รายงานข่าวจากกรุงเซี่ยงไฮ้ ระบุว่า 2 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ Honda และ Toyota ตัดสินใจส่งรถ Hybrid เครื่องยนต์เบนซิน และมอเตอร์ไฟฟ้า สู่ตลาดในสาธารณรัฐประชาชนจีน แม้ว่ารถที่ติดตั้งเครื่องยนต์นี้ จะไม่ได้รับการสนับสนุนด้านภาษีใดๆ จากรัฐบาลก็ตามแต่แผนการตลาดในครั้งนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง เพราะยอดการขายรถยนต์เครื่องยนต์ Hybrid ของทั้ง 2 ค่าย ซึ่งสวนทางกับสภาวะตกต่ำของการขายรถยนต์ใหม่ และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตต่อไปอีกในอนาคต ภายใต้ข้อบังคับของรัฐบาลจีน รถ Hybrid ถูกจัดอยู่ในประเภทรถยนต์ประหยัดพลังงาน จึงไม่ได้รับการสนับสนุนด้านภาษี เหมือนที่รัฐให้การสนับสนุนรถไฟฟ้า แต่กระนั้นผู้บริโภคชาวจีนก็ให้ความสนใจกับรถ Hybrid ซึ่งทั้ง 2 ค่าย ผลิต และจำหน่ายภายในจีน แม้ราคาของรถ Hybrid จะแพงกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายในระดับเดียวกัน แต่ผู้บริโภคชาวจีนก็ตัดสินใจเลือกใช้ เพราะสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้ราว 30 % ในรอบ 8 เดือนแรกของปี ยอดการขายรถใหม่ในจีน ลดลง 12 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ค่าย Honda กลับเติบโตเพิ่มขึ้น 18 % จากความนิยมของรุ่น Civic Hybrid ซึ่งเป็น 1 ใน 4 รถรุ่น Hybrid ที่จำหน่ายในจีน ขณะเดียวกัน สมาคมรถยนต์นั่งของจีน ก็เปิดเผยตัวเลขการจำหน่ายของค่าย Toyota ในเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 7.7 % จำนวน 893,000 คัน จากการจำหน่ายรถที่ใช้โครงสร้างพื้นฐาน TNGA (Toyota New Global Architecture) ซึ่งมีรถ Hybrid รุ่น Avalon, Camry, Corolla และ Levin ส่วนยอดการจำหน่ายรถ Hybrid ของ Lexus ค่ายรถหรูในเครือ ถือเป็นตัวขับเคลื่อนการขายในประเทศจีน โดยเติบโตเพิ่มขึ้น 34 % จำนวน 42,466 คัน ภายในเวลา 8 เดือน และสามารถทำยอดขายโดยรวมเติบโตได้ 25 % จำนวน 126,854 คัน ขณะที่ค่าย Honda จำหน่ายรถ Hybrid รุ่น CR-V, Accord. Inspire และ Odyssey เพิ่มขึ้น 11 % จำนวน 13,274 คัน ปัจจุบันรัฐบาลจีน กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาที่จะยกเลิกการสนับสนุนด้านภาษีกับรถไฟฟ้า ภายในสิ้นปีหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ราคาจำหน่ายของรถ Hybrid และรถไฟฟ้า จะยิ่งใกล้เคียงกันมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีน ก็เริ่มเห็นความสำคัญของรถ Hybrid ว่าเป็นรถยนต์ที่ช่วยประหยัดพลังงานที่น่าจะให้การสนับสนุน รัฐมนตรีอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี จึงเตรียมยกร่างพโรแกรมที่จะยอมรับผู้ผลิต ให้สามารถนำไปเพิ่มในโควตาการจำหน่ายรถไฟฟ้าได้บางส่วน แม้ว่าความตั้งใจเดิมของโควตานี้ จะกระทำเพื่อบีบให้ค่ายรถยนต์ต้องผลิต และจำหน่ายรถไฟฟ้า แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาว่า ผู้บริโภค จะยังคงเลือกใช้รถไฟฟ้า หรือรถ Hybrid เมื่อถึงกำหนดยกเลิกให้การสนับสนุนหรือไม่
บทความแนะนำ