ธุรกิจ
ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์
เปิดฉากอลังการ Motor Expo 2025
เริ่มแล้ว “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” ชมรถยนต์รุ่นล่าสุด 42 แบรนด์ จักรยานยนต์ 16 แบรนด์ รับโปรโมชันเร้าใจ ตั้งแต่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568
ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” เปิดเผยว่า ปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “อลังการงานแสดง-The Magnificent Motor Expo” จัดแสดงรถยนต์ 42 แบรนด์ รถจักรยานยนต์ 16 แบรนด์ โดยคาดว่างานนี้จะสร้างยอดขายกระตุ้นตลาด และอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้เป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือทุกฝ่ายให้คำนึงถึงความเหมาะสมในการจัดกิจกรรม และการแต่งกายของพริทที เพื่อให้ภาพรวมของงานมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ไฮไลท์ของงาน ได้แก่ GAC Govy Aircab รถบินได้ พลังไฟฟ้า 100 % หรือที่เรียกว่า eVTOL พัฒนาโดย eVTOL ของ GAC Group เป็นแบบ 2 ที่นั่ง ติดตั้งใบพัด 6 แกน 12 ใบ บนหลังคา ประตูแบบปีกนก ระยะทางบิน 20-30 กม. ความเร็วสูงสุด (ขณะบิน) 120 กม./ชม. ชาร์จเร็วเต็มได้ใน 25 นาที พแลทฟอร์มขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ L4 มีเครือข่ายดิจิทอลไร้คนขับ 3 มิติ ช่วยสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของการปฏิบัติการแบบไดนามิคได้อย่างเต็มที่
Chery QQ3 EV เป็นรุ่นใหม่ที่ใหญ่ และทันสมัยกว่า QQ Ice Cream มาก เปิดตัวครั้งแรกในงาน 2025 Chengdu Auto Show สร้างบนพแลทฟอร์ม T12 ของ Chery มีความยาวกว่า 4,200 มม. และฐานล้อกว้างกว่า 2,700 มม. ภายในหรูหราเทคโนโลยีสูง จอแสดงผลดิจิทอล และจอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว ใช้ชิพ Qualcomm Snapdragon 8155 มอเตอร์ไฟฟ้าหลัง ให้กำลัง 90 กิโลวัตต์/121 แรงม้า
Honda Step WGN e:HEV รุ่น Spada ใหม่ เอมพีวี 7 ที่นั่ง ประตูสไลด์ มิติตัวรถ 4,830 มม. กว้าง 1,750 มม. สูง 1,845 มม. ฐานล้อ 2,890 มม. ขับเคลื่อนระบบฟูลล์ไฮบริด e:HEV เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 184 แรงม้า มอเตอร์แรงบิด 315 นิวทันเมตร อัตราสิ้นเปลือง 19.5-20 กม./ลิตร
Hyundai XRT Concept รถยนต์แนวคิดที่เน้นการลุยทางวิบาก โดยใช้พื้นฐานจาก Hyundai Santa Fe มาออกแบบรูปทรงเหลี่ยมใหม่ บึกบึน เน้นการใช้งานจริงนอกถนน ยางแบบ All-Terrain ดอกยางใหญ่ ช่วงล่างยกสูง
Omoda 4 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีรุ่นล่าสุดจาก Chery ส่งออกในนาม Omoda รุ่นนี้เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี้ เป็นเอสยูวีที่มีขนาดเล็กที่สุด ในตระกูล Omoda โดยวางตำแหน่งไว้ต่ำกว่า Omoda 5 เดิมทีเคยใช้ชื่อว่า Omoda 3 แต่ได้เปลี่ยนมาเป็น Omoda 4
Wuling Starlight เอมพีวีไฟฟ้าประตูสไลด์ 7 ที่นั่ง เผยโฉมเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ระยะวิ่งไกลถึง 540 กม. ที่นั่งเรียงแถวแบบ Captain Seat เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัวขนาดกลาง ที่มีเด็ก และผู้สูงวัย รวมถึงตลาดรถลีมูซีน VIP Taxi และกลุ่ม Ride Hailing ที่ต้องการรถหรูหราที่กว้างขวาง และสะดวกสบาย
Zeekr Mix จากบริษัทแม่ Geely มิติตัวถังยาว 4,688 มม. กว้าง 1,995 มม. สูง 1,755 มม. ฐานล้อ 3,008 มม. ออกแบบไร้เสากลาง เมื่อเปิดประตู เบาะนั่งคู่หน้าหมุนได้ 270 องศา แบทเตอรีพัฒนาร่วมกับ CATL มีความจุกระแสไฟ 86 กิโลวัตต์ชั่วโมง เหมือนกับ 001 ขนาด 800 โวลท์ รับกระแสชาร์จได้ถึง 360 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางสูงสุด 702 กม. (CLTC)
นอกจากนี้ ยังมีรถยนต์เปิดตัวครั้งแรกในโลก ได้แก่ Toyota Hilux Travo
เปิดตัวครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ Avatr 07, BYD Ti7, Denza B5, Geely EX2, Lexus LX 500D
เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ BMW iX LCI, DFSK E5 Plus, GWM Wey G9Hi4, Maxus eDeliver 5, MG IM5, Nex Cargo Vantastic, Nissan X-Trail e-Power e-4ORCE และ Volvo XC60
สำหรับผู้ชมงาน มีสิทธิ์ลุ้นรับฟรีรถยนต์ 3 คัน และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ในรายการ ซื้อรถ...ชิง Avatr 11 รุ่น Standard Range/ซื้อบัตร...ชิง Mitsubishi Xforce รุ่น Ultimate/ซื้อมอเตอร์ไซค์...ชิง Suzuki รุ่น GSX-8R/ชมงานผ่าน Motor Expo App ชิง Wuling Binguo รุ่น DC Icon
ยิ่งกว่านั้น สามารถชมงานผ่าน Motor Expo Application อัดแน่นข้อมูลของงาน ทั้งรีวิวรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จาก Influencer ชื่อดัง พร้อมฟีเจอร์ให้ใช้งานหลากหลาย อาทิ ข้อมูลเปรียบเทียบคัน/คัน โปรโมชัน แคมเปญพิเศษ ช่วยในการเลือกซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ดาวน์โหลดบโรชัวร์ จำหน่ายบัตรชมงานทั่วไป และบัตรชมงานแบบวีไอพี Motor Expo Exclusive Visitor ฯลฯ
การเดินทางไปชมงานมีบริการ รถรับ-ส่ง ฟรี ! 2 เส้นทาง ดังนี้
1. หมอชิต-IMPACT-หมอชิต BTS สถานีหมอชิต Exit 2, MRT สถานีจตุจักร Exit 4
2. รังสิต-IMPACT-รังสิต บริเวณด้านหน้า Big C
ส่วนผู้ต้องการมาเที่ยวงาน Motor Expo 2025 แบบไม่ต้องวนหาที่จอดในอาคารเรามีบริการ Shuttle Bus รับ-ส่งระยะใกล้ จากลานจอดรถริมทะเลสาบ-ชาลเลนเจอร์ 3
งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” จัดขึ้น ณ อาคารชาลเลนเจอร์ IMPACT เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568 ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทุกสื่อในเครือ “IMC สื่อสากล”
.....................................................................................................................
