10 วิธีง่ายๆ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์แบบพลัก-อิน ไฮบริดในบางข้อ1. วางแผนเส้นทาง-อย่างชิลล์ๆ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีพัฒนาระยะทางวิ่งให้ไกลขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันสามารถไปได้ไกลถึง 300 กม. แล้ว ในทุกสภาพการจราจร แต่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนระยะไกล ควรต้องวางแผนล่วงหน้า ซึ่งการวางแผนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BMW นั้น ก็ทำได้ง่ายๆ จากเก้าอี้นุ่มๆ ในบ้าน ด้วยแอพพลิเคชัน "My BMW App" ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายสถานีชาร์จโดยละเอียด ทั้งชนิดของปลั๊ก เวลาเปิดทำการ และสภาพการใช้งาน ช่วยการเดินทางไกลของคุณได้เยอะ 2. ชาร์จไฟได้เร็ว : แค่ 80 % ก็เย็นใจ การชาร์จไฟที่สถานีชาร์จเร็ว DC มีความสะดวก เหมาะมากสำหรับการเดินทางไกล ระยะเวลาในการชาร์จก็เหมือนจิบกาแฟแก้วเดียว สถานีชาร์จเร็วขนาด 150 กิโลวัตต์ จะจ่ายไฟฟ้าให้ BMW iX3 (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์ 3) ได้มากพอวิ่งได้ 100 กม. ในเวลาเพียงแค่ 10 นาที เท่านั้น และชาร์จถึง 80 % ได้ภายใน 34 นาที ระหว่างเดินทางไกลที่มีสถานีชาร์จ HPC ถ้าคุณเลือกชาร์จแบทเตอรีที่ 80 % จะช่วยประหยัดเวลาในการชาร์จ และการเดินทางได้อย่างมาก โดยระบบนำทางจะระบุตำแหน่งร้านกาแฟใกล้สถานีชาร์จเพื่อให้นั่งพักผ่อนระหว่างรอ และด้วย "My BMW App" คุณจะเห็นความคืบหน้าของการชาร์จได้ตลอดเวลา พร้อมแจ้งเตือนเมื่อแบทเตอรีชาร์จเต็ม 3. ปรับอุณหภูมิให้พร้อม : เพื่อการชาร์จเต็มประสิทธิภาพ การเตรียมสภาพรถ คือ การทำให้ระดับไฟของแบทเตอรี และอุณหภูมิในห้องโดยสารเหมาะสมที่สุด ก่อนออกตัว เพราะการปรับอากาศห้องโดยสารขณะวิ่งนั้น ต้องอาศัยไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งจะทำให้ระยะทางลดลง การปรับอากาศห้องโดยสารให้เย็น หรืออุ่นขึ้น จึงต้องทำระหว่างการชาร์จด้วยเครื่องชาร์จไฟบ้าน โดยปรับอากาศห้องโดยสารได้จากเมนูในรถยนต์ หรือจาก "My BMW App" โดยไม่ต้องปรับแต่งในรถ ด้วยวิธีนี้ อุณหภูมิใช้งานของแบทเตอรี และระดับไฟที่ต้องการ กับอุณหภูมิห้องโดยสารที่เลือกไว้แล้ว จะเหมาะสมพอดีสำหรับการเดินทางตามแผนของเรา 4. แลกเปลี่ยนข้อมูลด้วยเครือข่ายความคิดเห็น หากคุณขับรถยนต์ไฟฟ้า คุณ คือ ผู้บุกเบิกด้านยนตรกรรมแห่งอนาคต และผู้บุกเบิกจะตื่นตัวเสมอด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล ลองเข้าไปอ่าน และแบ่งปันข้อมูลในบลอก หรือเวบบอร์ดต่างๆ เช่น กลุ่มผู้ใช้งาน BMW i3 ที่เจ้าของ และคนขับรถยนต์ไฟฟ้า BMW ได้พูดคุย แบ่งปัน และแสดงความคิดเห็นจากประสบการณ์อันหลากหลาย บ่อยครั้งที่มีคนตอบคำถาม หรือแก้ปัญหาให้คุณ และความคิดแบบช่วยเหลือแบ่งปันนี้ คือ สิ่งที่มีประโยชน์เกินจะมองข้าม ซึ่งไม่ได้เป็นเฉพาะรุ่นของรถไฟฟ้า หรือพลัก-อิน ไฮบริดเท่านั้น แต่ยังมีความรู้เรื่องสถานีชาร์จด้วย คนขับรถไฟฟ้าที่ใฝ่รู้จะแบ่งปันกลเม็ดเด็ดพรายต่างๆ และบอกลูกเล่นเรื่องการวางแผนเดินทางไกล หรือบอกข้อมูลของสถานีชาร์จที่เพิ่งสร้างเสร็จกับคุณด้วย 5. BMW Points-ขับรถไฟฟ้าแล้วสะสมแต้ม ข้อนี้มีประโยชน์ โดยเฉพาะกับผู้ใช้รถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด กลุ่มบริษัท BMW ริเริ่มการให้คะแนนแก่ผู้ใช้รถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดเป็นโครงการของโลก โดยผู้ขับขี่จะได้ 1 คะแนน BMW Points สำหรับทุกๆ 1 กม. ที่ขับขี่ในโหมดไฟฟ้าในเขตเมือง หรือ eDrive Zone เพื่อแลกเป็นเครดิทสำหรับใช้กับสถานีชาร์จ BMW Charging Stations ผ่าน "My BMW App" 6. วิธีขับที่ดี : เพิ่มระยะทางได้ ถึงเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน และไฟฟ้าจะแตกต่าง ก็มีอยู่หนึ่งสิ่งที่เหมือนกัน คือ การขับอย่างระมัดระวังด้วยความเร็วปกติ จะทำให้คุณขับได้ระยะทางไกลกว่า เช่น การขับด้วยความเร็ว 110 กม./ชม. แทนที่จะเป็น 130 กม./ชม. ซึ่งจะทำให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ไกลกว่า วิธีขับของแต่ละคน คือ องค์ประกอบสำคัญที่มีผลต่อการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และอายุใช้งานของแบทเตอรี ไม่เพียงเท่านั้น แต่ในการจราจรเขตเมืองซึ่งต้องหยุด และออกตัวบ่อย คุณก็สร้างพลังงานได้ ด้วยการฟื้นสภาพพลังงานนี้ พลังงานจลน์จะถูกเปลี่ยนรูปไปเป็นพลังงานไฟฟ้า ป้อนเข้าแบทเตอรีเมื่อถอนเท้าจากคันเร่ง เพิ่มระยะทางให้รถยนต์ไฟฟ้าได้อีก 7. เบรคเพื่อสร้างพลังงาน : เพิ่มพลังงานทุกครั้งที่เหยียบเบรค BMW มีฟังค์ชันใหม่ในรถรุ่น iX3 และรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดทุกคันในอนาคต คือ การฟื้นพลังงานตามสภาพจราจร (Adaptive Recuperation) ด้วยการใช้กระบวนการในการเบรค เปลี่ยนพลังงานจลน์ของรถกลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่จะป้อนไฟเข้าแบทเตอรี คำว่า Adaptive เป็นความเข้มระดับต่างๆ ของพลังงานที่เกิดขึ้นจากการเบรคตามสภาพการจราจร เช่น การเบรคเมื่อจะถึงทางแยก เข้าเขตจำกัดความเร็ว หรือเมื่อมีรถยนต์ขวางหน้า ในทางกลับกันเมื่อใช้ความเร็วได้ รถยนต์จะเปิดการทำงานของระบบแล่นด้วยแรงเฉื่อย (Coasting System) ทันทีที่ถอนเท้าจากคันเร่ง ยิ่งกว่านั้นคนขับยังเลือกระดับการฟื้นพลังงานด้วยตัวเองได้เมื่อใช้เกียร์ D และถ้าเลื่อนคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง B การฟื้นสภาพจะเข้มข้นขึ้น อันเป็นคุณสมบัติอันคุ้นเคยจาก BMW i3 8. อุณหภูมิแบทเตอรีเหมาะสม ยืดอายุใช้งาน : แบทเตอรีต้องไม่ร้อน หรือเย็นจัด โดยทั่วไปแล้ว คนที่ขับรถยนต์ไฟฟ้า จะต้องใส่ใจกับอุณหภูมิซึ่งเป็นองค์ประกอบภายใน อันมีผลต่อสมรรถนะ และความจุไฟฟ้าของแบทเตอรีขับเคลื่อน หลักการนี้คล้ายคลึงกับแบทเตอรีสมาร์ทโฟน คือ เมื่ออุณหภูมิที่สูง หรือต่ำเกินไป จะทำให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานในแบทเตอรีลดลง กลับกันหากเราระวังไม่ให้แบทเตอรีร้อน หรือเย็นเกินไป รถยนต์ไฟฟ้าของเราก็ได้ประสิทธิภาพสูงสุด 9. ลดการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า : วิธีง่ายๆ เพื่อยืดระยะทาง เราจะยืดระยะทางวิ่งของรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างไร ? คำตอบชัดเจน คือ ต้องปิดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าในรถเสีย ก็จะเหลือพลังงานให้ขับได้ไกลขึ้น สำหรับการใช้งานในสภาพอากาศหนาวเย็น จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร ซึ่งแก้ได้ด้วยการใช้ปั๊มความร้อนแทนฮีเตอร์ เช่น ในรถ BMW iX3 ที่มีอุปกรณ์นี้มาจากโรงงาน ในสภาพอากาศเย็น การใช้ฮีทปั๊ม จะช่วยเพิ่มระยะทางได้โดยไม่ต้องแลกกับการทนหนาวสั่นระหว่างขับรถ 10. รับรู้ข้อมูลตลอดเวลา-ด้วยแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ข้อมูลมีความสำคัญ และมีคุณค่าเท่าเทียมพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้ ได้พัฒนาไปได้กว้างไกลมากแล้ว สิ่งอำนวยความสะดวกให้รถยนต์พลังไฟฟ้า ได้ถูกขยายขอบเขต และปรับปรุงอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณซึ่งขับรถยนต์ BMW แบบไฮบริดหรือไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ต้องการรับข้อมูลที่ทันเหตุการณ์ สามารถเข้าไปศึกษาข้อมูลล่าสุดด้านยนตรกรรมไฟฟ้าที่ละเอียด ทันเหตุการณ์ และเข้าใจได้ง่าย ได้ที่เวบไซท์ BMW.com และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานี