ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้งฯ (TOAVH)

https://youtu.be/lb5TcEHD5e8 ทีโอเอ ผู้ผลิตสีรายใหญ่ของไทย เป็นคู่ค้ากับบริษัทรถยนต์หลายราย พร้อมขยายตัวสู่ธุรกิจยานยนต์ด้วยการเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ MG (เอมจี) Suzuki (ซูซูกิ) และ Mercedes-Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์) “ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ ณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ประธาน ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้งฯ (TOAVH)   ฟอร์มูลา : เหตุใดจึงเข้าสู่ธุรกิจยานยนต์ ?   ณัฏฐวุฒิ : TOA เกี่ยวข้องกับธุรกิจยานยนต์มาเป็นเวลานานกว่า 30 ปี ที่สำคัญจากพื้นฐานธุรกิจเดิมที่ผลิตสี ภายใต้บแรนด์ TOA ซึ่งมีคู่ค้าเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของไทยหลายบแรนด์ ซึ่งเลือกใช้สีของ TOA โดยเฉพาะโครงสร้างตัวถังรถพิคอัพทุกคันที่ผลิตในประเทศไทย เลือกใช้สีรองพื้น และสีพ่นกันสนิมของเรา   นอกจากนี้ ยังผลิตชิ้นส่วน และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น กระดาษทราย แอร์แบก เชฟทีเบลท์ เป็นต้น   จนกระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว บริษัทฯ มองเห็นโอกาสเติบโตของธุรกิจยานยนต์ ที่ปัจจุบันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์เข้ามาตั้งโรงงานผลิต รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาในไทย จึงได้เข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ด้วยการเริ่มต้นเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Suzuki ภายใต้ชื่อ บริษัท ไอทีโอเอ ออโต้เซลส์ จำกัด มี 3 สาขา หลังจากนั้น ช่วงปี 2557 ขยายมาเป็นดีเลอร์ MG ในชื่อบริษัท เบส ออโต้เซลส์ จำกัด มี 10 สาขา และประสบความสำเร็จอย่างมาก ปัจจุบันมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของทั้ง 2 บแรนด์ ล่าสุดเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz ภายใต้ บริษัท ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ จำกัด   ฟอร์มูลา : มีหลักการและเหตุผลในการเลือกบแรนด์อย่างไร ?   ณัฏฐวุฒิ : หลังจากประสบความสำเร็จในการทำตลาดรถยนต์ Suzuki ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงของการแนะนำอีโคคาร์ ก็ขยายมาสู่ MG เพื่อให้ครอบคลุมตลาดมากยิ่งขึ้น เพราะ MG มีสินค้าครอบคลุมในทุกเซกเมนท์ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง เอสยูวี พิคอัพ และรถไฟฟ้า จนมาถึงการขยายเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz เพื่อให้เรามีสินค้าในทุกระดับราคา ที่สำคัญแต่ละบแรนด์ที่เราตัดสินใจร่วมธุรกิจเป็นบแรนด์ที่มีเทคโนโลยี โดยที่บริษัทแม่เข้ามาลงทุน และทำตลาดเพื่อดูแลลูกค้าอย่างตั้งใจ   ฟอร์มูลา : คุณมีแนวทางการบริหารงานอย่างไร ?   ณัฏฐวุฒิ : หัวใจสำคัญของการบริหาร คือ บุคลากร เราต้องดูแลคนของเรา ทุกคนจะมีจิตใจเพื่อให้บริการ เพราะรถคันแรกขายได้ด้วยพนักงานขาย ส่วนรถคันต่อมาจะขายได้ด้วยช่าง หรือการบริการหลังการขาย ด้วยเหตุนี้เองเราจึงทุ่มลงทุนในส่วนของเครื่องมือ และทีมช่างอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น ที่ไพรม์มัส ออโต้เฮ้าส์ฯ เราใช้เงินลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 4 ไร่ สร้างโชว์รูมที่มีมาตรฐานใหม่ล่าสุด (Corporate Identity: CI) ของ Mercedes-Benz AG โดยได้รับเลือกให้อยู่ภายใต้โครงการ Choices of Overseas ประเทศเยอรมนี ที่จะมีเพียง 15 แห่งทั่วโลกเท่านั้น ซึ่งออกแบบโดยใช้แนวคิดให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ไม่มีการแยกส่วนขาย