ธุรกิจ
สถาบันลูกโลกสีเขียว ประกาศผลงานพื้นที่สีเขียว
ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการสถาบันลูกโลกสีเขียว ประธานกรรมการตัดสินผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 20 เปิดเผยว่า การจัดงานในวันนี้ แตกต่างจากพิธีมอบรางวัลใน 19 ครั้งที่ผ่านมาเนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ภายใต้วิกฤต การณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สถาบันลูกโลกสีเขียวก็ยังคงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจต่อไปถึงแม้ว่าจะต้องมีการปรับการทำงานให้เข้ากับยุคสมัย สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ตาม เช่นเดียวกันกับที่ชุมชนยังคงต่อสู้เพื่อรักษาป่า ยังใช้ป่าเพื่อแก้ปัญหาความยากจน สร้างป่าชุมชนเพื่อเป็นแหล่งอาหาร และแหล่งเรียนรู้
สำหรับผลงานรางวัลทั้ง 42 ผลงานจากทั่วประเทศใน 7 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทชุมชน 8 ผลงาน ประเภทกลุ่มเยาวชน 4 ผลงาน ประเภท “สิปปนนท์ เกตุทัต รางวัลแห่งความยั่งยืน” 7 ผลงาน ประเภทบุคคล 8 ผลงาน ประเภทงานเขียน 4 ผลงาน ประเภทความเรียงเยาวชน 9 ผลงาน และประเภทสื่อมวลชน 2 ผลงาน
ดร. สุเมธ กล่าวว่า การทำงานรางวัลลูกโลกสีเขียวในการสนับสนุนคนตัวเล็กๆ ให้ร่วมมือร่วมใจอนุรักษ์ดิน น้ำ ป่า มาตลอด ต่อเนื่องกว่า 2 ทศวรรษนั้นเป็นมิติของการทำงานที่สะท้อนการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมระดับสากล ซึ่งก็ยังเป็นประเด็น เหตุผลกระทบที่หยิบยกขึ้นมาหารือในระดับเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่อง หรือแม้แต่เวทีประชุมล่าสุด COP 26 ก็ตาม
ผลงานประเภทบุคคลยังมีความน่าสนใจเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา มีให้ได้เห็นถึงตัวอย่างบุคคลอย่าง ดวงแก้ว สมพงษ์ ที่ท่องเที่ยวไปทั่วแต่สุดท้ายก็เกิดความคิดที่ต้องการอนุรักษ์ป่าในท้องถิ่นให้อุดมสมบูรณ์เหมือนบ้านอื่น จากสิงห์นักบิดกลายมาเป็นนักสร้างฝ่ายตัวยง มีตัวอย่างของ เดชา จือเหลียง คนที่ทำงานอนุรักษ์ป่าชายเลนมาอย่างยาวนาน ต่อเนื่อง มีตัวอย่างของการได้รับรางวัล ซึ่งจะเป็นกำลังใจสำคัญให้ผู้เถ้าวัยชราอย่าง เลื่อน มีแสง ให้เกิดความภาคภูมิใจต่อการอนุรักษ์พืชพันธุ์ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างพลังพลึงธาร หรือแม้แต่รางวัลสำหรับพระคุณเจ้า หลวงตาปพนพัชร์ จิรธัมโม ที่ทำงานช่วยเหลือชาวบ้านให้พ้นจากความทุกข์ของโรคมะเร็ง เป็นที่พึ่งทางกาย และจิตผ่านธรรมชาติบำบัด
สำหรับผลงานประเภทกลุ่มเยาวชนก็ยังมีอีกหลายผลงานที่คงให้ความสำคัญเรื่องการจัดการขยะ เรื่องการปลูกต้นไม้ เรื่องของการสร้างจิตสาธารณะในการดูแลผู้สูงวัย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ รางวัลประเภทกลุ่มเยาวชนมีความพิเศษตรงที่ว่า กลุ่มคนเหล่านี้ คือ เมล็ดพันธุ์ที่ต้องได้รับการเพาะเลี้ยง ต่อยอดให้เป็นต้นแบบในการขยายผลสู่นักอนุ รักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ในขณะที่รางวัลความเรียง งานเขียน สื่อมวลชน ก็ยังเป็นพลังปลุกให้สังคมตระหนักถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ที่นับวันจะมีความซับซ้อนมากขึ้น และการใช้สื่อโซเชียลมีเดียที่จะมีผลต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในอนาคต
ส่วนผลงานทั้งรางวัลประเภทชุมชน ประเภท “สิปปนนท์ เกตุทัต รางวัลแห่งความยั่งยืน” ก็ต้องขอชื่นชมเพราะการทำงานให้เกิดความยั่งยืนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งการทำงานกับกลุ่มคนให้มีความสามัคคี เพื่อมุ่งสู่จุดหมายเดียวกัน โดยที่อาจจะต้องเสียสละผลประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวมนั้นเป็นเรื่องยาก ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือ พื้นที่ป่ารวมกันหลายหมื่นไร่กระจายไปทุกภาคของประเทศ ด้วยพลังของชุมชนเครือข่ายลูกโลกสีเขียวครั้งที่ 20 มีความอุดมสมบูรณ์ยิ่ง อาทิ ชุมชนวังตะกอ ชุมชนบ้านเหล่าเหนือ ฯลฯ เป็นต้น ดังนั้น ผลงานประเภทชุมชน และสิปปนนท์ฯ นั้นควรค่าแก่การยกย่องเชิดชูเป็นอย่างมาก
ในอนาคต คน และทรัพยากรจะยิ่งต้องพึ่งพิงกันมากขึ้น ด้วยสถานการณ์โรคระบาดที่ทำให้คนกลับคืนถิ่น การรู้ใช้ รู้รักษาทรัพยากรจึงเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกชุมชนต้องเร่งสร้างความตระหนักต่อการปรับตัวให้เข้ากับวิถีที่คนกับธรรมชาติจะอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน เพื่ออนาคตของลูกหลานไทย
อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะกรรมการสถาบันลูกโลกสีเขียว กล่าวว่า ในวันนี้ บทบาทของสถาบันลูกโลกสีเขียวจะทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เนื่องจากวิกฤติโลกร้อนเป็นปัญหาระ ดับโลก ซึ่งนานาชาติล้วนตระหนัก ให้ความสำคัญต่อแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ทุกคนทั่วโลกก็ล้วนให้การยอมรับว่า ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์นั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยลด บรรเทาปัญหาโลกร้อนได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น การดำเนินงานของสถาบันลูกโลกสีเขียวมีส่วนอย่างมากในการร่วมผลักดันประเทศไทย และโลกสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
สำหรับการจัดพิธีมอบรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 20 นั้นดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยจัดในรูปแบบ 4 ภาคเพื่อลดจำนวนผู้ร่วมงานในแต่ละเวที มีเงินรางวัลรวมทั้งสิ้นกว่าสี่ล้านบาท โล่รางวัลพร้อมใบประกาศนีย บัตร และทำการถ่ายทอดสดผ่านเฟศบุควารสารลูกโลกสีเขียว ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาสนับสนุนงานด้านสิ่งแวดล้อมตามแนวทางการจัดงานที่ว่า “พลังเปลี่ยนโลก : สร้างวิถีใหม่ให้เราอยู่รอด”
สรุปรายชื่อผลงานรางวัลลูกโลกสีเขียว ครั้งที่ 20 รวมจำนวน 42 ผลงาน ใน 7 ประเภทผลงาน ดังนี้
1. ประเภทชุมชน จำนวน 8 ผลงาน ประกอบด้วย
1. ชุมชนบ้านภูเขาแก้ว อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
2. ชุมชนบ้านหัวทุ่ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
3. ชุมชนบ้านท่าต้นธง อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย
4. ชุมชนโคกห้วยวังแสงและโคกหนองกุง อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น
5. ชุมชนตำบลกุดเสลา (ป่าชุมชนโคกทำเล) อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ
6. ชุมชนบ้านห้วยยาง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี
7. ชุมชนตำบลหนองบัวสะอาด อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
8. ชุมชนบ้านหลางตาง อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
2. ประเภทบุคคล จำนวน 8 ผลงาน ประกอบด้วย
1. ดวงแก้ว สมพงษ์ อำเภอบ้านธิ จังหวัดลำพูน