จัดเต็มสุดอลังการ ! รถเด่น รถใหม่ งานแสดงที่คุณต้องมา Motor Expo 2025
Avatr 07
พรีเมียมเอสยูวีไฟฟ้า มีให้เลือกทั้งมอเตอร์เดี่ยว และมอเตอร์คู่ แบทเตอรีพัฒนาร่วมกับ CATL ขนาด 82.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 338-590 แรงม้า วิ่งไกล 575-545 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC)
Avatr 07 เปิดราคาอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2025
- Avatr 07 รุ่น Max ราคา 1,659,00 บาท
- Avatr 07 รุ่น Ultra AWD ราคา 1,859,000 บาท
BYD Ti7
เอสยูวีพลัก-อิน ไฮบริด DMS เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แบทเตอรี LFP 35.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 483 แรงม้า
นอกจากนี้ BYD ปล่อยราคาดีลพิเศษในงาน Motor Expo 2025 พร้อมนำรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ที่ไม่เคยจัดแสดงที่ไหน เช่น Denza B5, BYD Ti7 และ Denza D9 Phantom Edition มาเปิดตัวที่งาน Motor Expo
Chery Tiggo8 CSH PHEV
เอสยูวีสไตล์ครอบครัว 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 358 แรงม้า ให้กำลังรวมทั้งระบบสูงสุด 501 แรงม้า มาพร้อมระบบพลัก-อิน ไฮบริด CSH ระยะทางการขับสูงสุด 1,200 กม.
Geely EX2
แฮทช์แบคไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์เดี่ยว แบทเตอรี 40.16 กิโลวัตต์ชั่วโมง กำลัง 115 แรงม้า แรงบิด 150 นิวทันเมตร วิ่งไกล 396 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC)
เปิดราคาอย่างเป็นทางการ พร้อมราคาพิเศษ 2,000 คันแรก !
- Geely EX2 Pro ราคาพิเศษ 399,990 บาท (ราคาเดิม 429,990 บาท)
- Geely EX2 Max ราคาพิเศษ 429,990 บาท (ราคาเดิม 459,990 บาท)
GWM Wey G9
เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับรถตู้เอมพีวีสุดหรู แบบพลัก-อิน ไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 เทอร์โบ พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า แบทเตอรีความจุ 44.28 กิโลวัตต์ชั่วโมง พละกำลังรวม 442 แรงม้า พร้อม HI4 เทคโนโลยีไฮบริดขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ
- GWM Wey G9 ราคา 2,349,000 บาท
Honda Step WGN e:HEV
เอมพีวีไฮบริด เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 145 แรงม้า ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว แบทเตอรี Lithium-ion ขนาด 7.2 กิโลวัตต์ พร้อมจัดเต็มทุกออพชันที่ทันสมัย และรูปโฉมสะท้อนเอกลักษณ์ที่เป็นตัวตนของ Honda
- เปิดราคาประมาณการณ์ ที่ 1,7xx,xxx บาท
Jaecoo 6T EV
รถยนต์ไฟฟ้าที่เสริมมาดบึกบึนรอบคัน ไม่ว่าจะเป็นส่วนกันชนหน้า-หลัง ตัวถังบริเวณซุ้มล้อด้านหน้า ถูกเสริมสันเหลี่ยมดุดัน กับคุณสมบัติการเป็นตัวลุยที่มาพร้อมโหมดการขับขี่อันหลากหลาย
Mazda6e
ซีดานไฟฟ้า สไตล์สปอร์ท ภายในเรียบหรู มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว พละกำลังสูงสุด 258 แรงม้า แบทเตอรีลิเธียม-ไอออนขนาดความจุ 68.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จเต็มวิ่งไกลสุด 530 กม. (NEDC)
MG IM5
ซีดานพรีเมียมไฟฟ้าเปิดตัวพวงมาลัยขวาครั้งแรกในเอเชีย ขุมพลังไฟฟ้านวัตกรรม 800V มาพร้อมมอเตอร์คู่ ให้กำลัง 787 แรงม้า แบทเตอรีขนาด 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งไกลสุด 500-755 กม. (NEDC)
Nissan X-Trail e-Power
เอสยูวีขนาดกลางสไตล์ครอบครัว มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 143 แรงม้า ปั่นพลังงานไฟฟ้าแบบ e-Power พร้อมระบบ e-4ORCE ขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะ
เปิดราคาอย่างเป็นทางการในงาน Motor Expo 2025
- The All-New Nissan X-Trail e-POWER e-4ORCE ราคา 1,699,00 บาท
- Ready For Delivery สำหรับเจ้าของรถยนต์ Nissan รับส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท และพิเศษเจ้าของ X-Trail รับเพิ่ม Save Safe Platinum Package
Porsche 911 Spirit 70
เวอร์ชันพิเศษ ตกแต่งด้วยแรงบันดาลใจจาก Porsche ในอดีตยุค 70-80 พร้อมกับตัวถังสีเขียวเข้ม Olive Neo ซึ่งเป็นสีพิเศษ และจำนวนจำกัด 1,500 คันทั่วโลก กับขุมพลัง GTS สะท้อนถึงความหรูหรา และเอกลักษณ์ของรถสปอร์ทในยุคนั้น
Suzuki Fronx
ครอสส์โอเวอร์ทรงเหลี่ยมขนาดเล็กสุดน่ารัก เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Smart Hybrid Vehicle พร้อมเทคโนโลยี Heartech
Toyota Hilux Travo-e
กระบะไฟฟ้า 100 % จาก Toyota มาพร้อม Dual Motor มอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive ให้กำลังรวมสูงสุด 196 แรงม้า ชาร์จไฟฟ้า 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทาง 315 กม.
