ธุรกิจ
Great Wall Motor เปิดโรงงาน
เอลเลียต จาง ประธาน Great Wall Motor ภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทย เผยว่า โรงงานที่จังหวัดระยองนี้ ถือเป็นฐานการผลิตรถยนต์ในต่างประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ Great Wall Motor และเป็นโรงงานผลิตอัจฉริยะแห่งใหม่ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าเราพร้อมสำหรับการผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในตลาดอาเซียนอย่างเป็นทางการ และภายในปลายปีนี้ จะสร้างอาชีพกว่า 1,000 ตำแหน่ง ในประเทศไทย และในอนาคตทรัพยากรบุคคลของเราจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยต่อไป การเปิดโรงงาน Great Wall Motor แห่งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญตามกลยุทธ์โลกาภิวัฒน์ของเราในการขยายธุรกิจมาสู่ตลาดอาเซียน โดยเฉพาะตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวา โดย Great Wall Motor เชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในศักยภาพของประเทศไทย ที่มีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยี องค์ความรู้ ทักษะ และฝีมือของพนักงาน รวมไปถึงความร่วมมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ที่จะช่วยเติมเต็ม และผลักดันให้โรงงานระยองเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย โดยโรงงานแห่งนี้ถือเป็นโรงงานอัจฉริยะที่มีมาตรฐานระดับโลกที่จะมาพลิกโฉม และสร้างมาตรฐานใหม่ โดยได้นำเทคโนโลยีหลักจำนวนมากมาใช้ เช่น อุปกรณ์อัจฉริยะ ระบบข้อมูลอัจฉริยะ และนำ Big Data มาใช้เชิงอุตสาหกรรม ในกระบวนการจัดการ นอกจากนี้ ยังได้นำเทคโนโลยีล่าสุดของ Great Wall Motor มาใช้ในด้านการผลิตอัจฉริยะ การขนส่งลอจิสติคส์อัจฉริยะ และการปฏิบัติการเชิงดิจิทอล (Digital Operation) เพื่อให้เป็นโรงงานที่มีวิธีการผลิต กระบวนการ และการจัดการอัจฉริยะอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นที่จะนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ และการออกแบบประสบการณ์ใหม่มาสู่ผู้บริโภคชาวไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานประสบการณ์ลูกค้าให้ก้าวไปอีกขั้น พร้อมดำเนินการเปิด GWM Store และ Partner Store อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าชาวไทย ความสำเร็จต่างๆ นี้ เป็นเพราะเราได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ และคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมไปถึงพันธมิตรทางธุรกิจ และแฟนๆ ชาวไทยของเราเป็นอย่างดีเสมอมา เราขอขอบคุณ และขอยืนยันความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนา และรักษามาตรฐานที่ดีที่สุดของเราไว้ เพื่อที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ใหม่ที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย
โรงงาน Great Wall Motor ประเทศไทย จัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิด “ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” (Intelligence, Safety and Green) ตั้งอยู่ที่ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่ 412 ไร่ โดยหลังจากการเข้ามาเริ่มดำเนินงานในระยะเพียง 7 เดือน Great Wall Motor ได้พัฒนาในระบบ และปรับปรุงโรงงานให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) มีกำลังการผลิตแบบเต็มกำลังอยู่ที่ 80,000 คัน/ปี และจะเป็นฐานการผลิตหลักสำหรับรถยนต์พวงมาลัยขวาโดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (xEV) ของภูมิภาคอาเซียน มีสัดส่วนของการผลิต และส่งออกอยู่ที่ 60:40 ซึ่งจะเป็นการจำหน่ายภายในประเทศ 60 % และเป็นการส่งออกไปยังประเทศที่เป็นรถยนต์พวงมาลัยขวา 40 % โดยมี All New HAVAL H6 Hybrid SUV เป็นรถรุ่นแรกจากสายการผลิต
