สามมิตร เผยความสำเร็จโมเดล “พโรทรัค (Pro Truck)” ศูนย์บริการซ่อมบำรุงรักษารถบรรทุกในรูปแบบเนทเวิร์คครบวงจรเจ้าเดียวในประเทศ เปิดสาขา 10 บางบ่อ เจาะลูกค้าฝั่งตะวันออก เพิ่มความสะดวกด้วยแอพพลิเคชัน "Pro Truck" ชูแนวคิด Data Management จัดการข้อมูลรถบรรทุกในระบบ ให้เชื่อมโยงกับลูกค้าทั้งผู้ใช้บริการ และเจ้าของรถ ต่อยอดสู่การยกระดับบริการหลังการขาย ช่วยลดขั้นตอน และลดต้นทุนลอจิสติคส์
ตฤณ ศิริจารุวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามมิตร พีทีจี โปรทรัค โซลูชัน เซนเตอร์ จำกัด ภายใต้ สามมิตร กรุ๊ป โฮลดิ้งฯ กล่าวว่า ศูนย์บริการพโรทรัค (Pro Truck) เป็นการร่วมทุนระหว่าง บริษัท สามมิตรแมนูแฟคเจอริง จำกัด (มหาชน) และบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เพื่อให้บริการซ่อมบำรุงรักษารถบรรทุก และรถทเรเลอร์ ในรูปแบบศูนย์บริการครบวงจร (One Stop Service) ด้วยช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน บริการด้วยอะไหล่คุณภาพ พร้อมจุดจอดรถ และที่พักผ่อนสำหรับคนขับที่มีความสะดวกสบายและปลอดภัย โดยคำนึงถึงการเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน (Road Safety) ซึ่งสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนใหญ่เกิดมาจากสภาพของรถที่ไม่พร้อมใช้งาน และสภาพร่างกายของคนขับรถที่เหนื่อยล้า ดังนั้นการตรวจเชคสภาพรถ และซ่อมบำรุงรักษาให้พร้อมใช้งานเสมอ จึงเป็นเรื่องสำคัญ และมีส่วนช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
พโรทรัค (Pro Truck) เริ่มเปิดให้บริการในพื้นที่สถานีบริการน้ำมันพีที (PT) มาตั้งแต่ต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ใน 9 สาขาทั่วภูมิภาคของประเทศ ถือว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากผู้ใช้บริการทั่วไป ผู้ประกอบการ และตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุก ที่ยังไม่มั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานของอู่ซ่อมทั่วไป และอาจไม่สะดวกในการเข้ารับบริการจากศูนย์ซ่อมบำรุงของตัวแทนจำหน่ายรถบรรทุกเนื่องจากมีราคาสูง พโรทรัค จึงวาง Positioning เป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้า ด้วยจุดแข็งสำคัญหลายด้าน อาทิ มาตรฐานของช่างที่ได้รับการอบรมร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน อะไหล่คุณภาพที่ได้มาตรฐานผู้ผลิต (OEM) รวมถึงความสะดวกในการเข้ารับบริการ จากการเชื่อมโยงข้อมูลของรถและประวัติการซ่อมผ่านเนทเวิร์ค ทำให้สามารถนำรถเข้าซ่อมที่ พโรทรัค ได้ทุกศูนย์ทั่วประเทศ โดยจากความสำเร็จดังกล่าว บริษัทฯ จึงเดินหน้าเปิด พโรทรัค สาขาที่ 10 บางบ่อ บริเวณถนนบางนา-ตราด ขาออก กม. ที่ 30 เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าฝั่งตะวันออก
พโรทรัค ยังมีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีการจัดเก็บฐานข้อมูลของลูกค้าด้วยแอพพลิเคชัน “Pro Truck” ที่มีฟังค์ชันระบบติดตามข้อมูลที่เชื่อมต่อกับ GPS ของรถ สามารถตรวจสอบตำแหน่งของรถได้แบบเรียลไทม์ เชคตำแหน่งของศูนย์บริการที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งจะสามารถเชคประวัติการซ่อมย้อนหลังได้ เชคสถานะการซ่อมผ่านแอพพลิเคชันได้ทันที จากกล้อง CCTV ที่ติดตั้งไว้ในทุกศูนย์ฯ โดยปัจจุบันมีลูกค้าดาวน์โหลดแอพพลิเคชันแล้วกว่า 2,000 ราย มีจำนวนรถเข้าใช้บริการเฉลี่ยเดือนละ 200-300 คัน ลูกค้าที่เป็น Repeat Customer กว่า 1,100 ราย ในช่วง 1 ปี ที่เปิดดำเนินการ
