ตลาดน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทยถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดน้ำมันหล่อลื่นที่ปราบเซียน อีกทั้งยังถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รองจากอินโดนีเซีย ซึ่งมีมูลค่าการสั่งซื้ออยู่ที่ประมาณ 650 ล้านลิตรต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 3-4 % ต่อปี ประกอบไปด้วยตลาดน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ภาคขนส่ง และโรงงานอุตสาหกรรม
พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีจี (PTG) กล่าวว่า “หลังจากที่ได้เริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น “พีที แมกซ์นิทรอน” ภายในสถานีบริการน้ำมันพีที ทั่วประเทศ ในปลายปี 2016 ที่ผ่านมาถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้ใช้เป็นอย่างดี ทำให้ในปี 2018 น้ำมันหล่อลื่น “พีที แมกซ์นิทรอน” มียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องมากกว่า 50 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในส่วนของปีนี้ บริษัทฯ ยังคงมีความมุ่งมั่นในการบุกตลาดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยในปี 2019 ตั้งเป้ายอดขายทั้งประเทศอยู่ที่ 5 ล้านลิตร ด้วยการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ตราสินค้าร่วมกับคู่ค้า สนับสนุนกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ท ขยายช่องทางจัดจำหน่ายไปสู่ตัวแทนจำหน่าย, ร้านค้าอะไหล่ ตลอดจนอู่ซ่อมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงใจกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อผลักดัน “พีที แมกซ์นิทรอน” ให้ก้าวขึ้นเป็นน้ำมันเครื่องอับดับ 1 ในใจคนไทยทั่วประเทศ”
เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพและสมรรถนะระดับโลกของน้ำมันหล่อลื่น “พีที แมกซ์นิทรอน” จึงได้ก้าวเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักของทีม PT Maxnitron Motorsport หลังจากการเฟ้นหานักแข่งที่มีความสามารถ จนกระทั่งได้พบกับ ศิลป์ ธีรนิติ นักขับมือหนึ่ง อดีตนักบินผู้หลงใหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ท จนยอมทิ้งพวงมาลัยเครื่องบิน หันมาจับพวงมาลัยรถแข่งและสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในสนามแข่งระดับประเทศในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า “พีที แมกซ์นิทรอน” สามารถตอบสนองทุกความต้องการของเครื่องยนต์ในทุกสภาวะการใช้งานแม้กระทั่งในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ท
นอกจากนี้ ทางบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนกีฬามอเตอร์สปอร์ทให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมถึงยกระดับวงการมอเตอร์สปอร์ทของประเทศไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลอย่างเต็มภาคภูมิ จึงได้มีการริเริ่มจัดแข่งขันรถยนต์ทางเรียบรายการ PT Maxnitron Super Challenge 2018 ขึ้นในปีที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมการแข่งขันในวงการกีฬาความเร็วในเมืองไทยและการพัฒนาบุคลากรในวงการมอเตอร์สปอร์ท ซึ่งเรียกได้ว่าสามารถทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยม
ศิลป์ ธีรนิติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 63 โปรเจค จำกัด กล่าวว่า “ในการจัดการแข่งขัน PT Maxnitron Super Challenge ในปี 2018 ที่ผ่านมา เราได้รับการตอบรับที่ดีมากจากทีมนักแข่งแนวหน้าระดับประเทศที่ต้องการเข้าร่วมมากกว่า 200 คัน จึงเป็นที่มาของการพัฒนาการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้นจนออกมาเป็นรายการ PT Maxnitron Racing Series 2019 ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันที่มีเงินรางวัลสูงสุดในตอนนี้ และได้มีการยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขัน รวมถึงการรักษาความปลอดภัยขึ้นไปอยู่ในระดับสากล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนและพัฒนาทีมงาน ตั้งแต่ทีมช่าง สตาฟฟ์ ไปจนถึงการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ เพื่อให้มีพร้อมทั้งความรู้และความสามารถเพื่อเข้าแข่งในระดับนานาชาติ”
โดยรายการ PT Maxnitron Racing Series 2019 จะจัดขึ้น ณ สนามที่ถือว่าเป็นสนามคลาสสิค และเป็นตำนานอย่าง สนามพีระ อินเตอร์แนชันแนล เซอร์กิท จังหวัดชลบุรี โดยแบ่งออกเป็น 6 races ใน 3 สนาม สนามที่ 1 วันที่ 27-28 กรกฎาคม 2562 สนามที่ 2 วันที่ 14-15 กันยายน 2562 และ ปิดท้ายสนามที่ 3 วันที่ 9-10 พฤศจิกายน 2562 โดยแบ่งออกเป็น 5 รุ่น คือ 1. Siam GT 2. Siam EG-EK (Twin Cam) 3. Siam EG-EK (Single Cam) 4. Siam 1500 5. Siam ECO
นอกจากนี้ทางทีม PT Maxnitron Motorsport ยังอยากเชิญชวนเหล่านักกีฬา e-sport ที่มีใจรักในความเร็ว และอยากพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง มาเข้าร่วมแข่ง PT Maxnitron Motorsport Project E ผ่านเกม Assetto Corsa ในบรรยากาศการแข่งขันที่เร้าใจไม่ต่างจากในสนามจริง บนสนามจำลองที่เหมือนจริงที่สุด ลุ้นของรางวัลมากมาย พร้อมเฟ้นหานักแข่งหน้าใหม่ เพื่อเข้าร่วมทำการแข่งขันรถยนต์มาราธอนสุดยิ่งใหญ่ Super Endurance 600 สุดยิ่งใหญ่ปลายปี 2019 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงการแข่งขันได้ที่ www.facebook.com/ptmaxnitronmotorsport