พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เกียรติเป็นประธาน ในพิธีเปิดสำนักงานใหม่ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “Smart Office & Smart Service” ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการบริการ เพื่อมุ่งสู่การเป็น “Service Organization” พร้อมจัดนิทรรศการแสดงผลงานกว่า 20 นิทรรศการ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อมและพลังงาน, ยุทธศาสตร์การพัฒนาเชิงพื้นที่ อันสะท้อนถึงศักยภาพและความเข้มแข็งของสภาอุตสาหกรรมฯ
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) จัดพิธีเปิดสำนักงานใหม่อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิด “Smart Office & Smart Service” โดยได้รับเกียรติจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และยังได้รับเกียรติจากเอกอัครราชทูตจากหลายประเทศ และผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐ ในการนี้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวปาฐกถาพิเศษแก่ผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมฯ และแขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายภาคส่วน อีกทั้งยังได้กล่าวแสดงความยินดี และให้กำลังใจแก่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของสภาอุตสาหกรรมฯ ที่เป็นกำลังสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมของประเทศ ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ ยังเปิดโอกาสให้แขกผู้มีเกียรติได้ร่วมแสดงความยินดี และบริจาคเงินเข้ามูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อนำไปช่วยเหลือด้านการกุศล และสาธารณประโยชน์ต่อไป สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 53 ปี สภาอุตสาหกรรมทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการส่งเสริม สนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบด้วย 45 กลุ่มอุตสาหกรรม, สภาอุตสาหกรรมจังหวัด 74 จังหวัด, 11 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม และมีสมาชิกมากกว่า 11,000 ราย ปัจจุบันได้ย้ายจากสำนักงานเดิมมา ทำการที่ชั้น 7, 8, 10 และ 11 ณ อาคารปฏิบัติการเทคโนโลยีเชิงสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ บนพื้นที่สำนักงานรวม 5,000 ตารางเมตร โดยการออกแบบสำนักงานใหม่ภายใต้แนวคิด “Smart Office & Smart Service” ด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยยกระดับการทำงาน ได้แก่ ระบบ Face Recognition การจดจำใบหน้าบุคคลเพื่อความปลอดภัยในการเข้าออกสำนักงาน, ระบบ Digital & Robotic Process Automation ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่าย และระบบ Smart Meeting Room ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ห้องประชุม รวมทั้งปรับสภาพแวดล้อมตามแนวทางสำนักงานสีเขียว (Green Office) ประกอบด้วย 3 ด้าน คือ การคัดแยกขยะ และบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว การจัดการทรัพยากรและพลังงาน และการจัดการสภาพแวดล้อมและความปลอดภัย โดยได้รับการรับรอง Green Meetings (แนวทางการประชุมสีเขียวในองค์กร) จากองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (TBCSD) เมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ ยังได้ปรับกลยุทธ์องค์กรเพื่อมุ่งสู่การเป็น “Service Organization” หรือองค์กรที่ให้ความสำคัญในการบริการสมาชิกให้มากยิ่งขึ้น โดยแบ่งเป็น 5 ด้าน คือ 1. โครงการ F.T.I. Academy จัดการอบรมหลักสูตรใหม่ๆ ร่วมกับภาคการศึกษา และผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อช่วยยกระดับศักยภาพบุคลากร (Up Skill & Re Skill) ตามความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม 2. Marketing การบริการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ สร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ และเป็นศูนย์รวมข้อมูลด้านอุตสาหกรรม 3. Innovation ส่งเสริมและสนับสนุนการให้บริการด้านนวัตกรรมแก่สมาชิก เช่น การเข้าถึงการใช้หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ รวมถึงการพัฒนาระบบพแลทฟอร์มที่จำเป็นในภาคอุตสาหกรรม 4. Operation Efficiency การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจสำหรับสมาชิก เช่น คลีนิคให้คำปรึกษาด้านบัญชี การเงิน และกฎหมาย การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก SMEs ภาคอุตสาหกรรม และ 5. Environment การให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมให้ได้รับการรับรองมาตรฐาน Eco Factory, Water Footprint และมาตรฐาน ห่วงโซ่การควบคุมผลิตภัณฑ์จากป่าไม้ เป็นต้น ในโอกาสเปิดสำนักงานใหม่ สอท. มีกำหนดจัดเป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 27-28 มกราคม 2563 แขกผู้มีเกียรติที่มาในงานนี้ จะได้ชมนิทรรศการแสดงผลงานกว่า 20 นิทรรศการ อาทิ ยุทธศาสตร์การพัฒนาเชิงพื้นที่, Smart Bar Mobile Application โหลด-สแกน-เชคข้อมูลสินค้า, บาร์โคดสายพันธุ์ใหม่เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้บริโภค, F.T.I. Academy, โครงการ Energy Point, Digital Transformation ด้วย AR และโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ทั้งนี้ สำนักงานใหม่ของ สอท. สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามเจตจำนงได้นั้น มาจากความช่วยเหลือจากหลายภาคส่วน ได้แก่ เอสซีจี, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), กลุ่ม ปตท., บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท แปซิฟิคแปรรูปสัตว์น้ำ จำกัด, บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด, บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), กลุ่มสิทธิผล, บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน), สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย, บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน), บริษัท สตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด, คลัสเตอร์ยานยนต์และชิ้นส่วน ส.อ.ท., บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด, บริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด, บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำกัด (มหาชน), นายชาติชาย พานิชชีวะ, บริษัท โรงงานสุราพิเศษสุวรรณภูมิ จำกัด, บริษัท สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล จำกัด, กลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ ส.อ.ท. และผู้สนับสนุนจากภาคอุตสาหกรรมอีกจำนวนมากที่ช่วยสนับสนุนงบประมาณในการสร้างสำนักงานใหม่แห่งนี้ให้เป็น “Smart Office & Smart Service” เพื่อมุ่งสู่การเป็น “Service Organization” ในการให้บริการสมาชิกอย่างเต็มเปี่ยม