อภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จํากัด เปิดเผยว่า ปี 2566 บริษัทฯ เดินหน้าวางกลยุทธ์การตลาดให้สอดคล้องตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ความต้องการ ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปหลังจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมา โดยชูกลยุทธ์ 4E’S สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้บริโภค
กลยุทธ์ 4E’S เป็นการสร้างจุดแข็งให้แบรนด์มัดใจผู้บริโภค ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ปรับใช้ให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความต้องการมากกว่าเดิมที่ผ่านมาทั้งในเรื่องของคุณภาพของสินค้า และบริการที่ต้องฉับ ไว สามารถตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที รวมถึงความใส่ใจ และจริงใจของแบรนด์ที่มีให้แก่ผู้บริโภค ได้แก่
- E-Expectation เป็นการเน้นการสร้างสินค้า และบริการที่คุ้มค่า มีคุณภาพเกินความคาดหวังให้แก่ลูกค้า โดยผ่านสินค้าที่มีคุณภาพพร้อมด้วยบริการหลังการขายที่จริงใจสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าที่ซื้อสินค้า หรือ บริการ
- E-Experience เปลี่ยนจากการแนะนําสินค้า เป็นการสร้างประสบการณ์กับตัวสินค้าที่ดีให้แก่ลูกค้าเพื่อให้เกิดผลลัพธ์แบบที่ผู้บริโภคจะต้อง “หลงรัก” ในสินค้า และบริการของแบรนด์โดยผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงคุณภาพของสินค้า และประสิทธิภาพที่ได้รับด้วยตนเอง หรือจากคนรอบข้างที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ทั้งกิจกรรม Car Show หรือการแข่งรถยนต์ทางเรียบ และทางตรงที่บริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุน
- E-Evangelism การจูงใจลูกค้าให้เกิดการใช้ หรือการบอกต่อโดยผ่าน KOL Marketing ผ่านการบอกเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ผ่าน KOL ชื่อดังมากมายพร้อมด้วยการนํา Real Content ที่เกิดจากการบอกต่อของลูกค้าที่ประทับใจในผลิตภัณฑ์มาใช้สําหรับเป็นกระบอกเสียงถึงคุณภาพของสินค้า และบริการของทางบริษัท
- E-Everywhere สามารถติดต่อสอบถาม หรือซื้อสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลาผ่าน Platform มากมายของทางบริษัท รวมถึงทั้งศูนย์บริการยางรถยนต์ Grip ที่มีมากมายหลายสาขา โดยทั้ง Offline และ Online สามารถเข้าถึงทุกช่องทางได้ทุกที่ ทุกเวลาสร้างการรับรู้แบรนด์ผ่าน Tiktok พร้อมดึง KOL ดังร่วมต่อยอดการตลาด จากกระแสตอบรับของ Tiktok คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นอีกพแลทฟอร์ม ที่มีผู้ใช้งาน และรับชมสูงอีกช่องทางผ่านการสื่อสารที่ง่าย และเข้าใจได้ง่ายจึงทําให้ทางบริษัทฯ ได้วางแผนในการใช้พแลทฟอร์ม Tiktok เป็นอีกช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภคที่มีความชื่นชอบความสนุก คอนเทนท์ใหม่สด โดยจะมีในส่วนของ KOL ชื่อดังที่จะร่วมกับทางบริษัทฯ ผลิตคอนเทนท์ต่างๆ เพื่อเป็นตัวแทนในการสื่อสารระหว่างผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์แบรนด์ต่างๆ กับกลุ่มผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มเป้าหมายพร้อมด้วยกองทัพ Tiktok Army ที่จะบุกสร้างความสนุกผ่านพแลทฟอร์ม Tiktok ตลอดทั้งปี 2566 นี้ ให้ยางทุกแบรนด์ที่บริษัทฯ จัดจําหน่ายเป็นที่จดจํา เมื่อผู้บริโภคต้องการสินค้ายางรถยนต์ที่มีคุณภาพ
นอกจากนี้ ยังเตรียมพร้อมเพิ่มสินค้าใหม่ตอนสนองไลฟ์ไตล์ของผู้บริโภคทั้งสายซิ่ง และสายลุยที่มีความต้องการในการเดินทางท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่มากยิ่งขึ้นทั้งในรูปแบบแคมพิง และออฟโรดที่มีความต้องการสูงมากในตลาดปัจจุบันทั้งในส่วนของรถกระบะ และรถ SUV ในกลุ่มที่แต่งเพิ่มความสวยงาน และสําหรับใช้งานจริง โดยมีผลิตภัณฑ์ใหม่มาพร้อมจําหน่ายในปี 2566 ด้วยกัน 4 รุ่นได้แก่
