อเลกซันเดร์ บาราคา ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมียม ด้วยผลดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ยอดจดทะเบียนรถยนต์ BMW (บีเอมดับเบิลยู) และ Mini (มีนี) อยู่ที่ 8,600 คัน โดย BMW มียอดการจดทะเบียนรถยนต์ที่ 7,759 คัน ในขณะที่ Mini ก็ประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันกับยอดจดทะเบียนถึง 841 คัน BMW จึงยังครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งระดับพรี เมียมด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 41.3 % ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้
ความสำเร็จของ BMW ในไตรมาสที่ผ่านมายังคงสะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจของลูกค้าชาวไทยทั่วประเทศที่มีต่อแบรนด์ของเรา ซึ่งเป็นผลจากความมุ่งมั่นที่เรามีให้แก่ตลาดในประเทศไทยมาโดยตลอด ภารกิจหลักของเรา คือ การส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าอย่างเช่นที่ทำมา เราก็มีความภาคภูมิใจในคุณภาพ และการบริการ ซึ่งมอบความสุขบนทุกเส้นทางให้แก่ลูกค้าของเรามาโดยตลอด ด้วยการสรรค์สร้างประสบการณ์การขับขี่ระดับโลก นอกจากนั้น เรายังได้นำโซลูชันต่างๆ มาใช้เพื่อยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า ในขณะที่ยังสามารถตอบสนองต่อมาตรฐาน ความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นด้านสุขอนามัย และความปลอดภัยของลูกค้าไปพร้อมกัน ผลลัพธ์เหล่านี้ตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งถึงความสามารถของเราในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และนำพาเรามาอยู่ในจุดที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะสร้างสีสันต่อไปในช่วงที่เหลือของปี 2564
ในด้านการผลิต บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย สามารถสร้างสถิติใหม่ด้วยยอดการประกอบรถยนต์ และมอเตอร์ ไซค์ รวมกว่า 200,000 คัน จากการดำเนินงานกว่า 21 ปี ขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ในปี 2564 ก็เพิ่มสูงขึ้นถึง 10.4 % โดยหลังจากที่บรรลุเป้าหมายในการผลิตรถยนต์ 100,000 คัน ในปี 2561 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ยังคงเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง สามารถทำยอดการผลิตรวมให้เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว ความสำเร็จนี้สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการปรับตัว และความมุ่งมั่นในการพัฒนา ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และโมเมนทัมที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ด้วยศักยภาพการผลิตที่โดดเด่นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
ในขณะที่ประเทศไทยค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่ หรือ New Normal บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทยได้เร่งดำเนินงานด้านบริการเพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ลูกค้า และพนักงานทุกคน ด้วยมาตรฐานด้านสุขภาพ และความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม โดยปัจจุ บันนี้ มีผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการรวม 8 รายที่ได้ผ่านการรับรองอย่างเต็มรูปแบบภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Safety and Health Administration (SHA) ที่เข้มงวด และยังมีอีก 4 รายที่อยู่ในระหว่างการประเมินดังกล่าว
นอกจากนั้น บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังพร้อมเดินหน้าฉลองครบรอบ 20 ปีด้วยแคมเปญพิเศษแห่งปีสำหรับทุกแบรนด์ในเครือ BMW นำเสนอรางวัลที่น่าตื่นเต้น และข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับลูกค้าทุกท่านที่ซื้อรถยนต์ภายใต้สัญญา BMW Financial Services ในปีที่ 20 ซึ่งเป็นก้าวย่างที่สำคัญนี้ BMW Financial Services จัดกิจกรรมชิงรางวัลใหญ่ ซึ่งผู้โชคดีจะได้มีโอกาสสัมผัสกับสุดยอดประสบการณ์ในทุกๆ เดือนกับ BMW Mini และ BMW Motorrad (บีเอมดับเบิลยู มอเตอร์ราด) พร้อมลุ้นรับรางวัลใหญ่จากทั้ง 3 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ BMW 2-Series Gran Coupe (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-2 กรัน คูเป) และ Mini Cooper SE (มีนี คูเพอร์ เอสอี) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % หรือมอเตอร์ไซค์ BMW C 400 GT (บีเอมดับเบิลยู ซี 400 จีที)
ข้อเสนอที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้จะเพิ่มอัตราการเติบโตของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ได้ปิดฉากความสำเร็จอย่างท่วมท้นจากงาน BMW Expo 2021 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7-10 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ ลูกค้ายังสามารถเพลิดเพลินกับข้อเสนอจากงาน BMW Expo ทั้งอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษ และโปรแกรมการบำรุงรักษา BSI ที่ยกระ ดับให้เป็นพิเศษถึง 10 ปี หรือ 100,000 กม. สำหรับ BMW X1 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 1) และอื่นๆ อีกมากมายตลอดเดือนตุลาคมนี้
บาราคากล่าวเสริมว่า แนวคิด The Power of Choice ยังคงเป็นรากฐานสำคัญสำหรับกลยุทธ์ของเรา และนี่ คือ เหตุผลว่าทำไมเรายังคงมอบโอกาสพิเศษสุดมากมายให้แก่ลูกค้าได้เป็นเจ้าของรถยนต์ในฝัน นอกจากนี้ BMW ยังเข้าสู่ยุคใหม่ของเทคโนโลยีพลัง งานไฟฟ้า ด้วย BMW IX (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์) และ BMW IX3 (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์ 3) รถยนต์ SAV พลังงานไฟฟ้า 100 % รุ่นแรก ที่จะสร้างนิยามใหม่ของประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตของตลาดยานยนต์ในไทย BMW IX XDrive50 Sport (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์ เอกซ์ดไรฟ 50 สปอร์ท) จะมาถึงประเทศไทยเป็นครั้งแรกในไตรมาสที่ 4 นี้ พร้อมนำความสุขในการขับขี่ ความปราดเปรียวแบบสปอร์ท และการออกแบบที่ล้ำสมัยโดยไม่ปล่อยมลพิษได้สูงสุด 630 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ในขณะที่ BMW IX3 M Sport (บีเอมดับเบิลยู ไอเอกซ์ 3 เอม สปอร์ท) รุ่นใหม่ ยังผสานสองสิ่งที่ดีที่สุด คือ พลังแห่งการขับขี่ และคุณภาพระดับพรี เมียมในแบบฉบับของ BMW X3 (บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3) และประสิทธิภาพของเทคโนโลยี E Drive เจเนอเรชันที่ 5 ซึ่งมีระยะทางขับขี่ได้สูงสุด 460 กม. ตามมาตรฐาน WLTP เรายังคงมีไฮไลท์ความตื่นเต้นใหม่ๆ ที่จะมาพร้อมกับข้อเสนอสุดพิเศษที่มากขึ้นช่วงเดือนพฤศจิกายน ในงาน BMW Premium Selection Festival ก่อนที่จะปิดท้ายปีอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเปิดตัวรถยนต์รุ่นล่าสุดในงาน Motor Expo