รายงานข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Toyota วางแผนที่จะเพิ่มเติมรถไฮบริด-ไฟฟ้า อีก 3 รุ่น ในปีหน้าสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา แม้ว่าค่ายรถยนต์อื่น จะพากันถอยห่างจากระบบไฮบริด-ไฟฟ้า และเพิ่มเติมเป็นรถไฟฟ้าหลากหลายยี่ห้อจากข้อบังคับด้านมลภาวะ ทำให้บรรดาผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่างพากันพุ่งเป้าไปที่การแนะนำรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ขณะที่ค่าย Toyota ยืนยันว่าจะเป็นผู้นำในการผลิตระบบไฮบริดในตลาด และยังไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการผลิตรถพลังงานไฟฟ้า ที่ต้องใช้เสียบปลั๊กเพื่อชาร์จกระแสไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ในการประชุมด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ จากการนำเสนอของผู้บริหาร Toyota โดยวิศวกรของ Toyota ระบุว่า มีแผนงานที่จะเพิ่มจำนวนรุ่นรถที่ใช้ระบบไฮบริด-ไฟฟ้า ในหลากหลายประเภท โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา ที่มีแผนจะเพิ่มอีก 3 รุ่น ภายในปีหน้า ปัจจุบัน Toyota มีรถไฮบริด-ไฟฟ้า รุ่น Prius Prime และ RAV4 Prime PHEV ออกจำหน่าย โดยคาดว่า Toyota จะเพิ่ม ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี พลังงานไฟฟ้าอีก 2 รุ่น เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค รวมทั้งเป็นการลดมลภาวะจากไอเสียเช่นกัน Sam Abuelsamid นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมรถยนต์ อดีตวิศวกรรมในอุตสาหกรรมยานยนต์ กล่าวว่า “การตั้งราคาก็เป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญ เพราะระบบ ไฮบริด-ไฟฟ้า มีราคาแพงกว่าระบบไฮบริด ตามปกติ เพราะคุณต้องมีชุดแบทเตอรี มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง และระบบอีเลคทรอนิคส์อันทรงพลัง” นักวิเคราะห์อีกราย Gill Pratt ยืนยันว่า ระบบไฮบริด ให้ผลตอบแทนผู้ผลิต ในการลดมลภาวะจากไอเสีย โดยเฉพาะผู้บริโภคที่ใช้งานการเดินทางเฉลี่ยในชีวิตประจำวันตามปกติ พร้อมระบุข่าวสารที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ว่า ซีดาน ไฮบริด-ไฟฟ้า และครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี นับเป็นรุ่นที่ดีในการลดค่ามลภาวะจากไอเสีย “ไม่เพียงระบบไฮบริด-ไฟฟ้า จะสามารถลดค่ามลภาวะจากไอเสียได้ แต่หากนำมาเปรียบเทียบกับรถชนิดอื่นๆ จะได้ประสิทธิภาพของการใช้งานมากกว่า แม้แต่จะเทียบกับรถไฟฟ้า ก็ตาม”