Volvo ES90
ซีดานไฟฟ้าสไตล์ฟาสต์แบค แบทเตอรี 800V ขนาด 92 กิโลวัตต์ชั่วโมง มอเตอร์เดี่ยว กำลังรวม 428 แรงม้า วิ่งไกลสูงสุด 755 กม. (มาตรฐาน NEDC)
Wuling Starlight EV MPV
รถตู้เอมพีวีประตูสไลด์ 7 ที่นั่ง มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า วิ่งได้ไกลสุด 540 กม. ภายในโดดเด่นด้วยเบาะแถวกลางแบบ Captain Seat
Zeekr Mix
มีนีแวนไฟฟ้าสุดล้ำสมัย ที่เรียกได้ว่าเป็นรถครอบครัวแห่งอนาคต มาพร้อมรูปลักษณ์ทรงแคพซูล และประตูเปิดอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะ ภายในหรูหรา สะดวกสบาย หรือแทบจะเป็นห้องประชุมเคลื่อนที่ได้เลย
GAC Govy Aircab รถบินได้ พลังไฟฟ้า 100 % หรือที่เรียกว่า eVTOL พัฒนาโดย eVTOL ของ GAC Group เป็นแบบ 2 ที่นั่ง ติดตั้งใบพัด 6 แกน 12 ใบ บนหลังคา ประตูแบบปีกนก ระยะทางบิน 20-30 กม.
.....................................................................................................................
7 มอเตอร์ไซค์ โคตรเท่ ! ในงาน Motor Expo 2025
BMW R1300 RT
เริ่มต้นกันที่สปอร์ททัวริงสุดเท่จากค่าย BMW Motorrad ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ทางไกลในสไตล์ทัวริงพันธุ์แท้ พร้อมสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึงความสบายในการขับขี่ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์บอกเซอร์ 1,300 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้า
Honda Goldwing 50th Anniversary Edition
โมเดลใหม่ส่งท้ายปี ในงาน Motor Expo 2025 กับ Honda Goldwing 50th Anniversary Edition ฉลองครึ่งศตวรรษของตำนานทัวริง โดดเด่นด้วยตรา 50th Anniversary สีทองบริเวณคอนโซล และกุญแจ Smart Key พร้อมอุปกรณ์เฉลิมฉลองครบชุด เปิดตัวราคา 1,395,000 บาท
Zontes 703F
เผยโฉมคันจริง ที่เเม้จะมาแค่โชว์ตัวในงาน Motor Expo 2025 เเต่ต้องบอกว่าตัวจริงโคตรดุ โคตรเท่ เป็นแอดเวนเจอร์ไบค์พิกัด 700 ซีซี ที่ลงตัวเป็นที่สุด เรียกได้ว่าจะลุยทางฝุ่น จะเดินทางไกล แบบไหนก็ไม่หวั่น
Ducati Xdiavel V4
Ducati Thailand กับการกลับมาครั้งสำคัญที่ยกระดับมาตรฐานของแบรนด์ให้พรีเมียมสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม โดยเจ้า XDiavel V4 มาพร้อมดีไซจ์นเฉียบคม ดุดัน เเบบเท่ๆ เข้ากับเทคโนโลยีชั้นนำอย่างสมบูรณ์แบบ ให้พละกำลังสูงสุด 168 แรงม้า
Yamaha Tenere 700
มอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์สุดเท่ ที่ตอบโจทย์สายลุยตัวจริง ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่งแรลลี สนุกกับการขับขี่ทั้งทางเรียบ และทางวิบาก มาพร้อมกับราคาเปิดตัวสุดพิเศษที่ 459,000 บาท พร้อมโปรโมชัน ฟรี ! ประกันภัยชั้น 1 ในงาน Motor Expo 2025
Triumph Bonneville Speedmaster
ให้ความคล่องตัว และมั่นใจบนถนนที่ท้าทาย กับสไตล์สุดเท่แบบคลาสสิค พร้อมสมรรถนะสุดเร้าใจ เครื่องยนต์สูบคู่แรงบิดสูงขนาด 1,200 ซีซี
Harley-Davidson Road Glide
ปิดท้ายที่พี่ใหญ่ Road Glide ปี 2025 รถ Grand American Touring อันเป็นเอกลักษณ์ของ Harley-Davidson ผสานเข้ากับสมรรถนะอันเหนือชั้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 พร้อมด้วยดีไซจ์นแฟริงหน้าแบบ Sharknose อันเป็นเอกลักษณ์สุดเท่ และระบบไฟ LED รอบคัน เหมาะสำหรับนักขับขี่ที่ต้องการเดินทางไกลอย่างเเท้จริง
Motor Expo 2025 จัดที่ไหน เริ่มวันไหน เดินทางยังไง !?
มาพบกับรถจักรยานยนต์ใหม่ล่าสุด และรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” Thailand International Motor Expo 2025 ตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568 ณ IMPACT ชาลเลนเจอร์ เมืองทองธานี
.....................................................................................................................