2. เดชา จือเหลียง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
3. อุดม ทาส่วย อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น
4. หลวงตาปพนพัชร์ จิรธัมโม อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
5. สนิท ทิพย์นางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์
6. อุทัย บางเหลือ อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ
7. สุวัฒน์ ดาวเรือง อำเภอเวียงสระ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
8. เลื่อน มีแสง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา
3. ประเภทกลุ่มเยาวชน จำนวน 4 ผลงาน ประกอบด้วย
1. กลุ่มเยาวชนรักษาความสะอาดสู่ชุมชนไร้ถังขยะโรงเรียนอนุบาลทับสะแก อำเภอทับสะแก
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2. โรงเรียนชุมชนบ้านหายโศก (กลุ่มเยาวชนต้นกล้าภูมิรักษ์) อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์
3. กลุ่มเยาวชนยิ้มแฉ่งให้ด้วยใจ อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
4. โรงเรียนบ้านป่าทุ่ง อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี
4. ประเภท “สิปปนนท์ เกตุทัต” รางวัลแห่งความยั่งยืน จำนวน 7 ผลงาน ประกอบด้วย
1. ชุมชนบ้านขอใต้ – ขอเหนือ อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง
2. ชุมชนบ้านเหล่าเหนือ อำเภอสอง จังหวัดแพร่
3. ชุมชนตำบลจอมศรี อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี
4. กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมป่าชุมชน ริมฝั่งลำน้ำชี อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์
5. ชุมชนตำบลสงเปือย (ป่าชุมชนดงต่อ) อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร
6. ชุมชนตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร
7. ชุมชนบ้านถ้ำตลอด อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
5. ประเภทงานเขียน จำนวน 4 ผลงาน ประกอบด้วย
รางวัลดีเด่น –
รางวัลชมเชย จำนวน 4 ผลงาน ได้แก่
1. ทุ่งหยีเพ็ง บ้านอุ่น ป่าเย็น โดย นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนรุ่งอรุณ
2. คืนเหง้าเหล่ากอ โดย วัฒนา ธรรมกูร
3. ป่า ดอย บ้านของเรา โดย วิรตี ทะพิงค์แก
4. มหัศจรรย์แห่งคราม โดย ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
6. ประเภทความเรียงเยาวชน จำนวน 9 ผลงาน ประกอบด้วย
· เยาวชนอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 4 ผลงาน
รางวัลดีเด่น จำนวน 2 ผลงาน ได้แก่
1. ความทรงจำที่หาซื้อไม่ได้ โดย รัตนาภรณ์ พันธ์พิริยะ
2. ตุ้มกุ้ง ฮักบ้านเกิด โดย เทวา สามารถ
รางวัลชมเชย จำนวน 2 ผลงาน ได้แก่
1. เสน่ห์ของธรรมชาติ โดย สุพรรษา แสงใหญ่
2. จากแสนแสบสู่ป่าเขียว โดย อิทธิพัทธ์ กิตติศรีไสว
· เยาวชนอายุระหว่าง 16-25 ปี จำนวน 5 ผลงาน
รางวัลดีเด่น จำนวน 2 ผลงาน ได้แก่
1. แม่น้ำบางปะกง มหานทีแห่งชีวิต โดย กิตติ อัมพรมหา
2. บึงบัวบานและความสำราญของเด็กๆ โดย ภัทรพล เชียงเจริญ
รางวัลชมเชย จำนวน 3 ผลงาน ได้แก่
1. สวนไผ่ของป้า โดย สุดารัตน์ แสงสว่าง
2. เพียงในความทรงจำ โดย วิชัย เชอหมื่นกู่
3. บ้านเล็กบนทางช้างผ่าน โดย วารี คมขำ
7. ประเภทสื่อมวลชน จำนวน 2 ผลงาน ประกอบด้วย
1. Green Innovation & SD
2. Facebook : ลุงซาเล้งกับขยะที่หายไป
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
คำค้นหา