เกรกลี รองประธานบริหารฝ่ายการผลิตในโรงงาน Great Wall Motor ภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทย กล่าวว่า การจัดตั้งโรงงาน Great Wall Motor ที่จังหวัดระยอง ในประเทศไทย นับเป็นโอกาสอันดีสำหรับเราที่จะได้ช่วยพัฒนา และนำเอาเทคโนโลยีด้านยานยนต์ของเรามาช่วยต่อยอด และยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไกลไปอีกขั้น อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ได้เฟ้นหา และร่วมงานกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตนวัตกรรม และชิ้นส่วนรถยนต์ของไทย เพื่อร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปกับเรา และเหนือสิ่งอื่นใด คือ การที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มอัตราการจ้างงาน พัฒนาองค์ความรู้ และทักษะด้านยานยนต์สมัยใหม่ รวมไปถึงเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่คนไทย เพื่อให้มีความพร้อม และสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในการผลิต และส่งมอบรถยนต์คุณภาพให้แก่ชาวไทย โดยนับตั้งแต่การเริ่มเข้ามาดำเนินการที่โรงงานระยอง ในเดือนพฤศจิกายน ในปีที่ผ่านมา เรามีการจ้างงานไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 700 ตำแหน่ง และมีแผนที่จะเพิ่มอัตราการจ้างงานขึ้นให้ครบ 1,000 ตำแหน่งภายในปลายปีนี้ ทั้งนี้ เรายังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ที่จะเฟ้นหาทั้งเทคโนโลยีที่ชาญฉลาด รวมทั้งพัฒนากระบวนการทำงานที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยให้แก่ทั้งทีมงาน วิธีการทำงาน และการผลิตรถยนต์คุณภาพของเรา
สตีเฟน หวัง รองประธาน ฝ่ายขายและการตลาด Great Wall Motor ภูมิภาคอาเซียน และประเทศไทย กล่าวถึงรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่ผลิตจากสายการผลิตของโรงงานระยอง โดยรถยนต์ทุกคันได้ผ่านกระบวนการผลิต การทดสอบ และการประเมิน ทั้งในด้านคุณภาพ เทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยอย่างเข้มข้นตามมาตรฐานระดับโลกของ Great Wall Motor เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคชาวไทย โดย HAVAL H6 Hybrid SUV ที่มาจากสายการผลิตจากโรงงานในประเทศไทย จะมาพร้อมกับแนวคิด LIFE+ คือ L: การขับขี่อัตโนมัติระดับ L2 I: ระบบอัจฉริยะ Intelligence V3.5 รองรับคำสั่งงานด้วยเสียง F: FOTA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถอัพเกรดซอฟท์แวร์ผ่านเทคโนโลยีการอัพเกรดระยะไกล E: ชิพอัจฉริยะ EYEQ4 และ + (Plus): ที่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่จะช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุก และปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ โดย All New HAVAL H6 Hybrid SUV จะเริ่มเปิดจองสิทธิลงทะเบียนเพื่อซื้อ ในวันที่ 15 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมประกาศราคาในวันที่ 28 มิถุนายนนี้
นอกจากนี้ Great Wall Motor ยังได้รับเกียรติจาก หวัง ลี่ผิง อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและพาณิชย์ ประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ให้เกียรติกล่าวแสดงความยินดี และร่วมเปิดโรงงาน โดยมีแขกผู้มีเกียรติจากรัฐบาล หน่วยงานจากภาครัฐ ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมพิธี และเป็นสักขีพยาน
โรงงาน Great Wall Motor จังหวัดระยอง ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก อันได้แก่
1. Press Shop
2. Body Shop
3. Paint Shop
4. General Assembly (GA) Shop