Toyota ประกาศ ยอดขายเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 24.8 %
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2568 ยอดขายตลาดรวม 47,032 คัน เพิ่มขึ้น 24.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 19,291 คัน เพิ่มขึ้น 24.0 % ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 27,741 คัน เพิ่มขึ้น 27.8 % และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 13,572 คัน เพิ่มขึ้น 1.7 %
ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่า ตลาดรถยนต์เดือนตุลาคม 2568 มียอดขาย 47,032 คัน เพิ่มขึ้นถึง 24.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แสดงถึงสัญญาณเชิงบวกของตลาดรถยนต์
ตลาดรถยนต์นั่ง มียอดขาย 19,291 คัน เพิ่มขึ้น 24.0 % จากปีที่ผ่านมา ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขายที่ 27,741 คัน เพิ่มขึ้น 27.8 % และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 13,572 คัน เพิ่มขึ้น 1.7 %
ยอดขายรถยนต์สะสม 10 เดือนแรก มียอดขาย 495,001 คัน เติบโต 3.9 % เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันโดย 40 % เป็นตลาดรถยนต์นั่ง ตลาดส่วนใหญ่กว่า 60 % ยังคงเป็นตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ แสดงให้เห็นว่าตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ยังคงเป็นตลาดสำคัญที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่ง Toyota ได้ตอบรับความต้องการของตลาดด้วยการแนะนำ Toyota Hilux Travo (โตโยตา ไฮลักซ์ ทราโว) ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568
รถยนต์ในกลุ่ม HEV เดือนตุลาคมมียอดขาย 12,329 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกับในปีที่ผ่านมา 69.0 % และมียอดขายสะสม 10 เดือนแรกถึง 114,701 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 51.4 % ของตลาด XEV ทั้งหมด สำหรับ Toyota ยังคงครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสม 10 เดือนแรกถึง 186,148 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 37.6 % เติบโต 2.1 % นำโดย Yaris ATIV 45,902 คัน และ Hilux Revo 50,402 คัน
ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภครอแคมเปญใหญ่ปลายปีในงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42" ที่จะเริ่มขึ้นในปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้การตัดสินใจซื้อชะลอตัว ขณะเดียวกัน อัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันความเชื่อมั่นและกำลังซื้อ อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์ยังมีปัจจัยบวก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดรถยนต์ในช่วงปลายปีจากมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. ที่มีการขยายการค้ำประกันสินเชื่อไปยังผู้ให้บริการสินเชื่อประเภท Non-Bank รวมทั้งลีซิงของค่ายรถยนต์ (Captive Finance) ช่วยให้ SMEs รายย่อยสามารถเข้าถึงบริการสินเชื้อได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2568
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 47,032 คัน เพิ่มขึ้น 24.8 %
อันดับที่ 1 Toyota 18,348 คัน เพิ่มขึ้น 21.0 % ส่วนแบ่งตลาด 39.0 %
อันดับที่ 2 Honda 5,677 คัน เพิ่มขึ้น 37.2 % ส่วนแบ่งตลาด 12.1 %
อันดับที่ 3 Isuzu 5,278 คัน ลดลง 13.4 % ส่วนแบ่งตลาด 11.2 %
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,291 คัน เพิ่มขึ้น 24 %
อันดับที่ 1 Toyota 7,133 คัน เพิ่มขึ้น 36.9 % ส่วนแบ่งตลาด 37.0 %
อันดับที่ 2 Honda 3,552 คัน เพิ่มขึ้น 5.7 % ส่วนแบ่งตลาด 18.4 %
อันดับที่ 3 MG 1,624 คัน เพิ่มขึ้น 115.4 % ส่วนแบ่งตลาด 8.4 %
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 27,741 คัน เพิ่มขึ้น 27.8 %
อันดับที่ 1 Toyota 11,215 คัน เพิ่มขึ้น 12.7 % ส่วนแบ่งตลาด 40.4 %
อันดับที่ 2 Isuzu 5,278 คัน ลดลง 13.4 % ส่วนแบ่งตลาด 19.0 %
อันดับที่ 3 Honda 2,125 คัน เพิ่มขึ้น 173.1 % ส่วนแบ่งตลาด 7.7 %
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 13,572 คัน เพิ่มขึ้น 1.7 %
อันดับที่ 1 Toyota 6,246 คัน เพิ่มขึ้น 7.9 % ส่วนแบ่งตลาด 46 %
อันดับที่ 2 Isuzu 4,371 คัน ลดลง 16 % ส่วนแบ่งตลาด 32.2 %
อันดับที่ 3 Ford 1,430 คัน เพิ่มขึ้น 8.7 % ส่วนแบ่งตลาด 10.5 %
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,450 คัน
Toyota 1,385 คัน-GWM 766 คัน-Isuzu 663 คัน-Ford 556 คัน-Mitsubishi 80 คัน-Nissan 0 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 10,122 คัน ลดลง 7.1 %
อันดับที่ 1 Toyota 4,861 คัน ลดลง 3.5 % ส่วนแบ่งตลาด 48.0 %
อันดับที่ 2 Isuzu 3,708 คัน ลดลง 11.7 % ส่วนแบ่งตลาด 36.6 %
อันดับที่ 3 Ford 874 คัน เพิ่มขึ้น 8.3 % ส่วนแบ่งตลาด 8.6 %
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม-ตุลาคม 2568
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 495,001 คัน เพิ่มขึ้น 3.9 %
