พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ศึก Moto GP 2019 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เราได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากแฟนมอเตอร์สปอร์ททั้งชาวไทยและทั่วโลก พร้อมรักษาแชมพ์เป็นสนามที่มีผู้ชมสูงที่สุดของฤดูกาลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยมียอดผู้ชมสูงสุดกว่า 226,655 คน และมีสถิติชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นมากกว่า 52.8 % โดยสามารถสร้างรายได้และมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 3,457 ล้านบาท ซึ่งการเป็นเจ้าภาพปีที่ 3 ในปี 2020 เราได้พยายามยกระดับมาตรฐานการจัดการแข่งขันให้ยั่งยืนตามมาตรฐานสากล รวมถึงนำเสนอเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยสู่สายตาคนทั้งโลก เพื่อให้ประเทศไทยเป็นสนามชม Moto GP ที่มีความสุขที่สุดในโลก พร้อมนำพาประเทศไทยไปสู่สายตาชาวโลกอย่างเต็มภาคภูมิ ให้สมกับแนวคิด Thailand to the World ที่เราตั้งใจ ตลอดจนเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือ Sport Tourism Destination ของโลก มั่นใจเงินสะพัดเพิ่มขึ้นเกิน 3,500 ล้านบาท พร้อมชวนแฟนความเร็วร่วมสร้างประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่อีกครั้ง 20-22 มีค. ปีหน้า ตอกย้ำปรากฎการณ์ความนิยมอีกครั้ง
ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากผลการศึกษาจากกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ศึก Moto GP ครั้งนี้ สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและเงินหมุนเวียนให้กับประเทศหลายพันล้านบาท และเกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้นกว่า 5,584 ตำแหน่ง ภาพของประเทศไทยได้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนที่ร่วมทำข่าวกว่า 483 ชีวิต จาก 32 ประเทศทั่วโลก และสามารถสร้างมูลค่าทางการประชาสัมพันธ์ให้ประเทศไทยกว่าหลายพันล้านบาท นับเป็นความคุ้มค่าอย่างยิ่งกับการลงทุนและลงแรงจากภาครัฐ และภาคเอกชนที่ร่วมมือกัน เพราะนอกจากจะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดียิ่งให้กับประเทศไทยในสายตาชาวโลกแล้ว ยังเป็นการใช้งานกีฬาระดับโลกในการสร้างเม็ดเงินให้คนในประเทศโดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดใกล้เคียงได้อย่างมหาศาล พร้อมเชื่อมั่นว่าจะเป็นผลดีสูงสุดกับเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และกีฬาโดยเฉพาะมอเตอร์สปอร์ท รวมไปถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศอย่างแน่นอน
ดำรงชัย เนรมิตตกพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า เรื่องความพร้อมของทางจังหวัดบุรีรัมย์ ขณะนี้เราพร้อมเกิน 100 % แล้ว แม้จะมีเวลาการเตรียมงานไม่มากนัก เมื่อเทียบกับทุกปีที่ผ่านมา แต่เราไม่มีความกังวลแต่อย่างใด เนื่องจากเราได้เรียนรู้ข้อผิดพลาด และมีประสบการณ์จากการจัดการแข่งขันมาแล้วถึง 2 ปี ดังนั้น จึงมีหน่วยงานโดยตรงที่รับผิดชอบในทุกๆ จุดอยู่แล้ว ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีความเข้าใจ และมีประสบการณ์เป็นอย่างดี อีกหนึ่งเรื่องสำคัญสำหรับการจัดงานระดับโลกที่มีผู้เข้าร่วมงานหลักแสนคน คือ การมีอาสาสมัครชาวบุรีรัมย์ที่ร่วมแรงร่วมใจดูแล และอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวในฐานะเจ้าบ้านที่ดีด้วยหัวใจ รวมทั้งการที่เราเพิ่งจัดการแข่งขันไปนั้น ถือเป็นข้อได้เปรียบ เพราะทุกส่วน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยังคงจำประสบการณ์ในวันงาน และแผนการเตรียมงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นด้านสาธารณูปโภค ที่พัก การรักษาความปลอดภัย การคมนาคม เราพร้อมทุกด้าน
