Ford Ranger FX4 Max พร้อมลุยเสมอ...เมื่อต้องการ

หลังจาก Ford (ฟอร์ด) เปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่สำหรับคอออฟโรดตัวจริง Ford Ranger FX4 Max (ฟอร์ด เรนเจอร์ เอฟเอกซ์ 4 แมกซ์) ที่เท่ พร้อมลุย อัดแน่นด้วยสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่แตกต่างอย่างเหนือชั้น และเพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า พร้อมลุยแค่ไหน จึงได้จัดทำสนามออฟโรดให้ได้ทดลอง Ford Ranger FX4 Max สะดุดตา กับกระจังหน้าที่มีโลโก FORD สะกดด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ F-O-R-D ภายนอกสีเทาเข้ม ตั้งแต่ฝาครอบกระจกมองข้าง มือจับประตู ฝาครอบระบายอากาศ ขอบซุ้มล้อ ไปจนถึงกันชนท้าย บันไดข้างที่ได้รับการออกแบบใหม่ โดยใช้วัสดุที่ทนทานต่อการเสียดสี เพื่อการลุยแบบออฟโรดโดยเฉพาะ ล้ออัลลอยดีไซจ์นใหม่ และโรลล์บาร์ ห้องโดยสารภายในหุ้มหนังสีดำ ทั้งหน้าปัด ประตู พวงมาลัย และแผงควบคุมด้านหน้ารวมถึงรอบจอแสดงผล เบาะนั่งตรงกลางเป็นหนัง Alcantara และหนังสังเคราะห์กำมะหยี่ เบาะคู่หน้าปักโลโก FX4 Max เบาะนั่งคนขับปรับตำแหน่งได้ 6 ทิศทาง และปรับเบาะนั่งผู้โดยสารได้ 4 ทิศทาง แต่ไม่ใช่เบาะปรับไฟฟ้า หลายคนเห็นข้อดีการใช้งานของอุปกรณ์พวกนี้ก็ตอนใช้งานจริง นอกจากไม่ลื่นแล้วยังควบคุมได้ง่าย มองไปใต้คอนโซลเห็นแป้นเหยียบคันเร่งสไตล์สปอร์ทแบบเดียวกับ Ford Ranger Raptor และผ้ายางปูพื้นเน้นใช้งาน ลุยเลอะ ฝุ่นเพียบ หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว มาพร้อมระบบนำทาง และ SYNC 3 สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย ที่รองรับ Apple CarPlay บนสมาร์ทโฟน ระบบ Keyless Entry/Push Start เหมือนรุ่น XLT และยังมีเข็มทิศติดมาด้วย แต่ด้านบนแผงคอนโซลของ Ford Ranger FX4 Max เพิ่ม Upfitter Switch ไว้ต่อพ่วงอุปกรณ์ AUX 6 ตำแหน่ง พร้อมติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 250 แอมพ์ รองรับอุปกรณ์เสริมต่างๆ อาทิ ชุดไฟ วินช์ และไฟสปอทไลท์ นอกจากนี้ ยังเตรียมชุดควบคุมเบรค เพื่อควบคุมลูกพ่วง อีกด้วย เครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบคู่ ให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 51.0 กก.-ม. หรือ 500 นิวตัน-เมตร ขุมพลังเดียวกับ Ford Ranger Raptor (ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์) ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ เหมือนกับรุ่นทอพอย่าง Ford Ranger 2.0L Bi-Turbo 4x4 Wildtrak (ฟอร์ด เรนเจอร์ 2.0 แอล ไบ-เทอร์โบ 4x4 ไวลด์ทแรค) ที่ต้องจ่ายเพิ่ม 75,000 บาท และ Ford Ranger Raptor ที่มีค่าตัว 1.69 ล้านบาท ช่วงล่างใหม่ Ford Ranger Fx4 Max มีการปรับทูนระบบกันสะเทือน เพื่อตอบสนองการขับขี่แบบออฟโรด พร้อมด้วย Fox Shock ชอคอับแบบโมโนทิวบ์ (Mono-Tube) ขนาด 2 นิ้ว ทั้งด้านหน้า และหลัง ทำงานร่วมกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น ผสานกับคอยล์สปริงด้านหน้าที่มีการปรับทูนใหม่ โดยชอคอับหลังมาพร้อมกับ Sub-Tank หน้าตาเรียบๆ ไม่ได้ดูโหดอย่างที่คิด แต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทก และเพิ่มความทนทานในการใช้งานแบบออฟโรด และการควบคุมความสะเทือนด้านหลังแบบชอคอับไขว้ รองรับการบรรทุกสัมภาระ ด้านแหนบรองรับน้ำหนักได้รับการพัฒนาให้เหมาะทั้งกับการขับขี่แบบออฟโรด และยังพร้อมรับน้ำหนักในการบรรทุก และลากจูง ด้วยช่วงล่างที่ยกสูงขึ้น 20 มม. บวกกับการใช้ยาง All-Terrain T/A Ko2 ขนาด 265/70 R17 ทำให้ Ford Ranger Fx4 Max ตัวรถมีระยะห่างจากพื้นถนน (Ground Clearance) มากถึง 256 มม. ประเดิมในสถานีที่ 1 ลงทางลาดชัน ขับลงทางลาดชันด้วยเกียร์ต่ำ โดยใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4L) พร้อมทดสอบระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา (Hill Descent