โดยแต่ละส่วนจะประกอบไปด้วย นวัตกรรม และเทคโนโลยีระบบการผลิตอันล้ำสมัย ทั้งระบบ Artificial Intelligence (AI) การใช้หุ่นยนต์ และระบบควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งได้รับการคิดค้น และพัฒนาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาของ Great Wall Motor ซึ่งมีกว่า 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก โดยทุกๆ กระบวนการทำงานภายในโรงงาน จะมีการควบคุมดูแล ตรวจเชคคุณภาพ และรักษาความปลอดภัยอย่างละเอียด และเคร่งครัดจากทีมทำงานที่เปี่ยมไปด้วยทักษะ และความเชี่ยวชาญของ Great Wall Motor อย่างใกล้ชิด
กระบวนการผลิตใน Press Shop ถือเป็นขั้นตอนแรกของการผลิตรถยนต์ โดยมีหน้าที่หลักในการผลิตแผงตัวถังขนาดใหญ่ และชิ้นส่วนโลหะที่สำคัญ โดย Press Shop ของโรงงาน Great Wall Motor ในปัจจุบันยังไม่ได้เปิดทำงานในส่วนนี้ แต่ในอนาคต Press Shop แห่งนี้ จะโดดเด่นด้วยการทำงานของ 2 สายการผลิต อันได้แก่ สายการผลิต JINAN ของประเทศจีน และสายการผลิต WIA ของประเทศเกาหลีใต้ ทำงานร่วมกับการใช้หุ่นยนต์ FANUC อัจฉริยะแบบ 6 แกน นอกจากนี้ สายการผลิตยังมีฟังค์ชันต่างๆ เช่น ระบบเปลี่ยนแม่พิมพ์อัตโนมัติ (Automatic Die Change System) และระบบตรวจสอบการผลิตอันล้ำสมัยที่จะมาจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี
Body Shop ของโรงงาน Great Wall Motor จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ที่เต็มไปด้วยแนวคิดการออกแบบที่ชาญฉลาด และประสิทธิภาพสูง และอัดแน่นไปด้วย
- หุ่นยนต์อัจฉริยะกว่า 53 ตัว โดยแบ่งเป็นหุ่นยนต์ FANUC จำนวน 47 ตัว ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนสำคัญ ในการเชื่อมตัวถังรถยนต์ซึ่งผลิตจากเหล็กคุณภาพสูงที่แข็งแรงทนทาน โดยทำงานร่วมกับหุ่นยนต์อีก 6 ตัว ซึ่งทำหน้าที่ในการส่งต่อชิ้นส่วนในการผลิตในแต่ละสถานี ทำให้การทำงานใน Body เป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพในการประกอบมากที่สุด
- ระบบประมวลผลภาพ MES Process Visualization ซึ่งเป็นการแสดงข้อมูลการประกอบชิ้นส่วนยานยนต์ และการสร้างตัวถังรถยนต์ (Body In White ) ในรูปแบบดิจิทอลแทนที่การใช้กระดาษ ซึ่งแผนการผลิตจะถูกส่งผ่านระบบ MES โดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความผิดพลาดต่าง ๆ เช่น การประกอบชิ้นส่วนไม่ถูกต้อง หรือมีการติดตั้งออพชันที่ไม่ถูกต้อง โดยระบบจะแสดงข้อมูลชิ้นส่วนยานยนต์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการผลิตปัจจุบันเป็นรูปภาพบนหน้าจออุปกรณ์พกพา (PDA) เพื่อความถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น
- ระบบ VIN number เป็นการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) หรือ AI มาใช้เพื่อเพื่อบอกตำแหน่ง ความลึก ความยาว และข้อมูลต่างๆ อัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการจับภาพเพื่อบ่งบอกอัตลักษณ์ของชิ้นส่วนต่างๆ การวิเคราะห์และการเปรียบเทียบชิ้นส่วน ซึ่งสามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลได้จากการประทับเลข VIN Number การบันทึกแผนการผลิตลงในระบบ MES หรือการประทับบาร์โคด
- Automatic Model Switching เทคโนโลยีการสลับรุ่นแบบอัตโนมัติ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะเฉพาะของ Great Wall Motorโดยเป็นอุปกรณ์หยิบ และยึดจับหลากหลายรูปแบบ ที่ทำให้สามารถทำงานได้อย่างยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น สามารถผลิตรถยนต์ได้หลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรถเอสยูวี หรือรถกระบะร่วมกันได้ภายในสถานีเดียวกัน
Paint Shop ของโรงงาน Great Wall Motor จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 39,744 ตารางเมตร โดยมีกระบวนการการทำสีที่ละเอียดอ่อนกว่า 10 ขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมพื้นผิวของตัวถังให้พร้อมสำหรับการทำสี การเคลือบกันสนิมโดยการใช้ประจุไฟฟ้าเพื่อให้สามารถเคลือบสีให้ติดบนพื้นผิวรถได้มากที่สุด ไปจนถึงการตรวจสอบคุณภาพอีกครั้งก่อนจะส่งไปยังโรงงานประกอบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถยนต์ที่ผลิตทุกคันจะมีสีสันสวยงาม คงทน ดูเหมือนรถยนต์ใหม่อยู่เสมอ โดยมีการใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีอันล้ำสมัยในขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
