ทิพยประกันภัยฯ ยืนยันความมั่นใจกรมธรรม์ COVID-19

ดร. สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ทิพยประกันภัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่บริษัทฯได้เข้ารับการย้ายโอนความคุ้มครองลูกค้า เอเชียประกันภัยฯ ที่ซื้อประกัน COVD-19 ได้มีหลายฝ่ายทั้งลูกค้า ทิพยประกันภัยฯ และผู้ถือหุ้นจำนวนหนึ่งเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการย้ายกรมธรรม์ประกัน เอเชียประกันภัยฯ มาทำประกันกับ ทิพยประกันภัยฯ นั้นจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ เรื่องนี้ตนขอเรียนว่า กรมธรรม์ที่เปลี่ยน หรือย้ายมาทำนั้น เป็นกรมธรรม์ที่เหมือนกับที่ ทิพยประกันภัยฯ ขายในปัจจุบัน ปัจจุบัน ทิพยประกันภัยฯ เรามีกรมธรรม์ประกันโควิดโคมาขายอยู่เพียง 2 แผน ได้แก่ แบบแผนเบี้ยประกัน 300 คุ้มครอง 300,000 บาท กับอีกแผนที่คุ้มครอง 500,000 บาท เบี้ยประกัน 480 บาท เพราะฉะนั้นการแปลงกรมธรรม์นี้ไม่ได้เป็นการเพิ่มภาระให้แก่ ทิพยประกันภัยฯ ในการรับประกันแต่อย่างใด หากเพียงแต่เป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า เอเชียประกันภัยฯ ที่ต้องการหาซื้อประกัน COVID-19 คุ้มครองการเสียชีวิตจากอาการโคมาไว้เท่านั้นเอง และคงจะไม่มีผลกระทบต่อความแข็งแกร่งของ ทิพยประกันภัยฯ แต่ประการใด โดยเฉพาะ ทิพยประกันภัยฯ ถือว่าโชคดีที่เราเป็นบริษัทประกันเพียงไม่กี่บริษัท ที่มีบริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ (รีอินชัวเรอร์ต่างประเทศ) ที่มารับประกันภัยต่อประกัน COVID-19 ของเรา ซึ่งรับประกันต่องานประกัน COVID-19 ของ ทิพยประกันภัยฯ ไว้ถึงสัดส่วน 50 % ของพอร์ท ซึ่งค่อนข้างจะมากทีเดียว ทั้งนี้ก็เพราะรีอินชัวเรอร์มองเห็นว่า เราค่อนข้างระมัดระวัง และทิพยประกันภัยฯ มีการคำนวณความเสี่ยงในการรับประกัน ดังนั้นรีอินชัวเรอร์ต่างประเทศจึงมีความมั่นใจพร้อมจะสนับสนุน ทิพยประกันภัยฯ ดร. สมพร ยังกล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ทิพยประกันภัยฯ ได้รับประกัน COVID-19 ปีนี้กับปีที่แล้ว รวมๆ กันแล้วเกือบ 5 ล้านกรมธรรม์ คิดเป็นเบี้ย 2,500 กว่าล้านบาท โดยเรามีผู้ใช้สิทธิ์เรียกร้องสินไหมรวมแล้ว 5 หมื่นราย คิดเป็นสินไหมประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยทิพยประกันภัยฯ เราไม่มีการขายประกันเจอจ่ายจบ จึงทำให้เราสามารถยังให้ความคุ้มครองรองรับลูกค้าเราได้อย่างไม่มีปัญหา และอยากให้ผู้ถือหุ้น ทิพยประกันภัยฯ และลูกค้าของเราสบายใจได้ว่า บริษัทฯ มีความมั่นคงแข็งแกร่ง โดยลูกค้า เอเชียประกันภัยฯ หากย้ายมาประกัน COVID-19 ในรูปแบบประกันการเสียชีวิตจากอาการโคมาทั้งหมด 770,000 คน เราก็ยังสามารถรองรับได้ เนื่องจากความคุ้มครองจะดูแลเฉพาะการเสียชีวิตจากอาการโคมา ซึ่งคำว่า “โคมา” ในนิยามคงไม่ใช่หมายถึง ติดเชื้อแล้วไปอยู่ไอซียูแล้วได้รับความคุ้มครอง ซึ่งส่วนใหญ่ “โคมา” ในที่นี้จะเป็น “ภาวะก่อนการเสียชีวิตตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์” เพราะฉะนั้นความเสี่ยงที่รองรับประชาชนจุดนี้จึงไม่กระทบต่อบริษัทฯ ทั้งนี้ ดร. สมพร ยังกล่าวถึงเงินกองทุน (คาร์เรโช) ณ ปัจจุบันของ ทิพยประกันภัยฯ อยู่ที่ 263 % ว่าเรายังคงมีสถานะอย่างนี้ไปได้จนถึงสิ้นปี และถ้าสถานการณ์ COVID-19 เกิดมีรอบ 4 ขึ้นมา ก็คิดว่ามันจะไม่กระทบ เพราะเชื่อว่าคงจะมีความรุนแรงไม่มาก เพราะรัฐบาลมีประสบการณ์รับมือการระบาดที่ผ่านมาแล้ว​ รวมทั้งประชาชนส่วนใหญ่ต่างได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก และเข็มสองไปแล้วจำนวนมาก รวมถึงการเริ่มฉีดเข็มสาม ประกอบกับ ทิพยประกันภัยฯ เองก็ไม่มีการขายประกันภัยแบบเจอจ่ายจบในพอร์ท หากมีแต่ขายคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล หรืออาการโคมา หรือกรณีไม่เข้ารักษาพยาบาล เราก็มีการจ่ายค่าชดเชยให้ เพราะฉะนั้นถ้าอนาคตเกิดติดเชื้ออีกระลอกใหม่ ก็ยังอยู่ในภาวะรองรับได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ อยากจะประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อว่า สำหรับลูกค้า เอเชียประกันภัยฯ ขณะนี้ค่อนข้างสับสน และเข้าใจว่า “ทิพยประกันภัยฯ” รับโอนความคุ้มครองประกัน COVID-19 เจอจ่ายจบ แบบที่ทำไว้กับ เอเชียประกันภัยญ เลยนั้น ขอเรียนชี้แจงว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่ครับ ทิพยประกันภัยฯ คงเป็นทางเลือก สำหรับผู้ที่ต้องการจะมีความคุ้มครอง COVID-19 ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ จะเหลือความคุ้มครองอาการโคมาเท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ ได้มีจุดยืนขายผลิตภัณฑ์ประกัน COVID-19 มาตลอด ดังนั้นจึงอยากจะขอฝากสื่อมวลชนได้สื่อสารทำความเข้าใจให้พี่น้องประชาชนรับทราบจุดนี้ เพราะการที่โทรมาถามรายบุคคล อาจจะทำให้เราตอบได้ไม่ทั่วถึง สำหรับกรมธรรม์ที่ย้ายมาทำกับเราคงจะออกเป็น Digital Policy ทั้งหมดเลย ซึ่งคงไม่เหมือนการออกกรมธรรม์ในภาวะปกติ ซึ่งอาจใช้เวลายาวนาน จึงจำเป็นต้องทำเป็นดิจิทอล ส่งกลับไปยังมือถือ หรือ Email Address เพื่อผู้เอาประกันจะได้นำไปใช้เป็นหลักฐานคุ้มครองเวลาซื้อประกัน หรือเรียกร้องค่าสินไหม