ตฤณ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากความสำเร็จของการดำเนินงาน และแอพพลิเคชัน Pro Truck จึงมีแนวคิดในการจัดการกับข้อมูลในระบบ (Data Management) เพื่อยกระดับการบริการหลังการขาย ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับลูกค้าได้มากขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยลดขั้นตอน และค่าใช้จ่ายการบริหารจัดการต้นทุนให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยจะมีการเสริมฟังค์ชันใหม่ อาทิ ระบบการแจ้งเตือนการซ่อมล่วงหน้า เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นการนำรถเข้าซ่อมบำรุงตามรอบระยะเวลา ระบบการจองคิวเข้ารับบริการ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาในการนำรถเข้าซ่อมหลายวัน ทางศูนย์สามารถเตรียมอุปกรณ์และอะไหล่ล่วงหน้า เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการ นอกจากนี้ภายในแอพพลิเคชันยังสามารถช่วยประเมินค่าใช้จ่ายได้ล่วงหน้า ประเมินการซ่อม และค่าซ่อม ออนไลน์ ระบบการวางบิลล์ออนไลน์ ลูกค้าสามารถอนุมัติการซ่อมได้ออนไลน์ รวมถึงการทำพโรโมชันต่างๆ ส่งตรงถึงลูกค้า เป็นต้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาคาดว่าจะสามารถใช้ได้ภายในต้นปี 2020
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนงานในการจับมือกับสถาบันการเงินชั้นนำ ต่อยอดแอพพลิเคชัน Pro Truck ให้เป็น Infrastucture ที่สามารถรองรับระบบสินเชื่อรถบรรทุก (Truck Leasing) โดยใช้ประวัติการตรวจซ่อมบำรุงรักษาของรถเป็นฐานข้อมูลในการการันตีคุณภาพของรถ สร้างมาตรฐานราคาของรถบรรทุกมือสอง และการให้สินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถ รวมไปถึงการเพิ่มบริการทางการเงินหลังการปล่อยกู้ อาทิ เพิ่มการกู้เพื่อมาบำรุงรักษา หรือผ่อนจ่ายค่าบำรุงรักษารถ เป็นต้น
ส่วนแผนงานในการขยายสาขา พโรทรัค ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จำนวน 100 สาขา ภายในปี 2024 นั้นยังคงเป็นไปตามที่ตั้งไว้ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณสำหรับการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดรถเชิงพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันรถที่มีขนาด 2 ตันขึ้นไป มีจำนวนรถใหม่สู่ตลาดประมาณ 30,000 คัน/ปี และมีจำนวนรถใหญ่ในตลาด ประมาณ 1 แสนคัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากการก่อสร้างตามโครงการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) เช่น การสร้างถนน ทางด่วน สะพาน รถไฟ สนามบิน และระบบชลประทาน มากขึ้น ความต้องการใช้รถบรรทุก และรถทเรเลอร์ ได้ขยายตัว รวมถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของธุรกิจ E-Commerce ทั้งภายในประเทศ และกลุ่มประเทศอาเซียน ส่งผลให้ธุรกิจลอจิสติคส์เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน
พโรทรัค ถือเป็นกลุ่มธุรกิจบริการดาวรุ่ง ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจจากผู้ผลิตสู่ผู้ให้บริการของ สามมิตร ซึ่งในอนาคตคาดว่าธุรกิจบริการจะเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้ให้กับ สามมิตร กรุ๊ป โฮลดิ้งฯ ในสัดส่วน 5-10 % ของรายได้ทั้งหมด