อันดับที่ 1 Toyota 186,148 คัน เพิ่มขึ้น 2.1 % ส่วนแบ่งตลาด 37.6 %
อันดับที่ 2 Isuzu 58,781 คัน ลดลง 17.6 % ส่วนแบ่งตลาด 11.9 %
อันดับที่ 3 Honda 56,686 คัน ลดลง 9.2 % ส่วนแบ่งตลาด 11.5 %
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 193,395 คัน เพิ่มขึ้น 4.3 %
อันดับที่ 1 Toyota 65,912 คัน เพิ่มขึ้น 22.0 % ส่วนแบ่งตลาด 34.1 %
อันดับที่ 2 Honda 32,210 คัน ลดลง 13.7 % ส่วนแบ่งตลาด 16.7 %
อันดับที่ 3 BYD** 15,864 คัน ลดลง 2.3 % ส่วนแบ่งตลาด 8.2 %
**อ้างอิงจากยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ระหว่างวันที่ 01-31 ตุลาคม 2568 จากเวบไซท์กรมการขนส่งทางบก
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 301,606 คัน เพิ่มขึ้น 4.2 %
อันดับที่ 1 Toyota 120,236 คัน ลดลง 6.3 % ส่วนแบ่งตลาด 39.9 %
อันดับที่ 2 Isuzu 58,781 คัน ลดลง 17.6 % ส่วนแบ่งตลาด 19.5 %
อันดับที่ 3 Honda 24,476 คัน ลดลง 2.5 % ส่วนแบ่งตลาด 8.1 %
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 152,082 คัน ลดลง 8.9 %
อันดับที่ 1 Toyota 68,670 คัน ลดลง 10.1 % ส่วนแบ่งตลาด 45.2 %
อันดับที่ 2 Isuzu 50,506 คัน ลดลง 18.6 % ส่วนแบ่งตลาด 33.2 %
อันดับที่ 3 Ford 15,235 คัน ลดลง 12.5 % ส่วนแบ่งตลาด 10 %
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 34,810 คัน
Toyota 11,861 คัน-Isuzu 9,205 คัน-GWM 6,228 คัน-Ford 5,892 คัน-Mitsubishi 1,329 คัน-Nissan 295 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 117,272 คัน ลดลง 14.7 %
อันดับที่ 1 Toyota 56,809 คัน ลดลง 14.1 % ส่วนแบ่งตลาด 48.4 %
อันดับที่ 2 Isuzu 41,301 คัน ลดลง 20.3 % ส่วนแบ่งตลาด 35.2 %
อันดับที่ 3 Ford 9,343 คัน ลดลง 13.3 % ส่วนแบ่งตลาด 8.0 %
หมายเหตุ : ข้อมูลที่ปรากฏในรายงานนี้อ้างอิงจากยอดขายรถยนต์ระหว่างวันที่ 1-31 ตุลาคม 2568 โดยได้รับข้อมูลจาก บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด, บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ส คัมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด
.....................................................................................................................
Toyota bZ4x พศ. นี้ ไม่โดดเดี่ยว..
Toyota bZ4X รุ่นใหม่ 2025 นี้ Toyota นำเข้าจากญี่ปุ่นในรูปแบบ CBU
bZ4X รุ่น 2025 นี้ Toyota ไม่ได้เป็นเพียงการปรับโฉมในแบบไมเนอร์เชนจ์ แต่เป็นการยกระดับอีกขั้นจากเมื่อ 3 ปีก่อน ด้วยดีไซจ์นการออกแบบให้ดูสะดุดตา ทันสมัย พละกำลังสูงสุดได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และใช้เวลาในการชาร์จเร็วขึ้น และที่สำคัญ Toyota ได้เพิ่มรุ่นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเข้ามา ซึ่งสามารถทำระยะการขับขี่ได้ถึง 600 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง ภายใต้มาตรฐาน NEDC ซึ่งไกลกว่ารถไฟฟ้าหลายรุ่น และติดตั้งระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบมาตรฐาน Toyota ในทุกรุ่นย่อย
bZ4X 2025 มีให้เลือก 2 รุ่น
รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า FWD 73 กิโลวัตต์ชั่วโมง
รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD 73 กิโลวัตต์ชั่วโมง
bZ4X โฉมใหม่ ใหญ่เท่าเดิม
มิติภายนอก (ยาว/กว้าง/สูง) 4,690/1,860/1,650 มม. ความยาวฐานล้อ 2,850 มม. เท่ากับรุ่นเดิม และขนาดตัวพอๆ กับ Honda CR-V (ฮอนดา ซีอาร์-วี) ที่มีขนาด 4,691/1,866/1,691 มม. โดยมีระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม. ในรุ่น AWD และ 201 ในรุ่น FWD
Toyota bZ4X รุ่นใหม่ 2025 ยังคง Hammerhead Design แต่ปรับให้ดูกว้างขวาง และเส้นสายที่มี Dynamic ไฟ Daytime Running คาดยาวจากซ้ายไปขวา ไฟหน้า LED ย้ายลงมาอยู่ที่มุมกันชน ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัย ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายใหม่ พร้อมยาง 235/50 R20 และซุ้มล้อทำสีดำกึ่งเงา ต่างจากเดิมที่เป็นสีดำด้านในรุ่น 2022
ไฟท้ายแบบ LED มาพร้อมสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ท
หลังคา Panoramic Moonroof แบบชิ้นเดียวเต็มบาน ต่างจากรุ่นเดิมที่เป็นแบบ 2 บานแยก
รุ่น FWD
ดีไซจ์นภายนอก bZ4X FWD
ด้านหน้าดีไซจ์น Hammerhead พร้อม Center Lamp ไฟหน้า Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟท้าย Full LED และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วและซุ้มล้อสีดำเงา
ดีไซจ์นภายใน bZ4X FWD
ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย ด้วยหลักการออกแบบ Open & Relax
บริเวณที่นั่งผู้ขับขี่ออกแบบสไตล์ Cockpit ช่วยลดการละสายตา มอบทัศนวิสัยดีเยี่ยม
หลังคา Panoramic Moonroof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า
ไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ปรับได้ 64 เฉดสี (บริเวณคอนโซลหน้า และบริเวณมือจับประตูด้านใน)
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ
เบาะนั่งคู่หน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่
จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่จอสี ขนาด 7 นิ้ว
หน้าจอสัมผัสขนาด 14 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple Car Play แบบไร้สาย และ Android Auto
ลำโพง 6 ตำแหน่ง
อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger 2 ตำแหน่ง
ประตุท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติด้วยระบบฟ้าไฟฟ้า พร้อม Kick Activated
ระบบปรับอากาศ NanoeTM X และระบบกรองฝุ่น PM2.5 ภายในห้องโดยสาร
สวิทช์ควบคุมเกียร์แบบ Shift-by-Wire
ระบบเบรคมือแบบไฟฟ้า (EPB) พร้อมระบบหน่วงเบรคอัตโนมัติ (ABH)
ช่องปรับอากาศตอนหลัง พร้อมพัดลมจากใต้เบาะ และพนักพิง และเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า Fast Charge USB Type-C (60W) 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
กระจกมองหลังแบบดิจิทอล
ระบบเชื่อมต่อ T-Connect
สายชาร์จแบบพกพา
สวิทช์เกียร์แบบกด N และบิด ซ้าย R ขวา D โดยมีปุ่ม P แยกไว้ต่างหาก
ส่วนฟังค์ชันการใช้งานจะมีแค่เพียง Eco Mode กับเสริมโหมดขับเคลื่อนสำหรับทางลื่น ทางหิมะ Snow ที่ติดมาจากประเทศญี่ปุ่น ไม่มี Sport Mode
bZ4X FWD มอเตอร์เดี่ยว 7.4 วินาที
รุ่น FWD ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า มอเตอร์อิสระ 1 ชุด มอเตอร์หน้า 165 กิโลวัตต์ หรือ 224 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 269 นิวทันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที
แบทเตอรีขนาดความจุ 73.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 600 (573) กม. ในรุ่น FWD/การชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC (WLTP)
ประเภทหัวชาร์จ 2 แบบ และกระแสไฟ 2 ระบบ Type 2 (AC กระแสสลับ) และ CCS2 (DC กระแสตรง)
รองรับการชาร์จแบบ AC กำลังสูงสุด 22 กิโลวัตต์ ระยะเวลาในการชาร์จจาก 10-100 % ใน 3.5 ชม. และรองรับการชาร์จแบบ DC กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ ระยะเวลาในการชาร์จจาก 10-80 % ภายใน 28 นาที
(อ้างอิง Eco Sticker มาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ มีผู้ขับขี่ 1 คน ใช้มาตรฐานการขับแบบ NEDC อุณหภูมิ 20- 30 °C ปิดระบบปรับอากาศ รับรองผลโดยหน่วยงานรัฐบาลประเทศเบลเยียม)
ระบบระบายความร้อนแบทเตอรี โดยใช้ระบบหล่อเย็นร่วมกับระบบปรับอากาศ โดยมีวงจรแยกจากกันกับระบบปรับอากาศภายในห้องโดยสาร
bZ4X FWD สมรรถนะการขับขี่
e-TNGA Platform โครงสร้างที่ออกแบบ มาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ของ Toyota โดยเฉพาะจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวดี คล่องตัวในการขับขี่ ควบคุมได้อย่างมั่นใจ
แบทเตอรีจัดวางภายใต้โครงสร้างที่แข็งแรง ลดความเสี่ยง จากการกระแทกที่แบทเตอรีโดยตรง
ระบบพวงมาลัย และช่วงล่าง bZ4X FWD
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลง และด้านหลังแบบดับเบิลวิชโบนพร้อมเหล็กกันโคลง
แป้นควบคุมแรงหน่วงเบรค (Paddle Shift) เลือกระดับการลดความเร็วได้ 4 ระดับ ช่วยเพิ่มความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการขับขี่
ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (EPS)
ระบบเบรคแบบดิสก์เบรค ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
เพิ่มวัสดุลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร เช่น กระจกคู่หน้าแบบ Acoustic, วัสดุโฟมที่โครงตัวถัง, ท่อเก็บเสียงซุ้มล้อในห้องโดยสาร, เพิ่มประสิทธิภาพการซีลของกระจกบานหลัง เป็นต้น
Toyota bZ4X รุ่นใหม่ 2025 นอกจากมีระบบความปลอดภัย ยังมีระบบช่วยเหลือขณะขับขี่
ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
ระบบควบคุม และปรับลดความเร็วอัตโนมัติ พร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน และช่วยลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง (DRCC)
ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS)
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงกลับอัตโนมัติ (LDA)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB) พร้อมระบบควบคุมไฟสูงอัจฉริยะ (AHS)
ถุงลมเสริมความปลอดภัย 8 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้างคู่หน้า, ม่านด้านข้าง, ตรงกลางด้านหน้า และหัวเข่าด้านผู้ขับ)
กล้องมองรอบคัน (PVM)
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Intelligent Parking Assist)
ระบบช่วยเตือน พร้อมช่วยเบรคอัตโนมัติ (PKSB)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM)
ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (RCTA)
ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS)
สัญญาณเตือนกะระยะ ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
ระบบป้องกันล้อลอค (ABS) พร้อมระบบเสริมแรงเบรค (BA)
ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC)
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน
รุ่น AWD
ตราสัญลักษณ์ AWD ที่ด้านหลัง
