VinFast เพิ่มไลน์ เอสยูวี

 

รายงานข่าวจากเวียดนาม ระบุว่า ค่ายรถยนต์น้องใหม่ VinFast เปิดตัว เอสยูวี ระดับหรูหรา รุ่นแรกของค่าย ในชื่อรุ่น Lux SA2.0 เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง หรือเรียกกันในชื่อ VinFast President โดยใช้เครื่องยนต์ Chevrolet แบบ วี 8 สูบ ความจุ 6.2 ลิตร ให้กำลัง 420 แรงม้า แรงบิด 63.6 กก.-ม. เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา

VinFast President ตั้งราคาไว้ 4.6 พันล้านดอง หรือประมาณ 198,200 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5,946,000 บาท พรั่งพร้อมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด เกือบ 300 กม./ชม. เอสยูวี หรูคันนี้ จำกัดการผลิตเพียง 500 คัน และจะขายให้แก่มหาเศรษฐีเวียดนาม โดยผู้ที่สั่งจอง 100 คันแรก จะได้รับส่วนลดทันที 17 % ถ้าเทียบกันแล้ว ราคาของ VinFast President ในเวียดนาม จะถูกกว่า Lexus LX 570 อยู่ 45 % และถูกกว่า BMW X7 33 % แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า อุปกรณ์ตกแต่งภายในยังขาดอุปกรณ์ระดับหรู อย่าง จอทีวี หรือเบาะนั่งพร้อมที่รองขาด้านหลัง และรวมทั้งระบบเสียงชั้นยอด VinFast เปิดตัวรถยนต์คันแรก เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 และในไตรมาสแรกของปีนี้ สามารถจำหน่ายได้ 5,124 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในอันดับ 5 ตามหลัง Hyundai, Toyota, Kia และ Honda ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานข่าวจากประเทศออสเตรเลีย ระบุว่า VinFast จากเวียดนาม ได้จัดการเรื่องการซื้อขายสนามทดสอบของ GM Holden เรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ VinFast ให้ความสนใจในการซื้อสนามทดสอบแห่งนี้ หลังจากตกลงใจที่ก่อตั้งศูนย์กลางพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในเมืองเมลเบิร์น รวมทั้งจ้างอดีตวิศวกรของ Holden ให้ทำงานต่ออีกจำนวนมาก Kevin Yardley กรรมการศูนย์พัฒนาของ VinFast ในเมลเบิร์น ระบุในแถลงการณ์ว่า “การพัฒนาและค้นคว้าผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ของ VinFast กำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว การได้เป็นเจ้าของสนามทดสอบ จะช่วยให้การทำงานของเรารุดหน้ายิ่งขึ้น” ไม่มีการระบุราคาซื้อขายในครั้งนี้ แต่ VinFast ยืนยันว่า จะเริ่มการทำงานในสนามทดสอบ ทันทีที่การจัดการทางด้านการเงินแล้วเสร็จ สนามทดสอบดังกล่าว มีถนนภายในสนามความยาว 44 กม. ซึ่งสามารถใช้ความเร็วได้ในระยะทาง 4.7 กม. ในสนามรูปไข่ รวมทั้งสนามเพื่อทดสอบช่วงล่าง ความยาว 5.5 กม. และยังมีศูนย์ทดสอบค่ามลภาวะจากไอเสีย ที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่เมื่อปี 2561 VinFast มีแผนงานที่จะส่งรถยนต์ไปขายในสหรัฐอเมริกาด้วยรถไฟฟ้า ในปี 2564 รวมทั้งจะส่งมาขายในประเทศออสเตรเลีย เมื่อถึงเวลาอันควร