- การเคลือบสีด้วยไฟฟ้า แบบ The 8th Generation Ultra-high Penetration Electrophoretic Paint ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการเคลือบสีขั้นสูงด้วยไฟฟ้า ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการกัดกร่อนให้แก่โครงรถ ทั้งคันได้อย่างยอดเยี่ยม โดยการเคลือบสีอีเลคทโรโฟเรชันสูง สามารถป้องกันการกัดกร่อนแบบ 15 ไมครอนขึ้นไป
- เทคโนโลยี Regenerative Thermal Oxidation ซึ่งเป็นอุปกรณ์ออกซิเดชันความร้อนที่เกิดใหม่ขั้นสูงที่นำเข้ามาจากประเทศเยอรมนี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบำบัดแกสเสียได้มากกว่า 99 % ทำให้ลดการปล่อยแกส และสารพิษในกระบวนการพ่นสีให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
- ระบบการพ่นสีแบบ 24-Color Robot Automatic Spraying ซึ่งเป็นระบบหุ่นยนต์พ่นสีอัจฉริยะที่ควบคุมด้วยระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สามารถควบคุมความสม่ำเสมอในการพ่นสีให้เหมือนกันในทุกๆ ครั้ง รวมไปถึงโหมดการทำงานที่สามารถเลือกเปลี่ยนสีรถยนต์แต่ละคันได้ตามที่กำหนด และใช้งานได้มากถึง 24 สี
นอกจากนี้ ยังมีขั้นตอนที่จะช่วยเติมเต็มให้การพ่นสีเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้กาวพีวีซีแบบพิเศษ เพื่อช่วยป้องกันการซึม และรั่วไหลได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงการ Top Coating พื้นผิวด้วยเทคนิคพิเศษเพื่อให้ตัวรถมีสีสันสดใสสวยงามมากยิ่งขึ้น
General Assembly (GA) Shop ถือเป็นกระบวนการสุดท้ายในการผลิตรถยนต์ ซึ่งเป็นขั้นตอนการประกอบรถยนต์เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์ โดย GA Shop ของโรงงาน Great Wall Motor จังหวัดระยอง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 63,000 ตารางเมตร ได้รับการปรับปรุงพื้นที่ และระบบใหม่ทั้งหมด ด้วยวิธีการอันชาญฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น อาทิ
- ระบบ PDA Smart Scan & QA System เป็นระบบสแกนอัจฉริยะที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกัน และลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยระบบจะรวมรวมข้อมูลอะไหล่ทั้งหมด 99 ชนิด โดยจะมีการสแกนข้อมูลชิ้นส่วนเพื่อบันทึกลงในระบบก่อนการเริ่มประกอบรถยนต์ผ่านแทนที่จะเป็นการบันทึกด้วยมือเพื่อป้องกันความผิดพลาด 4 ประเภทในระหว่างการผลิต ไม่ว่าจะเป็นจากการลืมสแกน การประกอบผิดพลาด การลืมประกอบ หรือการประกอบซ้ำ เป็นการลดปัญหาเรื่องความผิดพลาดในการประกอบชิ้นส่วนหลัก หรือชิ้นส่วนที่คล้ายคลึงกันให้กลายเป็นศูนย์ และมีประสิทธิภาพในการติดตามชิ้นส่วนต่างๆ มากถึง 100 %
- Intelligent Chassis Line นับเป็นครั้งแรกของ Chassis Line ที่เป็นการออกแบบอย่างอัจฉริยะ โดยมีเสาสำหรับแขวนโครงรูปตัว L เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย โดยโครงแขวนนี้สามารถรองรับรูปแบบแผนการผลิตที่หลากหลาย เพื่อทำให้การทำงานมีความยืดหยุ่น และรวดเร็วขึ้น และสามารถผลิตรถยนต์ได้หลายรุ่น
- เทคโนโลยี Dual-Life AGV ระบบเคลื่อนย้ายอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เพื่อการประกอบตัวถังที่รวดเร็ว พร้อมกับระบบติดตามกระบวนการผลิต และการป้องกันการกระแทกระหว่างผลิตอันชาญฉลาด สามารถทำงานได้หลากหลายในเวลาเดียวกัน สามารถทำให้การขยายหรือปรับเปลี่ยนแผนการผลิตทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- Assembly Manipulator การใช้หุ่นยนต์ที่มีระบบการทำงานที่ชาญฉลาดและทันสมัยมาช่วยในการประกอบรถยนต์ โดยเฉพาะในส่วนที่มีความซับซ้อนอย่างการประกอบ Panoramic Sunroof มีความแม่นยำ ถูกต้อง รวดเร็วที่สุด และเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