ด้านหน้าดีไซจ์น Hammerhead พร้อม Center Lamp ไฟหน้า Full LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟท้าย Full LED ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว และซุ้มล้อสีดำเงา
แต่เพิ่มตราสัญลักษณ์ AWD ที่ด้านหลัง bZ4X AWD ที่แตกต่างจากรุ่น FWD
ระบบเครื่องเสียง JBL ใน bZ4X AWD
ใน bZ4X AWD มาพร้อมระบบเครื่องเสียง JBL ลำโพง 9 ตำแหน่ง
สวิทช์เกียร์แบบกด N และบิดซ้าย R ขวา D โดยมีปุ่ม P แยกไว้ต่างหาก
ส่วนฟังค์ชันการใช้งานจะมีแค่เพียง Eco Mode กับเสริมโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อ X-Mode สำหรับลุยแทนที่ปุ่ม Snow
bZ4X AWD มอเตอร์คู่ 5.1 วินาที
รุ่น AWD ขับ เคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์อิสระ 2 ชุด มอเตอร์หน้า 165 กิโลวัตต์ หรือ 224 แรงม้า และหลัง 80 กิโลวัตต์ ให้กำลังรวมสูงสุด 252 กิโลวัตต์ หรือ 343 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดหน้า/หลัง 269/170 นิวทันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.1 วินาที ใช้แบทเตอรีขนาดความจุ 73.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 570 (520) กม. ในรุ่น AWD/การชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC (WLTP)
ประเภทหัวชาร์จ 2 แบบ และกระแสไฟ 2 ระบบ Type 2 (AC กระแสสลับ) และ CCS2 (DC กระแสตรง)
รองรับการชาร์จแบบ AC กำลังสูงสุด 22 กิโลวัตต์ ระยะเวลาในการชาร์จจาก 10-100 % ใน 3.5 ชม. และรองรับการชาร์จแบบ DC กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ ระยะเวลาในการชาร์จจาก 10-80 % ภายใน 28 นาที
ระยะทางวิ่งสูงสุด 570 กม./การชาร์จเต็ม 100 % (อ้างอิง Eco Sticker มาตรฐาน UN R101 ในห้องปฏิบัติการ มีผู้ขับขี่ 1 คน ใช้มาตรฐานการขับแบบ NEDC อุณหภูมิ 20-30 °C ปิดระบบปรับอากาศ รับรองผลโดยหน่วยงานรัฐบาลประเทศเบลเยียม)
จากการทดลองขับบนสภาพถนนจริงจากหัวหินถึง Toyota Alive บางนา 220 กม. ยังเหลือระยะทางที่ยังไปต่อได้อีก 158 กม. กับปริมาณไฟในแบทเตอรีที่เหลือ 41 % โดยมีอัตราการใช้ไฟอยู่ที่ 16.9 kWh/100 กม. เป็นตัวเลขไม่ได้เกินคาด แต่ก็มีค่าไฟที่ประหยัดกว่าค่าน้ำมัน ขณะที่อัตราเร่งทันใจ ขับสนุกกว่า
bZ4X AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อ กับ X-Mode
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ All-wheel Drive
กำลังสูงสุดรวม 252 กิโลวัตต์ (343 PS/338 HP) แรงบิดสูงสุดชุดมอเตอร์หน้า 269 นิวทันเมตร และชุดมอเตอร์หลัง 170 นิวทันเมตร ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ได้ดีกว่า รถที่ใช้เครื่องยนต์ ที่จะมีช่วงรอบเครื่องยนต์
X-Mode
X-Mode โหมดควบคุมการขับขี่แบบออฟโรด เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ทำงานควบคู่ฟังค์ชัน Grip Control ช่วยรักษาความเร็วให้คงที่ในระดับต่ำ เมื่อขับขี่บนเส้นทางที่ท้าทาย
Snow/Dirt ลดกำลังของมอเตอร์ เพื่อลดการลื่นไถลของล้อ
Deep Snow/Mud เพิ่มกำลังให้กับล้อ และควบคุมการยึดเกาะ
รุ่น AWD ขึ้น/ลงทางชันทางออฟโรด มั่นใจกว่า รุ่น FWD ที่มีเพียงระบบช่วยลดอาการล้อหมุนฟรี
ราคา Toyota bZ4X ใหม่
รุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ราคาเริ่มต้น 1,529,000 บาท
รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ราคาเริ่มต้น 1,649,000 บาท
สีภายนอก และภายใน Toyota bZ4X ใหม่
2 รุ่นย่อย 6 สีภายนอกจับคู่กับสีภายใน ดังนี้
สี Mono-Tone 3 สี
BZ4X 2025
เทา Precious Metal
ขาว Platinum White Pearl
ดำ Attitude Black Mica
สี Two-Tone (Black Roof) ราคาเพิ่ม +20,000 บาท
เทาหลังคาดำ Precious Metal/Black Roof
ขาวหลังคาดำ Platinum White Pearl/Black Roof
แดงหลังคาดำ Emotional Red 2/Black Roof
สีภายในดำ ยกเว้นสีดำ สีภายในเทาสว่าง Light Gray
.....................................................................................................................
Geely EX2 คอมแพคท์คาร์ EV มีของดี ให้ Wow!
Geely EX2 (จีลี อีเอกซ์ 2) เป็นซิทีคาร์คอมแพคท์ EV รุ่นล่าสุดจากค่าย Thonburi Neustern เตรียมเปิดตัว และประกาศราคาในวันพรุ่งนี้ 28 พฤศจิกายน 2568 ในงาน Motor Expo 2025
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกลุ่ม Geely ยอดขายทั่วโลกในปี 2024 ประมาณ 3.33 ล้านคัน และปี 2025 ถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา มียอดขายทั่วโลกรวม 2.95 ล้านคัน ถ้าเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โตขึ้น 29 % และเชื่อว่ายอดขายทั่วโลกจะโตมากกว่าปีที่แล้วแน่นอน
EX2 เป็นรถอีกหนึ่งรุ่นที่มียอดขายมากสุด ด้วยยอดขายทั่วโลกกว่า 400,000 คัน กลุ่มธนบุรีฯ ตั้งเป้าหมายนำเข้า EX2 จากจีน และเปิดตัวในเมืองไทยด้วยรุ่น Pro และ Max เขามีข้อดีอะไรบ้าง เราไปดูกันครับ
Geely EX2 มีรูปลักษณ์ภายนอกดูกว้างขวาง ด้วยมิติของตัวรถ ยาว 4,135 มม. กว้าง 1,850 มม. สูง 1,580 มม. ระยะฐานล้อ 2,650 มม. และมีความสูงใต้ท้องรถ 160.8 มม. (รุ่น Pro) และ 162 มม. (รุ่น Max)
