บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ องค์กรยูไนเทดเวย์ (United Way Worldwide) มูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) และคอมมูนิที เชสต์ ออฟ โคเรีย (Community Chest of Korea) จัดตั้งโครงการอาเซียนรวมใจ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย COVID-19 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในชุมชน ที่ขาดแคลนอาหาร และประสบปัญหาด้านสุขอนามัยในประเทศมาเลเซีย ประเทศเมียนมาร์ และประเทศไทย โดยประเทศไทยได้รับเงินสนุนกว่า 2.6 ล้านบาทสำหรับโครงการดังกล่าว
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคมในวงกว้าง ทำให้ประชากรจำนวนมาก ประสบกับภาวะความยากจน และความไม่มั่นคงทางด้านอาหาร ทั้งนี้องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization) ได้ประเมินว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน และการเลี้ยงชีพของแรงงานนอกระบบจำนวน 218 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 67 ของการจ้างแรงงานทั้งหมดในภูมิภาค และยิ่งไปกว่านั้น ทางธนาคารโลก (World Bank) ได้ประเมินสถานการณ์ว่า ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวจะผลักดันให้ประชากรเผชิญกับภาวะยากจนเพิ่มขึ้นถึง 11 ล้านคนโครงการในระยะแรก จะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้เข้าถึงอาหาร และสุขอนามัยพื้นฐานต่างๆ สำหรับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยง เช่น ครอบครัวที่มีเด็ก คนพิการ ผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ผู้สูงอายุ กลุ่มผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย สตรีตั้งครรภ์และให้นมบุตร ในประเทศมาเลเซีย ประเทศเมียนมาร์ และประเทศไทย โดยให้ทุนสนับสนุนผ่านองค์กรการกุศลในประเทศเหล่านั้นที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ และทั่วภูมิภาค เพื่อสร้างการตระหนักรู้ และให้ข้อมูลองค์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเองให้พ้นจากเชื้อไวรัส COVID-19 และการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ
Jose Pedro Ferrao ประธาน องค์กรยูไนเทดเวย์ กล่าวว่า “รู้สึกยินดีที่ได้ร่วมมือกับมูลนิธิอาเซียน ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในชุมชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 การแพร่ระบาดครั้งนี้เป็นความท้าทายครั้งใหม่ของมวลมนุษยชาติ แต่ยังมีความเชื่อมั่นว่าพวกเราจะสามารถรองรับการช่วยเหลือด้านอาหารและด้านอื่น ๆ ด้วยการระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนได้ และยินดีร่วมงานกับมูลนิธิอาเซียน เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยจนสามารถฟื้นตัวได้ในระยะยาว”
มูลนิธิอาเซียน และองค์กรยูไนเทดเวย์ จะร่วมมือกับองค์กรการกุศลในประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย เพื่อนำทุนช่วยเหลือจำนวน 160,000 เหรียญสหรัฐฯ ที่ได้รับจากองค์กร 3M มาจัดสรรให้ผู้ประสบภัยในชุมชนกว่า 5,000 ครัวเรือน ในประเทศมาเลเซีย และประเทศไทย และสร้างความมั่นใจได้ว่าความช่วยเหลือดังกล่าวจะส่งไปถึงผู้ประสบภัยของทั้ง 2 ประเทศอย่างแท้จริง
วิยะดา ศรีนาคนันทน์ ประธานบริหาร บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะให้ความช่วยเหลือชุมชนและพัฒนาคุณภาพชีวิต โครงการความร่วมมือนี้เป็นส่วนหนึ่ง ในทุนจำนวน 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่ 3M สำนักงานใหญ่ ได้บริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย COVID-19 ทั่วโลก และเรารู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งที่เงินบางส่วนจะถูกนำมาสนับสนุนช่วยผู้ประสบภัยในประเทศมาเลเซีย และไทย ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก โดยประเทศไทยได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 2.6 ล้านบาท”
ทั้งนี้ โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศเมียนมาร์ได้รับทุนช่วยเหลือจำนวน 30,000 เหรียญสหรัฐฯ จาก Community Chest of Korea ประเทศเกาหลี โดยจะทำงานร่วมกับองค์กรการกุศลเพื่อนำอาหาร อุปกรณ์สุขอนามัย และข้อมูลความรู้ด้านการป้องกัน COVID-19 นำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยจำนวน 1,700 คน
Yean-sun Kim เลขาธิการ คอมมูนิที เชสต์ ออฟ โคเรีย กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นโอกาสอันมีค่าอย่างยิ่งที่ทำให้พวกเราได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในชุมชนเมียนมาร์ ที่ต้องประสบความเดือดร้อนจากภาวะขาดแคลนอาหาร จากวิกฤต COVID-19 ในครั้งนี้ และความร่วมมือที่เกิดขึ้นกับองค์กรยูไนเทดเวย์ ทำให้เกิดการระดมทุน แนวทางการพึ่งพาตนเอง และการสร้างศูนย์รวมแห่งการแบ่งปันอย่างยั่งยืนที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามีความยินดีที่จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดความร่วมมือในภาคสังคม ในการช่วยเหลือชุมชนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19”
โครงการอาเซียนรวมใจบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัย COVID-19 เป็นผลมาจากการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม สมัยพิเศษ ว่าด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2563 ที่ให้ความสำคัญของความร่วมมือกันระหว่างกลุ่มผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชนในอาเซียน เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคชนิดใหม่ที่กระจายเป็นวงกว้างทั่วโลก
ดร. หยาง มี่อิง ผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิอาเซียน กล่าวว่า “โครงการอาเซียนรวมใจฯ ได้พยายามสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งในระดับนานาชาติ และระดับท้องถิ่น เพื่อร่วมกันส่งความช่วยเหลือให้ไปถึงผู้ประสบภัย COVID-19 อย่างแท้จริง”