ทดลองขับ
พิคอัพใหม่ ตระกูล BT
ตำนานของพิคอัพ Mazda (มาซดา) ในตระกูล B-Series (บี-ซีรีส์) ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Mazda เปิดตัว B1500 (บี 1500) ที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนสิงหาคม ปี 1961 และตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา Mazda ได้พัฒนาพิคอัพขนาด 1 ตัน จนมาถึงยุคของ BT-50 (บีที-50) ที่เน้นความสนุกในการขับขี่ ซึ่งออกแบบภายใต้แนวคิดโคโดะ ดีไซจ์น แสดงออกถึงความเรียบง่าย
Mazda BT-50 ใหม่ ออกแบบตามแนวคิด โคโดะ ดีไซจ์น ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวอันสง่างาม มาผสมผสานกับความทรงพลัง ความทนทาน และประโยชน์ใช้สอยที่เป็นเอกลักษณ์ของรถกระบะ Mazda ภายใต้คอนเซพท์ที่ให้ “ใช้งานได้ทุกโอกาส"
Mazda ได้ออกแบบให้รถโดดเด่นในทุกสถานการณ์การขับขี่ ตั้งแต่การใช้งานแบบทางการ จนถึงการขับแบบออฟโรด กระโปรงหน้ารถที่สูง ทำให้ด้านหน้าดูบึกบึน และมึพลังตามแบบฉบับของรถกระบะ
นอกจากนั้น เส้นสายที่ลากยาวต่อเนื่องจากไฟหน้าไปตามแนวสะท้อนของด้านข้างรถต่อเนื่องไปจนถึงไฟท้าย ช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง ด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายของ โคโดะ ดีไซจ์น
ด้านหน้ารถประกอบด้วยกระจังหน้า ซิกเนเจอร์ วิงส์ ที่ขยายออกทางด้านข้าง และไฟหน้ารูปทรงกระบอกสูบ ก็ทำให้ดูดุดัน และแสดงถึงความงดงามอันประณีตที่มองแล้วรู้ได้ทันทีว่าเป็นรถ Mazda เมื่อมองจากด้านหลัง ซุ้มล้อที่ดูโดดเด่นให้ภาพลักษณ์ที่ทรงพลัง กระบะท้ายที่ทอดยาวไปจนถึงสัญลักษณ์ Mazda ที่ด้านหลัง สร้างความรู้สึกที่ต่อเนื่องจากด้านหน้ารถไปจนถึงด้านหลัง โดยรวมแล้ว การออกแบบได้สะท้อนถึงคุณภาพ และความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ของ Mazda
ไฟหน้าแบบ LED ได้รับการออกแบบให้มีรูปทรงโฉบเฉี่ยว และเป็นทรงกระบอก ทำให้ได้แสงไฟที่สว่างไกล ดูมีมิติ และชัดเจน ที่เห็นแล้วรู้ว่าทันทีว่าเป็นของ Mazda
ส่วนไฟท้ายก็เป็นรูปทรงกระบอกเช่นเดียวกับไฟหน้า ซึ่งสอดคล้องกับสไตล์การออกแบบไฟทรงกลมอันเป็นลักษณะเฉพาะของ Mazda
ภายในถูกออกแบบให้สอดคล้องกับธีมการออกแบบภายนอก โดยผสมผสานระหว่างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นของ Mazda กับความทนทาน และทรงพลังของรถพิคอัพ การออกแบบคอนโซลในแนวราบที่ขยายออกไปถึงประตูทั้ง 2 ด้าน ทำให้ห้องโดยสารมีความสะดวกสบาย และมีพื้นที่กว้างขวาง คอนโซลหน้าที่ดูแข็งแรง และช่องแอร์ ก็ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกที่แข็งแกร่ง และทรงพลังให้แก่รถพิคอัพ แผงคอนโซลหน้ามาพร้อมกับแผ่นรองหัวเข่า และใช้การออกแบบที่เน้นผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mazda และสุดท้าย การเดินตะเข็บด้ายอย่างพิถีพิถันบนแผงหน้าปัด คอนโซลหน้า และแผ่นรองหัวเข่า ก็ช่วยเพิ่มสัมผัสถึงคุณภาพของการตกแต่งภายในห้องโดยสาร
Mazda BT-50 ใหม่ มาพร้อมกับมาตรวัดแบบแอนาลอก 2 ชุด โดยมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อยู่ตรงกลาง และมีแผงหน้าปัดด้านหลังสีดำสนิท จึงทำให้ตัดกันอย่างชัดเจนระหว่างตัวอักษรสีขาวกับขอบสีเงินของมาตรวัดแบบแอนาลอก ซึ่งให้ความรู้สึกลุ่มลึก และดุดัน
ช่องแอร์ถูกวางตำแหน่งในส่วนกลาง ด้านซ้าย และด้านขวาของคอนโซลหน้า ทำให้ดูมีมิติ และตกแต่งคอนโซลหน้าด้วยแถบที่ลากยาวจากกลางคอนโซลต่อเนื่องไปยังเบาะนั่งผู้โดยสาร ซึ่งช่องแอร์และแถบกลางคอนโซลนี้ได้ถูกตกแต่งด้วยสีเงินเข้ม กรอบช่องแอร์สีเงินเข้มก็ยังช่วยเสริมสร้างความสง่างาม
ในขณะที่สีดำด้านที่ตกแต่งแผงคอนโซลก็ให้ภาพลักษณ์ที่หนักแน่นของเมทัลลิค ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยผสมผสานการแสดงออกถึงความแข็งแกร่งของรถพิคอัพกับความลงตัวของการออกแบบ
Mazda BT-50 ใหม่ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง WXGA ขนาด 7 นิ้ว หรือ 9 นิ้ว ซึ่งตั้งอยู่ด้านบนของคอนโซลหน้า และยังมีจอแสดงผล Multi-information Display ขนาด 4.2 นิ้ว ที่สามารถควบคุมระบบนำทางด้วยการสัมผัสได้ และยังมี Apple CarPlay และฟังค์ชัน Android Auto และในบางรุ่นยังรองรับฟังค์ชันการควบคุมการทำงานด้วยเสียงอีกด้วย
เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร (2,999 ซีซี)
กระบอกสูบ/ระยะชัก 95.4/104.9 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด 16.3: 1
แรงม้าสูงสุด 190 แรงม้า หรือ 140 กิโลวัตต์ ที่ 3,600 รตน.
