยูวีที่ครบเครื่อง หน้าตาและอุปกรณ์ตกแต่ง ดูพรีเมียม และดึงดูดสายตามากกว่าเดิม จุดเด่นอยู่ที่เรื่องสมรรถนะและเทคโนโลยีเครื่องยนต์สูบนอน ที่มีชื่อเสียงมานาน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ X-DRIVE มีโหมด SI DRIVE เพิ่มความสปอร์ท ให้ความรู้สึกในการขับที่เร้าใจ
ข้อมูลจำเพาะ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 ไอ-เอส
ผู้จำหน่าย บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2725-1888
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,625 x 1,815 x 1,730
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,565/1,570
ฐานล้อ (มม.) 2,670
น้ำหนัก (กก.) 1,542
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 63
เครื่องยนต์
แบบ เบนซิน 4 สูบนอน DOHC 16 วาล์ว
ความจุ (ซีซี) 1,995
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 84.0/90.0
อัตราส่วนกำลังอัด 12.5:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 156/6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 20.0/4,000
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีดตรง ไดเรคท์อินเจคชัน
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ ซีวีที มีบวก/ลบ
ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 ตลอดเวลา
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระ ปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ฟันเฟืองและตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์แบบไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบิดี บีเอ
หน้า จาน แบบมีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน แบบมีช่องระบายความร้อน
ราคา (บาท) 1,060,000*
*ยังไม่รวมราคาอุปกรณ์เสริม รับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 100,000 กม. บริการช่วยเหลือ 24 ชม. /3 ปี และเซนเซอร์ถอยหลัง 320,000 บาท
ผลทดสอบจากเครื่องวัดสมรรถนะดาทรอน
อัตราเร่ง (วินาที)
0-60 กม./ชม. 6.3
0-80 กม./ชม. 9.1
0-100 กม./ชม. 12.8
0-120 กม./ชม. 17.8
0-140 กม./ชม. 24.2
0-400 ม. 19.1 ที่ความเร็ว 124.8 กม./ชม.
0-1,000 ม. 34.1 ที่ความเร็ว 157.8 กม./ชม.
อัตราเร่งยืดหยุ่น (วินาที)
60-100 กม./ชม. 7.7
80-120 กม./ชม. 8.2
ระยะเบรคที่ความเร็ว (ม./ค่าจี)
60-0 กม./ชม. 15.1/0.94
80-0 กม./ชม. 27.6/0.91
100-0 กม./ชม. 43.0/0.92
ระดับเสียงรบกวนในห้องโดยสาร (เดซิเบล A)
ที่ความเร็ว 0 กม./ชม. (จอดนิ่ง) 38
ที่ความเร็ว 60 กม./ชม. 51
ที่ความเร็ว 80 กม./ชม. 54
ที่ความเร็ว 100 กม./ชม. 58
ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. 63
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ความเร็วคงที่ (กม./ชม.) กม./ลิตร ลิตร/100 กม.
60 27.4 3.6
80 20.6 4.9
100 16.1 6.2
120 11.8 8.5
ABOUT THE AUTHOR
thanasan saowamol
ลุงหนึ่ง ฟอร์มูลา ศึกษาวิชาตำรารถมานานกว่า 30 ปี ผ่านร้อนหนาว ตั้งแต่ ยุคเครื่องยนต์ มาถึงยุคมอเตอร์ จะว่าเวอร์ ก็เจอมาหมด
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์,สายชล อรรถาเวชคอลัมน์ Online : ทดสอบ (บก. ออนไลน์)