รายงานข่าวจากออสเตรเลีย ระบุว่า ค่ายรถยนต์ Volvo ประกาศจะยกเลิกการผลิตเครื่องยนต์ดีเซล ทั้งหมดภายใน 2 ปี แม้ว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวออสเตรเลีย ที่ชื่นชอบเดินทางไกลกันด้วยรถเครื่องยนต์ดีเซลก็ตามแม้ว่า ผู้ผลิตหลายราย พยายามที่จะแนะนำรถยนต์ไฮบริด ผู้บริโภคก็ให้ความสนใจ โดยเฉพาะรถ เอสยูวี ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก Nick Connor กรรมการผู้จัดการ ระบุว่า “นั่นอาจช่วยทำให้เราสามารถระงับการจำหน่ายเครื่องยนต์ดีเซล ได้ภายใน 1 ปี เท่านั้น” เขากล่าวว่า “จะเห็นได้ว่า ผู้ผลิตในยุโรปเริ่มระงับการผลิตรถรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล จึงทำให้บรรดารถรุ่นไฮบริด ขายดีขึ้นทั่วโลก” สำหรับ Volvo มีรุ่นรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลหลายรุ่น อาทิ V90 Wagon และยังมีรถ เอสยูวี รุ่นใหญ่อย่าง XC90 ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ คู่ 2.0 ลิตร และเทอร์โบเดี่ยว รวมถึง เอสยูวี รุ่นเล็ก XC40 ที่ยอดการขายลดลงอย่างรวดเร็ว เคยมียอดขายในออสเตรเลียถึง 65 % ของยอดขายทั้งหมด แต่เมื่อปีที่แล้ว ลดเหลือเพียง 40 % เท่านั้น ขณะเดียวกัน Volvo ก็มีรถรุ่น ไฮบริด-ไฟฟ้า สำหรับ Xc40, XC60 และ XC90 จำหน่ายอยู่แล้ว สำหรับประเทศอันกว้างใหญ่อย่างออสเตรเลีย การเดินทางข้ามมลรัฐ ต้องใช้ระยะทางไกล จึงทำให้รถสเตชันแวกอน เครื่องยนต์ดีเซล ได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าจะมีสัดส่วนการขายไม่มากนัก แต่ Volvo ก็เตรียมที่จะถอดออกจากสายการผลิต ในปีหน้า ขณะเดียวกัน การระงับการจำหน่ายเครื่องยนต์ดีเซล ก็เป็นแนวทางเบื้องต้นของค่าย Volvo ที่ประกาศจะยกเลิกการผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่ไม่น่าจะเกินภายในศตวรรษนี้อย่างแน่นอน