แรงบิดสูงสุด 45.9 กก.-ม. หรือ 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,600 รตน.
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.1 กม./ลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 3.0 ลิตร มาพร้อมระบบคอมมอนเรลแรงดันสูงที่ฉีดเชื้อเพลิงที่แรงดันสูงสุดถึง 250 เมกะปาสกาล (MPa) และ VGS เทอร์โบที่ควบคุมด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์ มีการเคลือบฉนวนที่ลูกสูบ และ
เกียร์ Double-scissors ที่ช่วยลดเสียงรบกวน สิ่งเหล่านี้ถูกรวมอยู่ในเครื่องยนต์ จึงทำให้สามารถเพิ่มแรงบิดในรอบต่ำ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลัง มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันต่ำ และช่วยลดเสียงรบกวน
เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตร (1,898 ซีซี)
กระบอกสูบ/ระยะชัก 80.0/94.4 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด 16.5: 1
แรงม้าสูงสุด 150 แรงม้า หรือ 110 กิโลวัตต์ ที่ 3,600 รตน.
แรงบิดสูงสุด 35.7 กก.-ม. หรือ 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รตน.
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.1 กม./ลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.9 ลิตร ระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ทำงานแม่นยำ อัตราทดเกียร์ที่เหมาะสม เสริมการควบคุมอัตราเร่งที่เพิ่มความเร็วรอบเมื่อออกจากจุดสตาร์ท และระบบหล่อเย็น EGR ถูกติดตั้งมาในฝาสูบ พร้อม Water Jacket ช่องทางระบายความร้อนด้วยน้ำภายในเสื้อสูบ และฝาสูบในท่อทางเดิน EGR ซึ่งเครื่องยนต์นี้ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีความเงียบ และทนทาน และให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังเมื่อเร่งเครื่องออกจากจุดสตาร์ท
ระบบเกียร์ Mazda BT-50 ใหม่ มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ให้การเปลี่ยนเกียร์ราบรื่น มั่นคง และกระชับมากยิ่งขึ้น ระบบเกียร์อัตโนมัติมีขนาดกะทัดรัด มีชุดตัดต่อกำลังที่มีน้ำหนักเบา และระบบลอคอัพที่ทรงพลัง ซึ่งส่งผลให้รถมีการตอบสนองที่ดีเยี่ยมเมื่อออกตัว และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
ในรุ่น 4x4 ใช้เพลาขับที่ทำจากอลูมิเนียม จึงทำให้มีน้ำหนักเบาขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเกียร์ส่งกำลัง โดยช่วยให้สามารถสลับโหมดการขับเคลื่อนและการทำงาน 4H/4L ได้เร็วขึ้นเมื่ออยู่ในโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ นอกจากนี้ รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ 4x4 ยังมาพร้อมกับระบบลอคเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า ที่ช่วยเพิ่มพลังขับเคลื่อนสูงสุดได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่บนถนนที่ขรุขระ
กันสะเทือนด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนกคู่ (Double-Wishbone) และชุดแหนบ (Leaf Spring) ทำให้ BT-50 สามารถให้การควบคุมรถอย่างมีเสถียรภาพ และขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น
ในรุ่นยกสูง ยังได้มีการเสริมตัวยึดด้านหน้ากันโคลง เพื่อเพิ่มความสมดุลให้แก่ตัวรถมากขึ้น
ประสิทธิภาพในการลดเสียงรบกวน ลดการสั่นสะเทือน และลดความกระด้าง (NVH)
การติดตั้งแผงคอนโซลกลางที่ยึดกับพื้นตัวถัง และการติดตั้งแผงคอนโซลหน้า ได้รับการปรับให้เหมาะสม เพื่อลดการสั่นสะเทือนที่ส่งมาจากโครงแชสซีส์ มีการติดตั้งโฟมเข้าไปภายในเสาแต่ละต้น เพื่อช่วยดูดซับเสียงจากแผงประตูด้านข้าง รวมไปถึงพรมปูพื้น และฉนวนได้ถูกผลิตขึ้นเป็นชั้นเดียวกัน ทำให้สามารถดูดซับเสียงได้ดี ห้องโดยสารเงียบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ แผงหน้าปัดยังติดตั้งอยู่กับตัวถังโดยตรง เพื่อลดการสั่นสะเทือนที่ส่งไปยังพวงมาลัย
ระบบเบรคของ BT-50 ประกอบด้วย จานเบรคหน้าสำหรับ BT-50 มีทั้งหมด 2 ขนาด ได้แก่ 17 นิ้ว และ 15 นิ้ว
