ระเบียงรถใหม่
Nissan Versa (Almera) 2023 ไมเนอร์เชนจ์

Nissan Almera เปิดตัวครั้งแรกในปี 1995 เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก (C-segment) ตั้งแต่ Almera เจเนอเรชันที่ 3 (N17) ในปี 2000 ถูกปรับตำแหน่งเป็น Subcompact หรือรถเก๋ง B-Segment วางตลาดทั่วโลกโดยใช้ชื่อที่แตกต่างกัน
Nissan Versa (Almera) เจเนอเรชันที่ 4 เปิดตัวในปี 2019 ในเวลานี้ก็ถึงเวลาที่จะนำมาตกแต่งเพิ่มความสดใหม่ เพื่อการแข่งขันในตลาดที่ดุเดือดขึ้นทุกวัน รวมทั้งในประเทศไทย
Nissan Versa 2023 มีการปรับดีไซจ์นภายนอกใหม่ มาพร้อมกระจังหน้าที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์แบบ V-motion โดยมีการออกแบบที่กว้าง และมีความสูงเพิ่มขึ้นเป็นซี่แนวนอนสีดำ ปลายซี่ชุบโครเมียมเป็นกรอบรูปตัววี ที่ไม่ต่อเนื่องเหมือนเดิม
กันชนหน้าสไตล์สปอร์ท รับกับกระจังหน้าที่มาพร้อมโลโก Nissan แบบใหม่ และสี Grey Sky Pearl ใหม่ รวมถึงฝาครอบกระจกมองข้างด้วยสีดำ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร Nissan Versa จะต่างกันตามรุ่นย่อยต่างๆ เน้นการตกแต่งภายในแบบสปอร์ท เพิ่มสีภายในใหม่ Chambray เบาะหลัง ที่สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40
ชุดหน้าจออินโฟเทนเมนท์ 8 นิ้ว ในรุ่นทอพ SR รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึงเพิ่มชุด Wireless Charge บริเวณคอนโซลกลาง พร้อมระบบ NissanConnect Services ที่สามารถควบคุมการทำงานของตัวรถผ่านสมาร์ทโฟนได้
ขุมพลังยังคงใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร แบบเดิม ที่ให้พละกำลัง 122 แรงม้า และแรงบิด 154 นิวตัน-เมตร ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT
มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และความปลอดภัย ตั้งแต่ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Intelligent Cruise Control,
การเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมการตรวจจับคนเดินถนน, ระบบไฟสูงปรับเปลี่ยนอัตโนมัติ, ระบบเบรคอัตโนมัติด้านหลัง และการเตือนการออกจากเลน
Nissan กล่าวว่า จะเปิดเผยราคาใกล้กับวันที่เปิดจำหน่ายรถยนต์ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ในวันที่ 21 ธันวาคม 2565 โดยรุ่นเดิมของ Versa S เริ่มต้นที่ 20,085 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 7.6 แสนบาท โดยคาดว่ารุ่นใหม่อาจจะมีการปรับราคาขึ้นเล็กน้อย สำหรับในเมืองไทยอีกไม่นานก็คงมีการ Minorchange ตามมา แต่จะมีหน้าตาเหมือนในเวอร์ชันขายในทวีปอเมริกาเหนือหรือไม่ คงต้องรอลุ้นกัน 