ชุมพล สุรพิทยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจหล่อลื่น บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ กล่าวว่า Moto GP ถือเป็นศึกมอเตอร์สปอร์ทอันดับ 1 ของโลกที่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย โออาร์ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของการแข่งขันต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งในปี 2020 จะจัดขึ้นภายใต้ชื่อรายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรองด์ปรีซ์ 2020” โดย โออาร์ ยังคงจัดเต็มในการสนับสนุนการจัดงานและเตรียมกิจกรรมสนุกสนานและสิทธิพิเศษมากมาย ไว้ต้อนรับแฟน ๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ทจากทั่วโลก โดยมั่นใจว่า จากความสำเร็จของการจัดการแข่งขัน Moto GP ในประเทศไทยใน 2 ปีที่ผ่านมา “โออาร์ ไทยแลนด์ กรองด์ปรีซ์ 2020” จะสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจให้แก่ผู้ร่วมงาน รวมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และจะเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญบนหน้าประวัติศาสตร์ของคนไทยที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ “Pride of Thailand”
ตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์ กล่าวว่า ในศึก Moto GP 2020 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันสนามที่ 2 ของปี จากทั้งสิ้น 20 สนาม โดยเราได้มุ่งมั่นที่จะรักษามาตรฐานการจัดการแข่งขันให้ดียิ่งขึ้นทุกปี รวมถึงยังคงนำเสนอเอกลักษณ์ และวัฒนธรรมไทยสู่สายตาคนทั้งโลก พร้อมจัดกิจกรรมเสริมเพื่อต้อนรับแฟนๆ จากทั่วโลกอย่างเต็มพิกัดเช่นเดิม ส่วนด้านการแข่งขันในสนามนั้นก็ยังมั่นใจว่าปีนี้จะมีไฮไลท์อีกแน่นอน เพราะตลอด 2 ปีที่ผ่านมานั้น เราถือเป็นสนามแข่งขันที่สนุก ตื่นเต้น และเร้าใจที่สุดสนามหนึ่งของโลก
นอกจากนี้ภายในงานยังได้มีการแถลงเปิดขายบัตรเข้าชมการแข่งขันอย่างเป็นทางการ โดยแฟนมอเตอร์สปอร์ทสามารถซื้อได้แล้วตั้งแต่วันที่ 18 ธค. 2019 เป็นต้นไป ที่เซเวนอีเลฟเวน ทุกสาขา และ www.allticket.com ประกอบด้วย กแรนด์ สแตนด์ (Grand Stand) ราคา 4,000 บาท มาร์เกซ สแตนด์ (Marquez Stand) ราคา 4,000 บาท, รอสซี สแตนด์ (Rossi Stand) ราคา 4,000 บาท และไซด์ สแตนด์ (Side Stand) ราคา 2,000 บาท พร้อมรับพโรโมชันส่วนลดพิเศษ “บัตรเดี๋ยวนี้” รับส่วนลดทันที 15 % สำหรับผู้ที่ซื้อบัตรภายในวันที่ 25 ธค. 2019 (ยกเว้นบัตรกแรนด์ สแตนด์) รวมถึงรับส่วนลดออนทอพเพิ่มอีก 25 % เมื่อแสดงบัตร ”พีทีที บลูคาร์ด” หรือรับส่วนลดออนทอพเพิ่มอีก 20 % เมื่อใช้สิทธิ์ส่วนลดจากผู้สนับสนุนต่างๆ อาทิ บัตร ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เฟรนด์ คลับ, กุญแจรถจักรยานยนต์ ฮอนดา หรือ ยามาฮา ทุกรุ่น, บัตรเครดิท และเดบิท ธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟศบุคเพจ Chang International Circuit และ www.allticket.com