ในขณะที่ด้านหลังใช้ดุมเบรคขนาด 15 นิ้ว ซึ่งจากการปรับตั้งทำให้สามารถหยุดล้อได้อย่างดี และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหม้อลมเบรค ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการควบคุมเบรค
ความปลอดภัยเชิงป้องกัน BT-50 ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่ช่วยให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในทุกสถานการณ์การขับขี่
เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกันใน BT-50 ใหม่ ในประเทศไทย ประกอบด้วย
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA
ระบบช่วยจอด Parking Aid
ระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน หรือ HLA
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM เป็นระบบเซนเซอร์เพื่อตรวจจับเมื่อมีรถเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหลังเมื่อเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งเป็นเซนเซอร์ตัวเดียวกันที่ใช้กับระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ที่ช่วยส่งสัญญาณเตือนคนขับเมื่อตรวจพบว่ามีรถยนต์กำลังเคลื่อนที่เข้ามาจากทางด้านหลัง
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) ระบบควบคุมเครื่องยนต์ และเบรค เพื่อควบคุมอัตราเร่ง และรักษาความเร็วเมื่อขับรถลงทางลาดชัน ช่วยให้ผู้ขับขี่มีสมาธิในการควบคุมพวงมาลัย และมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับรถลงจากทางลาดชัน
ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน (HLA) เมื่อคนขับยกเท้าออกจากแป้นเบรคเพื่อเร่งเครื่องยนต์จากจุดออกตัวบนทางลาดชัน เบรคจะยังคงทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้รถไหลไปข้างหลัง เพื่อช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ระบบช่วยจอด Parking Aid เซนเซอร์ 4 ตัวบนกันชนด้านหน้า และด้านหลังจะช่วยกะระยะห่างระหว่างรถกับวัตถุ โดยระบบจะส่งเสียงแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถเคลื่อนเข้าไปใกล้วัตถุจนถึงระยะห่างที่กำหนด
ไฟหน้าสูงและต่ำเป็นแบบหลอด LED ให้ลำแสงสีขาวสว่าง ช่วยให้มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ในเวลากลางคืน และช่วยประหยัดพลังงาน
ความปลอดภัยเชิงปกป้อง
ระบบถุงลมนิรภัย SRS นอกจากถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ และฝั่งผู้โดยสารที่เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานแล้ว BT-50 ใหม่ ยังมาพร้อมม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัยด้านข้าง ที่ช่วยลดอันตรายที่อาจจะเกิดกับศีรษะ และหน้าอกของผู้ขับ และผู้โดยสาร ซึ่งรถรุ่นนี้มาพร้อมกับถุงลมนิรภัยรวมสูงสุด 6 ตำแหน่ง
เบาะนั่งด้านหน้าถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บที่คอเมื่อเกิดการชนท้าย และยังมีเซนเซอร์แจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยด้านหน้า ที่ช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัย
หลังจากได้ทดลองขับทั้งในแบบสลาลอม เปลี่ยนช่องทางกะทันหัน โค้งหลากหลายรูปแบบ แคบ กว้าง รวมทั้งสลับหรือโค้งรูปตัว S ทั้งรุ่น 4 ประตู ยกสูง 4 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ BT-50 ใหม่ ควบคุมง่าย และตอบสนองทันใจ มีอาการโคลงตัวน้อย แต่ไม่แข็งกระด้าง
ส่วนเรื่องกำลังเครื่องยนต์ มีให้พอตัว ตามความจุ ไม่ว่าจะเป็น 1.9 ลิตร 150 แรงม้า หรือจะเป็น 3.0 ลิตร 190 แรงม้า บนระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ต้นไปถึงปลาย 140 กม./ชม. และ 160 กม./ชม. สบายๆ ไม่จัดจ้าน แต่มาแบบต่อเนื่อง
ABOUT THE AUTHOR
Thanasan saowamol
ลุงหนึ่ง ฟอร์มูลา ศึกษาวิชาตำรารถมานานกว่า 30 ปี ผ่านร้อนหนาว ตั้งแต่ ยุคเครื่องยนต์ มาถึงยุคมอเตอร์ จะว่าเวอร์ ก็เจอมาหมด
ภาพโดย : Thanasan saowamol/MAZDAคอลัมน์ Online : ทดลองขับ(4wheels)