ดีไซจ์นภายนอก หน้าตาดูน่ารัก ขนาดตัวกำลังดี ไม่ใหญ่เกินไปจนดูเทอะทะ ชุดไฟหน้าแบบ Auto LED ไฟท้ายแบบ LED เช่นกัน ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ลาย 4 ก้าน
ภายในห้องโดยสาร ออกแบบตามสไตล์ Modern Comfort Design เน้นความกว้างขวาง นั่งสบาย ดูทันสมัย ด้วยแผงหน้าปัดขนาดใหญ่ จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ดิจิทอลแบบ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว ส่วนจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัส HD ขนาด 14.6 นิ้ว รองรับระบบการเชื่อมต่อ Apple Car Play และ Android Auto รวมถึงระบบการค้นหา และสั่งงานรถด้วยสมาร์ทโฟน
พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน ควบคุมการทำงานของระบบสั่งการต่างๆ เช่น ปรับ/ลดเสียง, รับสาย/วางสายโทรศัพท์ และอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีไฟ Ambient 256 เฉดสี, ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย, เบาะนั่งคนขับปรับด้วยระบบไฟฟ้า 6 ทิศทาง (รุ่น Max), เบาะนั่งด้านหลังปรับแบบ 60:40 เป็นต้น
ส่วนสีสันของภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 เฉดสี อาทิ Skyline White และ Horizon Grey อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ร้อง Wow ! คือ พื้นที่เก็บของตัวรถมีให้อย่างเหลือเฟือ โดยมีพื้นที่เก็บของใต้ฝากระโปรงหน้า (Frunk) ความจุ 70 ลิตร พื้นที่เก็บของใต้คอนโซลกลาง ความจุ 20 ลิตร พื้นที่เก็บของใต้เบาะนั่งแถว 2 ความจุ 28 ลิตร และพื้นที่เก็บของด้านท้ายรถอีก 375-1,320 ลิตร
ขุมพลังในการขับเคลื่อน เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส ชนิดแม่เหล็กถาวร (PMSM) ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 85 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 150 นิวทันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 11.5 วินาที ความเร็วสูงสุดทำได้ 130 กม./ชม. ส่วนโหมดการขับขี่มีให้เลือกใช้งาน 3 โหมด เช่น Eco, Comfort, Sport ส่วนชุดขับเคลื่อนแบบ 11-in-1 Intelligent Electric Drive รัศมีวงเลี้ยว 4.95 ม.
แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ความจุ 39.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้ระยะทางไกลสุด ตามมาตรฐาน NEDC 395 กม. และระยะทางวิ่งไกลสุด ตามมาตรฐาน WLTP 325 กม.
สำหรับระบบความปลอดภัย อัดแน่นจัดเต็มด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากมาย ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC), ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรคฉุกเฉิน (AEB), ระบบเตือนการชนด้านหลัง (RCW), ระบบเตือนจุดอับสายตา (BSD), ระบบเตือนจุดอับสายตาเมื่อมีรถในขณะเปลี่ยนเลน (LCA), ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA), ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบเตือนการชนก่อนการเปิดประตู (DOW), ระบบช่วยตรวจสอบป้ายจราจร (TSI) และระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (FVD)
นอกจากนี้ ยังมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้าง พร้อมม่านถุงลม, กล้องมองภาพด้านหลัง, กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 360 องศา (AVM) ส่วนโครงสร้างของตัวถังรถ GEA Intelligent Architecture
เราได้ลองขับ Geely EX2 ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน บนเส้นทางถนนที่หลากหลายจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปบางเลน จ. นครปฐม บางช่วงของเส้นทางมีน้ำท่วม สิ่งที่พบ และประทับใจ คือ สมรรถนะการขับขี่ที่ไหลลื่นตามสไตล์รถ EV การเร่งออกตัวทำได้ดีจริงๆ ไม่มีอาการหน่วง หรืออืด ฟีเจอร์ต่างๆ ที่ตัวรถมีให้นั้น มากพอสำหรับช่วยเหลือด้านการขับขี่ รูปร่างหน้าตาถือว่าดี มีความชัดเจนในหลากหลายมิติ เช่น ความกว้างของตัวรถที่ส่งผลให้ห้องโดยสารกว้างนั่งสบาย ระบบรองรับด้านหน้าเกาะหนึบ ทรงตัวดี ส่วนด้านหลังยังมีอาการกระด้าง
ราคาจำหน่ายของ Geely EX2 น่าจะประมาณ 400,000-450,000 บาท และรถลอทแรกพร้อมส่งมอบกลางเดือนธันวาคม จำนวน 1,500 คัน ส่วนลอท 2 จะตามมาอีก 1,500 คัน
ย้ำอีกครั้ง ! Geely EX2 จะเปิดตัวพร้อมราคาในวันพรุ่งนี้ จะ Wow หรือจะว้าย ล้อมวงรอฟังเลยครับ
ข้อมูลจำเพาะ Geely EX2 Max
ผู้จัดจำหน่าย บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จํากัด
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,135/1,850/1,580
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,555/1,557
ฐานล้อ (มม.) 2,650
น้ำหนัก (กก.) 2,420
มอเตอร์ไฟฟ้า
แบบ ซิงโครนัสชนิดแม่เหล็กถาวร
กำลังสูงสุด (แรงม้า) 85
แรงบิดสูงสุด (นิวทันเมตร) 150
ประเภทแบทเตอรี ลิเธียม ไอรอน ฟอสเฟท
ความจุแบทเตอรี (กิโลวัตต์ชั่วโมง) 39.4
ระบบถ่ายทอดกำลัง
เกียร์ (จังหวะ) อัตโนมัติ
ขับเคลื่อน (ล้อ) 2 ล้อหลัง
ระบบรองรับ
หน้า แมคเฟอร์สันสตรัท
หลัง มัลทิลิงค์
ระบบบังคับเลี้ยว
แบบ ไฟฟ้า EPS
ระบบห้ามล้อ
แบบ ABS EBD
หน้า จาน มีช่องระบายความร้อน
หลัง จาน










































































