Mazda CX-30 ได้รับรางวัลพวงมาลัยทองคำ Golden Steering Wheel Award ประจำปี 2562 ประเภทรถยนต์ Small SUV โดยมี ประธาน Mazda ภาคพื้นยุโรป Yasuhiro Aoyama รับมอบรางวัลที่กรุงเบร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งรถ Mazda ได้รับรางวัล Golden Steering Wheel Award ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 โดยก่อนหน้านี้รถ Mazda 323 ได้รับรางวัลในปี 1985 และ 1989 ตามด้วย Mazda 626 ในปี 1992 และ Mazda 2 ในปี 2014รางวัล Golden Steering Wheel Award เป็นหนึ่งในรางวัลรถยนต์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศเยอรมนี ที่ได้รับการสนับสนุนจากนิตยสารยานยนต์ Bild am Sonntag และ Auto Bild โดยปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 44 โดยรางวัลถูกเลือกโดยการโหวทของผู้อ่าน และการประเมินจาก นักข่าวสายยานยนต์ นักแข่งรถ และผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ ร่วมกันลงคะแนนให้กับ "รถยนต์ที่สวยที่สุด" และนวัตกรรมแห่งปี โดยการให้คะแนนเหล่านี้ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ และหลักการถึง 35 ข้อที่แตกต่างกัน Mazda CX-30 ได้รับเลือกในประเภทรถยนต์ Small SUV ซึ่ง Yasuhiro Aoyama ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Mazda ซึ่งเข้าร่วมในพิธีมอบรางวัลในกรุงเบร์ลิน เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน กล่าวว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เราพัฒนาการออกแบบเทคโนโลยี เพื่อผลิตรถยนต์ที่มุ่งเน้นไปที่ความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างมนุษย์และยานยนต์" รายชื่อรถรุ่นอื่นที่ได้รับรางวัล The Golden Steering Wheel 2019 Vehicle classes Small: Audi A1 Sportback Compact: BMW 1 Series Mid-size: Tesla Model 3 (eCar) Small SUV: Mazda CX-30 Mid-size SUV: Jaguar I-PACE (eCar) Large SUV: Audi e-tron (eCar) Sports car: Toyota Supra Most attractive car Auto: BMW 8 Series Best car under 25,000 euros: Skoda Kamiq Best car under 35,000 euros: Kia XCeed Best innovation: Michelin airless tires All New Mazda CX-30 มี ความยาวxกว้างxสูง : 4,395x1,795x1,540 มม. ระยะฐานล้อ: 2,655 มม. ระยะต่ำสุดจากพื้น Ground Clearance 175 mm. เมื่อเทียบกับ CX-3 รุ่นเดิม พบว่า All New Mazda CX-3 รุ่นใหม่จะยาวขึ้น 120 ซม. กว้างขึ้น 3 ซม. เตี้ยลง 1 ซม. ส่วนระยะฐานล้อ ยาวขึ้น 8.5 ซม. และมีระยะ Ground Clearance เพิ่มอีก 1.5 ซม. Mazda CX-30 รถครอสส์โอเวอร์ที่เข้ามาแทน CX-3 โดยพแลทฟอร์มของ Mazda CX-30 ใช้ร่วมกันกับ Mazda 3 ปี 2019 นั่นก็คือ แชสซีส์ใหม่แบบ Skyactiv-Vehicle Architecture แต่ถูกยกสัดส่วนความสูงให้เพิ่มมากขึ้น เครื่องยนต์ของ Mazda CX-30 เวอร์ชันญี่ปุ่น เป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G 2.0 ลิตร 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 20.3 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D 1.8 ลิตร 116 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 27.5 กก.