ธุรกิจ
Toyota เปิดศูนย์การเรียนรู้ ธุรกิจชุมชนพัฒน์

บริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่ายหมอนเพื่อสุขภาพที่ผลิตจากยางพาราธรรมชาติ 100 % บริหารงานโดย คุณัญญา แก้วหนู ด้วยแนวทางมุ่งเน้นการนำน้ำยางพารามาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าแก่น้ำยางพาราของไทย ตลอดจนเป็นการสร้างอาชีพให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่น โดยธุรกิจฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมการไคเซนภายใต้โครงการโตโยตา ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ในปี พศ. 2560 ภายใต้ความร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้าสงขลา ผู้จำหน่ายโตโยต้า จำกัด โดย Toyota ได้ส่งเจ้าหน้าที่ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านระบบการผลิตแบบ Toyota และหลักการไคเซน (การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง) เข้าไปช่วยเหลือธุรกิจชุมชนในลักษณะของการเป็น “พี่เลี้ยงทางธุรกิจ” โดยร่วมศึกษาถึงสาเหตุของปัญหา พร้อมนำองค์ความรู้ของ Toyota เข้าไปถ่ายทอด และประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบท และความพร้อมของธุรกิจ เพื่อช่วยแก้ปัญหา และให้ธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างมืออาชีพ สร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม สร้างการจ้างงานในท้องถิ่น และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
บริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด ได้นำองค์ความรู้ในการดำเนินธุรกิจของ Toyota เข้าปรับปรุงการดำเนินงานของธุรกิจตนเอง ดังนี้ เพิ่มความสามารถในการผลิต โดยการปรับลดเวลาการผลิต/รอบ (Cycle Time) ปรับ ปรุงมาตรฐานในกระบวนการตากหมอน อันเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานที่สุด โดยเปลี่ยนวิธีการทำงานจากเดิมที่ปล่อยให้ผลิตภัณฑ์แห้งเองตามธรรมชาติ เป็นการออกแบบห้องตาก ชั้นวางหมอน และรูปแบบการจัดวาง พร้อมติดตั้งระบบถ่ายเทอากาศเพื่อให้อากาศหมุนเวียนได้ดี ช่วยลดเวลาการตากหมอนลง จาก 21 วัน/รอบ เหลือเพียง 5 วัน/รอบ หรือเร็วขึ้น 76 % ส่งผลให้ความสามารถในการผลิตเพิ่มจาก 700 ใบ/เดือน เป็นกว่า 1,300 ใบ/เดือน เพิ่มรายได้/เดือนจาก 400,000 เป็นกว่า 750,000 บาท สามารถบริหารต้นทุนในกระบวนการ (Work in Process) อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงมีการแนะนำให้ธุรกิจใช้ “ระบบการมองเห็น” (Visua lization Board) ควบคุมกระบวนการทำงาน เพื่อให้สามารถติดตามสถานะการผลิต และการส่งมอบได้อย่างแม่นยำ
การบริหารต้นทุนวัตถุดิบ และการลดของเสียในกระบวนการ สร้างมาตรฐานการใช้วัตถุดิบ โดยก่อนการปรับปรุง ธุรกิจตรวจพบน้ำยางล้นออกนอกแม่พิมพ์ จึงปรับมาตรฐาน และปริมาณในการฉีดน้ำยางลงแม่พิมพ์ ช่วยลดปริมาณการสูญเสียวัตถุดิบ ทำให้สามารถลดต้นทุนจากการสูญเสียลง 10 บาท/การผลิตหมอน 1 ใบ (ประมาณ 12,000 บาท/เดือน) โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์
การปรับปรุงการจัดการสินค้าคงคลัง ถ่ายทอดระบบ “การจัดการสินค้าคงคลังแบบ Toyota” โดยสอนให้ธุรกิจตรวจสอบมูลค่าสินค้าคงคลัง จัดแยกประเภทสินค้าตามการเคลื่อนไหว อายุสินค้า เพื่อหาแนวทางการจัดการสินค้าคงคลังอย่างเหมาะสม ช่วยลดต้นทุนในการจัดเก็บสินค้าคงคลังจาก 370,000 เหลือ 230,000 บาท หรือคิดเป็น 38 % ตลอดจนมีการออกแบบแผนผังการจัดวางสินค้า ระบบสตอคคาร์ด และระบบ FIFO (First in-First out) เพื่อให้ธุรกิจสามารถบริหารคลังสินค้าได้อย่างมืออาชีพต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ส่งมอบโครงการแก่ บริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด ภายหลังการปรับปรุงเสร็จสิ้นเมื่อ พศ. 2561 และได้ติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง พบว่าบริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด ยังคงรักษาประ สิทธิภาพของการดำเนินงาน สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับปรุงต่อยอดธุรกิจได้ด้วยตนเองตามหลักวิถี Toyota อย่างต่อเนื่อง ขยายผลการสร้างมาตรฐานการดำเนินงานจนสามารถลดต้นทุน และพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงบริหารงานได้ด้วยตนเองอย่างมืออาชีพ สามารถส่งมอบงานได้ตรงเวลา 100 % ดังนั้น Toyota และบริษัท 42 เนเจอรัลรับเบอร์ จำกัด จึงได้จัดตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้โตโยตา ธุรกิจชุมชนพัฒน์ แห่งที่ 4” เพื่อถ่าย ทอดองค์ความรู้ และประสบการณ์ในการปรับปรุงธุรกิจแก่วิสาหกิจชุมชนในภาคใต้ต่อไป
ปัจจุบัน โครงการโตโยตา ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ดำเนินการปรับปรุงธุรกิจชุมชนแล้วเสร็จจำนวน 23 แห่ง และได้ยกระดับสู่การเป็น “ศูนย์การเรียนรู้โตโยตา ธุรกิจชุมชนพัฒน์” จำนวน 4 แห่ง ซึ่งในปี 2565 นี้ บริษัทฯ วางแผนที่จะเปิดศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อให้ครบทั้ง 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานภายใต้พันธกิจใหม่ของบริษัทฯ ในโอกาสการดำเนินงานในประเทศไทยครบรอบ 60 ปี เพื่อขับเคลื่อนความสุขสู่ผู้คน และส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนของสังคมภายใต้ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” โดยโครงการโตโยตา ธุรกิจชุมชนพัฒน์ เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการถ่ายทอดแนวความรู้ในการปรับปรุงธุรกิจ ส่งเสริมให้เกิดสังคมแห่งการแบ่งปันความรู้ ตลอดจนเฟ้นหานวัตกรรมทางความคิดใหม่ๆ มาปรับใช้กับโครงการฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กลุ่มธุรกิจชุมชน นำไปต่อยอดในการขับเคลื่อน และสร้างเสถียรภาพแก่เศรษฐกิจของประเทศต่อไป 

