ทดสอบ
Haval H6 Plug-in Hybrid SUV แบทเตอรีใหญ่ขึ้น วิ่งได้ไกล และประหยัด
หลังจากที่ GWM ประสบความสำเร็จกับยอดจำหน่าย Haval H6 Hybrid SUV รถเอสยูวีไฟฟ้ารุ่นแรก ที่เปิดตัวตั้งแต่กลางปี 2564 รถรุ่นนี้กลายเป็นรถยอดนิยมด้วยยอดจำหน่ายสะสมกว่า 5,400 คัน และ Haval H6 Plug-in Hybrid SUV รุ่นใหม่ กำลังจะสานต่อความสำเร็จ โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกของโลกที่เปิดตัวรถรุ่นนี้
All New Haval H6 Plug-in Hybrid SUV เป็นรถเอสยูวีพลังไฟฟ้าเสียบปลั๊กรุ่นล่าสุดจากบแรนด์ Haval เปิดตัวครั้งแรกในงาน Motor Expo 2021 ช่วงปลายปีที่ผ่านมา สร้างเสียงฮือฮา และล่าสุดเปิดให้จองสิทธิ์ซื้อช่วงเดือนกันยายน สร้างปรากฏการณ์ใหม่กวาดยอดจองทะลุ 3,000 คัน ภายในเวลา 24 ชม.
All New Haval H6 Plug-in Hybrid SUV มีมิติตัวถังที่ใหญ่สุดในคลาสส์ กว้าง 1,886 มม. ยาว 4,683 มม. และสูง 1,730 มม. ระยะฐานล้อ 2,738 มม. พัฒนาบนพแลทฟอร์มโมดูลาร์ GWM LEMON ที่สามารถปรับเปลี่ยน และรองรับเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เป็นพแลทฟอร์มที่มีน้ำหนักเบา ช่วยให้การขับขี่ดีขึ้น ทั้งในแง่ประสิทธิภาพการเร่ง การเบรค และการควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ มีการปรับปรุงให้มีความต้านทานแรงบิดและความแข็งแรง โดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง High-Strength Steel ในการผลิตโครงสร้างมากกว่า 70 % และเหล็กที่มีความแข็งแรงสูงที่ 2000 MPa
กระจังหน้าทรงใหม่ Star Matrix Design ช่วยให้ตัวรถดูทันสมัย ตามสไตล์รถ EV ไฟหน้าแบบ Intelligent LEDให้ความสว่างแบบ Ultra-High Flow ชัดเจน ให้ความปลอดภัยทุกเส้นทาง ด้วยระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และไฟส่องทางหลังดับเครื่องยนต์ ระบบปรับไฟหน้าสูง/ต่ำอัตโนมัติ พร้อมไฟ Daytime Running Light หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค 360 องศา ขนาดใหญ่ 1.2 ตร.ม. เปิดมุมมองใหม่ รับกับทรงสปอยเลอร์ท้าย และเสาอากาศแบบครีบปลาฉลาม ส่วนประตูฝาท้ายเปิด/ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และมีระบบแฮนด์ฟรี ช่วยให้การเปิดประตูด้านท้ายรถในขณะถือสัมภาระทำได้ง่ายขึ้น เสริมด้วยไฟท้าย LED Tailing Strip ดีไซจ์นเป็นแนวยาว มาพร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED ดูล้ำสมัย และเสริมความเท่ด้วยล้ออัลอยลายสปอร์ท ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/55 R19
ภายในห้องโดยสาร ออกแบบสไตล์ Minimalist เน้นความกว้างขวาง สะดวกสบายในทุกตำแหน่งที่นั่ง การออกแบบใส่ใจรายละเอียดด้วยคอนโซลหน้าสีทูโทน พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุสี Rose Gold, Silver, Piano Black, Chrome ให้ความโมเดิร์นในสไตล์ Futuristic ครบครันด้วยฟังค์ชันการใช้งานต่างๆ บางฟังค์ชันอาจจะใช้งานยากหน่อย แต่ก็มีให้ครบทุกการใช้งาน
ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยหน้าจออัจฉริยะ 3 จอ หน้าจอกลางแบบ HD Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP3, Joox และระบบนำทาง ส่วนจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ เป็นจอแบบ HD Multi-Information Display ความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว และจอ Head Up Display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า
เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า พร้อมระบบระบายอากาศฝั่งคนขับ ปรับได้ 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยลดความเมื่อยล้า ส่วนเบาะนั่งโดยสารด้านหลัง พร้อมที่เท้าแขนตรงกลาง และมีช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง และช่องเสียบ USB พื้นที่ห้องโดยสารอเนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยตามต้องการ เบาะหลังพับได้ 60:40 รองรับทุกการบรทุกสัมภาระชิ้นใหญ่ สะดวกสบายเพิ่มขึ้นด้วยแท่นชาร์จไร้สาย, กุญแจ Smart Key, ระบบ Push Start และระบบความบันเทิงต่างๆ ถ่ายทอดคุณภาพเสียงผ่านลำโพง 8 ตำแหน่ง และมีระบบปรับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ
All New Haval H6 Plug-in Hybrid SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 54.0 กก.-ม. (530 นิวตัน-เมตร) ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ DHT ที่สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถไฮบริด เมื่อต้องทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ จะสร้างการขับเคลื่อนที่ให้ทั้งพลัง และความประหยัด
ส่วนระบบการขับขี่ สามารถเลือกได้ทั้ง 2 ระบบ คือ ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า แต่ละระบบจะมาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal, Sport, Eco และ Slippery
สำหรับแบทเตอรี เป็นแบทเตอรีชนิดลิเธียม Ternary ความจุ 34 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 201 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC Standard) หัวชาร์จไฟฟ้าแบบ CCS Type 2 Combo (Combined Charging System) รองรับการชาร์จเร็วด้วยไฟกระแสตรง (DC) และการชาร์จแบบไฟบ้าน (AC) ส่วนระยะเวลาในการชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC (0-80 %) ประมาณ 35 นาที และการชาร์จแบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC (0-100 %) ประมาณ 6 ชม.