-ม. ที่ 1,600-2,600 รตน. จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Skyactiv-X 2.0 เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร แบบใหม่ล่าสุด ที่มีระบบจุดระเบิดทั้งใช้หัวเทียนจุดระเบิด และใช้กำลังอัด คาดว่าเครื่องยนต์ Skyactiv-X น่าจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมลงประจำการภายในปีหน้า 2020 ซึ่งเป็นปีที่ Mazda Motor จะเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัท เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-X เป็นเครื่องยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่พัฒนาโดย Mazda มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยี Spark Controlled Compression Ignition หรือ SPCCI ซึ่งใช้หลักการจุดระเบิดด้วยแรงอัดคล้ายกับเครื่องยนต์ดีเซล ผสานกับระบบจุดระเบิดด้วยหัวเทียนแบบเครื่องยนต์เบนซินปกติ โดยมีสัดส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 16.3:1 ทำให้มีตัวเลขสมรรถนะมากกว่าเครื่องยนต์ในพิกัดเดียวกัน สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ 180 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 22.8 กก.-ม. ที่รอบเครื่องยนต์เพียง 3,000 รตน. ซึ่งใกล้เคียงกับเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 2.5 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ มาพร้อมระบบซูเพอร์ชาร์เจอร์ บรรจุและอัดอากาศทำงานร่วมกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน และตอบสนองต่อการเหยียบคันเร่งได้อย่างดีเยี่ยม เพิ่มแรงบิดมากขึ้น 10-30 % เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินเดิม ติดตั้งระบบ Mild Hybrid (M Hybrid) เสริมความประหยัด ที่ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ 24V Electrical System และแบทเตอรีแบบ Lithium-ion Battery โดยให้ค่า CO2 ต่ำสุด 96 กรัม/กม. และให้อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงดีสุด 18.51 กม./ลิตร ซึ่ง Mazda เคลมว่าขุมพลังใหม่นี้จะรวมข้อดีของเครื่องยนต์ทั้ง 2 แบบไว้ด้วยกัน คือ ความเร็วปลายสูงแบบเบนซิน และแรงบิดดีแบบดีเซล ภายในห้องโดยสารคล้ายกับ New Mazda 3 มาพร้อมความหรูหรา ผลิตด้วยวัสดุเกรดสูง ออกแบบและพัฒนาใหม่ทุกรายละเอียด โดยออกแบบให้คนขับเป็นจุดศูนย์กลางในการจัดวางตำแหน่งของอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม เบาะฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับ 2 ตำแหน่ง แผงหน้าปัด และมาตรวัดดิจิทอลแบบ TFT LCD หน้าจอ HUD (Head Up Display) แสดงข้อมูลการขับขี่แบบสียิงสะท้อนบนกระจกตรงหน้าผู้ขับ ระบบเชื่อมต่อสื่อสาร Mazda Connect แสดงข้อมูลผ่านหน้าจอสีด้วยจอมอนิเตอร์แบบใหม่ Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่ม Center Commander มาพร้อมเครื่องเสียงจาก Bose® ติดตั้งลำโพง 12 ตำแหน่ง All-new Mazda CX-30 ปี 2020 วางจำหน่ายในญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้น 2,392,500 เยน หรือราว 6.74 แสนบาท โดยวางตำแหน่งการตลาดแทรกกลางระหว่าง Mazda CX-5 และ Mazda CX-3 ซึ่งถ้าดูจากมิติตัวรถ Mazda CX-30 จะมีขนาดใกล้เคียง Honda HR-V และ Toyota C-HR แต่มีขนาดใหญ่กว่า Mazda CX-3 ซึ่งปัจจุบันญี่ปุ่นยังมีจำหน่ายควบคู่กันไป แต่สำหรับประเทศไทยมีโอกาสเป็นไปได้สูงว่า All-new Mazda CX-30 ปี 2020 จะมาแทน Mazda CX-3 แต่ราคาจำหน่ายในญี่ปุ่นเอง ก็ยังแพงกว่า Mazda CX-3 อยู่เล็กน้อย คงต้องรอลุ้นราคาในไทย ที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้า