นอกจากนี้ใน GA Shop ยังมีการติดตั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีอัจฉริยะสำหรับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น
- ระบบกล้องอัจฉริยะแบบ 360 องศา (360 Degree Smart Camera) เป็นระบบกล้องที่สามารถมองรอบทิศทางได้ 360 องศา ช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวรถ โดยกล้องจะจับภาพแสดงวัตถุที่อยู่รอบๆ ตัวรถและส่งสัญญานเตือนเมื่อมีวัตถุเข้ามาในรัศมีต่างๆ ตามระยะห่าง ซึ่งใน GA workshop จะมีอุปกรณ์สำหรับการตรวจสอบตำแหน่งการติดตั้งกล้องรอบตัวรถอย่างแม่นยำ ซึ่งจะติดตั้งกล้องไว้ที่ตำแหน่งมุมมองกว้างพิเศษของด้านหน้า ด้านหลัง ด้านซ้าย และด้านขวาของตัวรถ อย่างความถูกต้องและแม่นยำสูงสุด และจะมีการเชื่อมต่อไปยังหน้าจอคอนโซลเพื่อแสดงผลภาพรอบตัวรถทั้ง 4 มุมได้อย่างถูกต้อง
- หน้าจอแสดงข้อมูลขับขี่อัจฉริยะ (HUD System) เป็นระบบประมวลภาพและข้อมูล เพื่อนำข้อมูลที่เอื้อต่อการขับขี่ เช่น สภาพถนน และความเร็ว มาปรากฏบนกระจกที่หน้าจอคนขับ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการขับขี่อัตโนมัติ
ทั้งนี้ ในสายการผลิตรถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV จะมีการใช้อุปกรณ์กึ่งอัตโนมัติที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการติดตั้งแบทเตอรีพร้อมด้วยอุปกรณ์อันทันสมัยสำหรับทดสอบแบทเตอรีให้พร้อมสำหรับการใช้งาน และจะมีการตรวจคุณภาพของรถยนต์ทุกคันที่ออกมาจากสายการผลิตอย่างเคร่งครัดตามขั้นตอนที่ได้มาตรฐานระดับโลกของ Great Wall Motor
โรงงาน Great Wall Motor จังหวัดระยอง มาพร้อมแนวคิดด้านความชาญฉลาด ความปลอดภัย อีกทั้งยังตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในแง่ของการผลิต และทดสอบรถยนต์พลังงานใหม่ตามกลยุทธ์ xEV Leader ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดมลพิษที่เกิดขึ้นต่อโลก นอกจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาดแล้ว Great Wall Motor ยังได้ปรับปรุงทัศนียภาพของโรงงานให้ร่มรื่น โอบล้อมด้วยสวน และพื้นที่สวนสาธารณะ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตร มีการบำบัดของเสียจากโรงงานควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามข้อกำหนดการจัดการขยะ และของเสียตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมของไทยในทุกแง่มุม ซึ่งสะท้อนถึงความตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงของบริษัทฯ
การเปิดโรงงานใหม่ล่าสุดของ Great Wall Motor ที่ประเทศไทยในวันนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในฐานะ “บริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก” (Global Mobility Technology Company) และยังเป็นการบันทึกอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ Great Wall Motor แห่งประเทศไทย ในการก้าวผ่านไปสู่ยุคของอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ไปด้วยกัน ด้วยโรงงานอัจฉริยะที่มีกระบวนการการผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ที่มาพร้อมนวัตกรรมที่สร้างความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม Great Wall Motor ยังคงยืนหยัดในการสร้างความเชื่อมั่น และพร้อมแล้วที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ และการบริการที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยในอนาคตอันใกล้ และมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดัน และยกระดับเศรษฐกิจให้ประเทศไทยกลายเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียนต่อไป