Grab ผู้นำซูเพอร์แอพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดการอบรมในหัวข้อ “รู้ทันเล่ห์กล ส่งของต้องห้าม 4.0” ให้แก่พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ GrabBike กว่า 200 คน โดยมุ่งส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในด้านกฎหมาย และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพัฒนาทักษะในการสังเกต และเฝ้าระวังพัสดุภัณฑ์ต้องสงสัย ตลอดจนการรับมือกับมิจฉาชีพเพื่อป้องกันตัวเองจากการขนส่งยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย โดยมีพันตำรวจเอกเนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมเป็นวิทยากรพิเศษ
พันตำรวจเอก เนติ วงษ์กุหลาบ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม กล่าวว่า ในปัจจุบันพบว่ามีการลักลอบขนส่งสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงยาเสพติด ผ่านบริการรับ-ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์อยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงได้กำหนดแนวทางการป้องกันการกระทำผิดดังกล่าว ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เป็นวาระเร่งด่วน นอกจากการกำชับให้ผู้ประกอบการเพิ่มความเข้มงวดในการรับ-ส่งพัสดุภัณฑ์แล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังเล็งเห็นความสำคัญในการจัดการอบรมเพื่อให้ความรู้และคำแนะนำแก่ผู้ประกอบการ ตลอดจนบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการกระทำผิด ตั้งแต่การตรวจคัดกรองสิ่งของตั้งแต่ต้นทาง การสังเกตบรรจุภัณฑ์ หรือการหุ้มห่อสินค้า และวิธีปฏิบัติตัวหากพบสิ่งผิดปกติ โดยการจัดอบรมสำหรับผู้ขับขี่ GrabBike ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างของภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการทำงานร่วมกัน
ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ Grab ประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะผู้ให้บริการซูเพอร์แอพที่ตอบสนองทุกความต้องการในชีวิตประจำวัน ความปลอดภัยถือเป็นสิ่งที่ Grab ให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการเดินทางสำหรับผู้โดยสาร และพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่แล้ว เรายังได้พัฒนาระบบมาตรฐานด้านความปลอดภัยให้ครอบคลุมบริการด้านอื่นๆ ของเรา ซึ่งรวมถึงบริการรับ-ส่งพัสดุและเอกสารแบบออนดีมานด์ "GrabExpress" ด้วย ทั้งนี้ Grab มีเป้าหมายที่สอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการรับมือกับปัญหาการลักลอบขนส่งยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายอย่างจริงจัง การจัดอบรมในครั้งนี้นับเป็นโอกาสสำคัญสำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ GrabBike ที่จะได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะในการป้องกันตนเองจากการกระทำผิดดังกล่าว โดย Grab จะยังคงมุ่งมั่นยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมสานต่อความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการป้องกันอาชญากรรม และการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพื่อร่วมสร้างสังคมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นในประเทศไทย
การจัดอบรมในหัวข้อ “รู้ทันเล่ห์กล ส่งของต้องห้าม 4.0” ครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานความปลอดภัยภายใต้แคมเปญ #SaferEveryday ที่ Grab มุ่งมั่นและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายลดอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นให้เป็นศูนย์ พร้อมร่วมส่งเสริมสังคมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย Grabได้ร่วมมือกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศต่างๆ ในการป้องกันอาชญากรรม และการลักลอบขนส่งของที่ผิดกฎหมายผ่านเครือข่ายพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของ Grab