หรือเซอร์วิศ แต่จะมีพนักงานเข้ามาต้อนรับเพื่อสอบถาม และดำเนินการตามที่ลูกค้าต้องการ   การออกแบบโครงสร้างจะคล้ายกับโรงแรม ให้ลูกค้าสามารถวนรถเข้ามาจอดได้สะดวก เน้นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อให้ความรู้สึกสบาย และผ่อนคลาย พร้อมมีจอขนาดใหญ่ช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แก่ลูกค้า   เหนืออื่นใด หากออกรถกับ ไพรม์มัส ออโต้เฮ้าส์ฯ เราจะมีการสร้างธีมในการส่งมอบรถให้เจ้าของ เช่น หากลูกค้าเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูล เราจะมีการมอบเสื้อทีมหงส์แดง และจัดพื้นที่ส่งมอบให้กลายเป็นสนามแอนฟีลด์จำลองเป็นการสร้างประสบการณ์ส่งมอบรถรูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน   ส่วนการบริการ มีช่องซ่อมสูงสุดถึง 40 ช่องซ่อม พร้อมทีมช่างที่ได้รับการฝึกอบรมตามมาตรฐานของ Mercedes-Benz ประเทศไทย พร้อมกันนี้ ยังเข้าร่วมสนับสนุนโครงการหลักสูตรทวิภาคี โครงการช่างฝึกหัด Mercedes-Benz หลักสูตรทวิภาคี ในด้านสาขาช่างยนต์ เพื่อยกระดับคุณภาพ พัฒนาศักยภาพนักเรียนอาชีวะสู่การเป็นช่างเทคนิคมืออาชีพ มาตรฐานเดียวกับประเทศเยอรมนี เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนอาชีวะที่มีความสนใจสายงานยานยนต์สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว Mercedes-Benz เพื่อพัฒนาสู่การเป็นช่างฝีมือที่มีคุณภาพ พร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเต็มตัว พร้อมมีบริการศูนย์ซ่อมสี ทั้งนี้เพื่อการดูแลลูกค้าที่ครอบคลุมแบบครบวงจร   สำหรับ MG บริษัทฯ ได้เพิ่มศักยภาพขยายการดูแลผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น โดยลงทุน 29 ล้านบาท เปิดสาขาใหม่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2563   ที่สำคัญ เบส ออโต้เซลส์ฯ ยังได้รับรางวัลผู้จำหน่าย MG ยอดเยี่ยมอันดับ 1 ของโลก ระดับ 5 ดาว 3 ปีซ้อน (Global Five Star Award ปี 2017 - 2019) ในงานการประชุมผู้จำหน่ายนานาชาติของบริษัท SAIC Motor ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน วันที่ 25 เมษายน 2562 ซึ่งแสดงให้เห็นว่านโยบายของเราที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี   ฟอร์มูลา : คุณมองอนาคตของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอย่างไร ?   ณัฏฐวุฒิ : สถานการณ์วิกฤต COVID-19 ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมาก โดยครึ่งปีแรกตลาดโดยรวมหดตัวถึง 50 % แต่บริษัทฯ ยังคงมุ่งไปข้างหน้าเพื่อให้ธุรกิจเติบโตตามเป้าหมาย ดังจะเห็นได้จากครึ่งปีแรกที่ผ่านมา Mercedes-Benz ประเทศไทย สามารถทำยอดขาย Mercedes-AMG เพิ่มขึ้น 54 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และทำยอดขายรวมในช่วงครึ่งปีแรก เติบโตเพิ่มอีก 1.6 % ขณะที่ยอดขายในเดือนมิถุนายนก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แสดงให้เห็นว่า ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเริ่มกลับมาใช้จ่ายมากขึ้น หลังวิกฤต COVID-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลาย ผนวกกับบริษัทรถยนต์มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด   ส่วน ไพรม์มัส ออโต้เฮาส์ฯ ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยทำยอดขายรถสปอร์ทสมรรถนะสูง Mercedes-AMG มากกว่าเป้าหมายที่บริษัทแม่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย)ฯ กำหนดไว้ถึง 155 % นับเป็นความสำเร็จของนโยบายบริหารงานที่เน้นการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า และร่วมสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำตลาดรถหรูอย่างต่อเนื่องของบริษัทแม่ ซึ่งเรามั่นใจว่าปีนี้จะมียอดขายติดอันดับ 1 ใน 5 ของ Mercedes-Benz   พร้อมกันนี้ เบส ออโต้เซลส์ฯ ยังได้สนับสนุนนโยบายของบริษัทแม่ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย)ฯ ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้าน Car Sharing เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ต้องการอิสระในการใช้บริการรถยนต์ และเพิ่มปริมาณการใช้รถพลังงานไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจ บริษัท ฮ้อปคาร์ จำกัด ผู้ให้บริการเช่าและแชร์รถรูปแบบใหม่ที่ทันสมัย ผ่านแอพพลิเคชันรายแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อโครงการ “EV Car Sharing” โดยส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า New MG ZS EV จำนวน 40 คัน เพื่อให้ผู้สนใจเลือกใช้บริการรถยนต์ไฟฟ้าระบบ Carsharing บนมือถือได้ตลอด 24 ชม. เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชัน HAUP จาก App Store หรือ Google Play จากนั้นจองระยะเวลาในการใช้งาน ชำระเงินผ่านบัตรเครดิm และรับรหัสสำหรับสตาร์ทรถ เพียงเท่านี้ก็สามารถนำรถยนต์ไปใช้งานได้อย่างอิสระ   “EV Car Sharing” จะเปิดบริการภายในโชว์รูม และศูนย์บริการของ เบส ออโต้เซลส์ฯ  ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล, เชียงใหม่ และชลบุรี พร้อมให้บริการในพื้นที่ใกล้ศูนย์การค้า, มหาวิทยาลัย และคอนโดมิเนียม ในช่วงแรกจะเปิดให้บริการบริเวณย่านจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สามย่าน และสยามพารากอน กับในโชว์รูมและศูนย์บริการ MG สาขาเพชรเกษม 65, แม่โจ้ จ. เชียงใหม่ และพัทยา จ. ชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563   ฟอร์มูลา : วางกลยุทธ์และเป้าหมายไว้อย่างไร ?   ณัฏฐวุฒิ : บริษัทฯ มีความพร้อมทุกด้านที่จะทำการตลาดเชิงรุก เพื่อใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส ไม่รอให้เศรษฐกิจฟื้นตัว แต่จะสร้างการรับรู้ให้ลูกค้าได้รู้จักเรามากขึ้น โดยเฉพาะ Mercedes-Benz ที่เน้นการจัดกิจกรรมในโชว์รูมเพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามารู้จักกับเรามากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังมุ่งการสร้างการตลาดแบบออนไลน์ ซึ่งบริษัทฯ ใช้งบในเรื่องนี้เพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก อีกส่วนหนึ่ง หลังจากที่บริษัทฯ ขยายสู่การเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Mercedes-Benz ทำให้ได้ฐานลูกค้าเดิมจากธุรกิจสีทีโอเอ มากขึ้น   ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า คือ สิ่งที่เรามุ่งมั่นตั้งใจทำ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสี หรือธุรกิจรถยนต์ ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ทุกคนต้องการใช้งาน ดังนั้น การซ่อมที่รวดเร็ว รวมกับการบริการที่ประทับใจจะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้ออีกครั้ง ซึ่งด้วยการบริการที่แตกต่าง และความประทับใจ จะส่งเสริมให้ลูกค้ารู้จัก และมั่นใจในบริการ ตัวอย่าง การบริการช่วง COVID-19 ในการรับ-ส่งรถให้ลูกค้า เราก็ยังทำอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 จะเริ่มคลี่คลาย เพราะถือเป็นการบริการพิเศษที่ลูกค้าประทับใจ   สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 น่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 3-4 ปีในการฟื้นตัว แต่เราจะเตรียมความพร้อมในทุกด้านสำหรับรับการเปลี่ยนแปลง โดยเน้นด้านอี-คอมเมิร์ศให้มากขึ้น และสิ่งที่จะมาแน่นอน คือ ก็ต้องเตรียมความพร้อม โดยเฉพาะทีมช่าง