ระบบรองรับด้านหน้า แบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบอิสระ มัลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ให้การขับขี่ที่ยึดเกาะถนน
ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และระบบความปลอดภัย จัดมาเต็มพิกัด อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้ง (Intelligent ACC), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA), ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP), ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA), กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI), ระบบช่วยเตือนและเบรคเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB), ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA), ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD), ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCW), ระบบช่วยลงทางลาดชัน (HDC), ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA), ระบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW), ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) และระบบช่วยเตือนความเมื่อยล้าขณะขับขี่ (DFM)
นอกจากนี้ ยังมีฟังค์ชันอัจฉริยะ ที่เสริมการใช้งานของตัวรถ เช่น การอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผ่านระบบออนไลน์ (FOTA), การสั่งงานด้วยเสียง (Voice Command) และ GWM Application เป็นต้น
เราได้ทดลองขับ All New Haval H6 Plug-in Hybrid SUV โดยใช้เส้นทางจากกรุงเทพฯ-นครนายก ระยะทางไป/กลับกว่า 278 กม. ขาไปใช้โหมดไฮบริด ขากลับสลับมาใช้เครื่องยนต์ พบว่าทั้ง 2 โหมด ให้กำลังขับเคลื่อนที่ดี โดยเฉพาะโหมดไฮบริด ให้อัตราเร่งไหลลื่นในทุกช่วงความเร็ว ขับสบายด้วยมุมมองที่กว้าง และชัดเจน ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทำงานได้สอดคล้อง ทั้งระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน และชอบมากกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้ง ทำได้เนียนมาก เข้าโค้งเนียนๆ โดยไม่ต้องกังวล
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งสบายทุกตำแหน่ง เปิดโลกกว้างด้วยหลังคาซันรูฟพาโนรามิค ที่มีพื้นกว้างถึง 1.2 ตร.ม. ทำให้ตัวรถดูกว้างกว่าเดิม ส่วนระบบรองรับทำงานได้ดีในสภาพถนนที่หลากหลาย โดยเฉพาะบนถนนเปียก โดยรวม All New Haval H6 Plug-in Hybrid SUV เป็นรถที่ขับสนุก สมรรถนะดี อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 30.78 กม./ชม. ที่เหลือรอเปิดราคาจำหน่าย ถ้าราคาดีงาม น่าจับจองเลยละ
ข้อมูลจำเพาะ All New Haval H6 Plug-in Hybrid SUV
ผู้แทนจำหน่าย บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0-2668-8888
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,683/1,886/1,730
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,631/1,640
ฐานล้อ (มม.) 2,738
น้ำหนัก (กก.) 1,910
ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 55
เครื่องยนต์
แบบเบนซิน DOHC 4 สูบ เทอร์โบ
ความจุ (ซีซี) 1,499
กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 75.0/84.9
อัตราส่วนกำลังอัด 11.8:1
กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 150/5,500-6,000
แรงบิดสูงสุด (กก.-ม./รตน.) 23.5/1,500-4,000
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง หัวฉีด Direct Injection
มอเตอร์ไฟฟ้า
กำลังสูงสุด (แรงม้า) 177 กิโลวัตต์
แรงบิดสูงสุด (นิวตัน-เมตร) 300
แบทเตอรี
ชนิดลิเธียม Ternary
ความจุแบทเตอรี (กิโลวัตต์ชั่วโมง) 34
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ DHT
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2
ระบบรองรับ
หน้า อิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบฟันเฟือง และตัวหนอน ควบคุมด้วยไฟฟ้า
ระบบห้ามล้อ
แบบ เอบีเอส อีบีดี อีบีเอ
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน
ราคา (บาท) เปิดตัวพร้อมราคาจำหน่ายวันที่ 7 ตุลาคม 2565
เรื่องโดย : ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ทดสอบ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/424137