Control) พารถลงเนินลาดชันได้อย่างสบายด้วยความเร็วคงที่ตามที่ตั้งไว้ และสามารถเพิ่มความเร็ว ที่ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย สถานีที่ 2 สลาลอม ปรับโหมดการขับขี่จากการขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นการขับขี่ 2 ล้อ แบบ Shift On The Fly ขับขี่แบบสลาลอม ใช้ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program หรือ ESP) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล (Traction Control) ด้วยพวงมาลัยที่แม่นยำ ล้ออัลลอยขนาด 17×8 นิ้ว ออฟเซท +42 มม. ทำให้ช่วงล้อทั้งด้านหน้า และหลัง กว้างขึ้นถึง 26 มม. พร้อมตัวช่วย KO2 จาก BF Goodrich ขนาด 265/70 R17 ที่ยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคง และเพิ่มความสมดุลในการกระจายน้ำหนัก ใน Ford Ranger Fx4 Max ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่าย ขับผ่านเส้นทางคดเคี้ยวได้อย่างมั่นใจ สถานีที่ 3 เนินสลับ ทดสอบความโดดเด่นของสมรรถนะช่วงล่าง ด้วยระบบกันสะเทือน Fox Shocks แบบโมโนทิวบ์ขนาด 2 นิ้ว ทั้งด้านหน้า และหลัง ทำหน้าที่ได้ดีบนเส้นทางเนินสลับ โดยการใช้โหมด 4L วิ่งผ่านเนินสลับซ้าย/ขวา พร้อมอวดการทำงานของระบบลอคเฟืองท้าย (Locking Rear Differential) ใน Ford Ranger FX4 Max ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขับผ่านอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดาย ต่อด้วยสถานีที่ 4 การขับขี่บนเนินเอียง กับการปรับไปใช้โหมดเกียร์สูง 4H ให้ได้สัมผัสประสบการณ์ขับเคลื่อน 4 ล้ออย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ด้วยระยะต่ำสุดจากพื้นถนนมากถึง 256 มม. อีกทั้งมุมปะทะ 31 องศา และมุมจากมากกว่ารุ่น XLT ทำให้ผ่านอุปสรรคไปได้อย่างราบรื่น สถานีที่ 5 เนินขึ้น/ลงต่อเนื่อง Ford Ranger FX4 Max ยังตะลุยไปกับเนินต่อเนื่องด้วยการขับเคลื่อน 4 ล้อ และตัวช่วยเฉพาะอย่างชอคอับหลัง มาพร้อมกับซับแทงค์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับแรงกระแทกขณะลงเนินที่มีความชันต่อเนื่อง จบการทดสอบขับรถด้วยการไต่ขึ้น/ลงเนินสูงชัน ทดสอบกำลังเครื่องยนต์ และเทคโนโลยีระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา ปิดท้ายความท้าทายในเส้นทางออฟโรด แบบสบายๆ ด้วยราคา 1,189,000 บาท ของ Ford Ranger FX4 Max พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure การรับประกันเครื่องยนต์ และระบบส่งกำลังนาน 10 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) ตรงใจสายลุย เน้นใช้งาน มากกว่า Ford Ranger 2.0L Bi-Turbo 4x4 Wildtrak ที่ต้องจ่ายเพิ่ม 75,000 บาท โดยเฉพาะสีเทา Ford Ranger Raptor ข้อมูลจำเพาะ Ford Ranger FX4 Max ผู้แทนจำหน่าย บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2686-4000 มิติ และน้ำหนัก ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 5,446/1,977/1,852 ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,586/1,586 ฐานล้อ (มม.) 3,220 น้ำหนัก (กก.) 2,219 ความจุถังเชื้อเพลิง (ลิตร) 80 เครื่องยนต์ แบบ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ความจุ (ซีซี) 1,996 กระบอกสูบ/ช่วงชัก (มม.) 95.4/104.9 อัตราส่วนกำลังอัด 16.3:1 กำลังสูงสุด (แรงม้า/รตน.) 213/3,750 แรงบิดสูงสุด (กก.-ม.) 51.0/1,750-2,000 ระบบจ่ายเชื้อเพลิง คอมมอนเรล ไดเรคท์อินเจคชัน ระบบถ่ายทอดกำลัง เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ 10 มีบวก/ลบ ขับเคลื่อน (ล้อ) 4 ระบบรองรับ หน้า อิสระ ปีกนกคู่ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลัง เพลาแข็ง แหนบสปริง ระบบบังคับเลี้ยว แบบ ฟันเฟือง และตัวหนอน พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้าผ่อนแรง ระบบห้ามล้อ แบบ เอบีเอส อีบีดี บีเอ หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน หลัง ดุม ราคา (บาท) 1,189,000