- Toyo Open Country AT3 ยาง All-Terrain ที่สมบูรณ์แบบทั้งรูปลักษณ์ และสมรรถนะ (Real All-Terrain Tire) โดยการออกแบบบลอคดอกยาง ที่แข็งแกร่งด้วยดอกยาง และร่องยางแบบซิกแซก (Zigzag Block & Zigzag Groove) หน้ายางที่กว้างแบบ Square Shoulder และโครงสร้างยางที่แข็งแรงทําให้การควบคุมการขับขี่ที่ลงตัว บนทางเรียบทั้งบนถนนแห้ง และถนนเปียก และเต็มสมรรถนะ บนถนนขรุขระ (Off-Road) รวมถึงการออกแบบจัดเรียงดอกยางที่ลง ช่วยลดเสียงรบกวนจากยางขณะขับขี่ให้ทุกการเดินทางปลอดภัย พร้อมวางจําหน่าย 17 ขนาดโดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5,700 บาท/เส้น
- Nitto Mud Grappler Extreme Terrain เป็นยางที่ให้ประสิทธิภาพแรงกรุยเหนือกว่า ยางกลุ่ม Mud Terrain (M/T Tire) ทั่วไปโดยการออกแบบดอกยางที่พิเศษสุดด้วย ร่องดอกยางแนวขวางที่กว้าง (Wide Lug Groove) และดอกยางที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวทั้งบริเวณหน่ายาง และบริเวณไหล่ยาง นอกจากนี้ด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ทั้งบริเวณหน้ายาง (High Strength Steel Belt Tread Package) และ 3 Ply Polyester บริ เวณแก้มยาง ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ต่อการถูกตําทะลุได้ดี สําหรับการใช้งานบนถนนทางเรียบทั้งสภาพผิวถนนแห้ง และผิวถนนเปียกก็สามารถให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะที่ดีเช่นเดียวกัน โดยพร้อมวางจําหน่ายเริ่มต้น 6 ขนาด
- Nitto Trail Grappler M/T ยางสายลุยตัวจริง ด้วยดอกยาง และร่องยางแบบรูปทรงเรขาคณิตรวมทั้งการออกแบบไหล่ยาง และแก้มยางที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงให้สมรรถนะแรงกรุยที่ดีเยี่ยมบนสภาพเส้นทางดินโคลน Deep Center Sipe ที่ดอกยางบริเวณกลางหน้ายาง และ Reinforced Shoulder Groove ที่ดอกยางบริเวณไหล่ยางจึงให้ประสิทธิภาพดีบนทางเรียบโดยเฉพาะบนถนนเปียกโดยมีจําหน่ายเริ่มต้น 1 ขนาด
- Nankang MT-1 ยางออฟโรดตัวจริง ดุดันด้วยการออกแบบดอกบลอคที่แข็งแกร่ง ดุดัน และมีพื้นที่ร่องดอกยางถึง 50 % ของบริเวณหน้ายาง ช่วยให้ประสิทธิภาพแรงกรุยดีเยี่ยม สําหรับถนนลูกรัง และถนนดินโคลน พร้อมวางจําหน่าย 4 ขนาด โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 5,300 บาท/เส้น
และสําหรับในส่วนตลาด Motorsport ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในหลายปีที่ผ่านมาทางบริษัทก็ได้นํา Toyo Proxes RR Dot Competition ยางสําหรับที่ใช้ในการแข่งขันเข้ัามาประเดิมเปิดตลาดสําหรับสินค้าหมวดดังกล่าว เพื่อใช้ในการแข่งขันรายการต่างๆ ที่ทางบริษัทฯ สนับสนุนรวมถึงนักแข่งรถที่สนใจในประสิทธิภาพของยางรุ่นดังกล่าว ชูจุดเด่นด้วยประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยมพร้อมด้วย Advance Technology ที่ช่วยให้โครงสร้างยางแข็งแกร่งตอบสนองการควบคุมฉับไว พร้อมวางจําหน่าย 2 ขนาด โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 7,900 บาท/เส้น
พร้อมกันนี้ ยังได้วางเป้าหมายในการเปิดศูนย์บริการยางรถยนต์ Grip เพิ่มขึ้นเป็น 120 สาขาทั่วประเทศไทยในปี 2568 โดยปัจจุบันเปิดศูนย์บริการยางรถยนต์ Grip เพื่อเป็นจุดจําหน่ายสินค้าในเครือของบริษัทฯ ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ยางรถยนต์ Toyo Tires, Nitto Tire และ Nankang Tire โดยขณะนี้ในภาคเหนือมี 7 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 สาขา และภาคตะวันตก 11 สาขา พร้อมด้วยภาคตะวันออก 17 สาขา และภาคใต้ 9 สาขา รวมถึงภาคกลาง และกรุงเทพฯ 30 สาขา โดยรวมมีศูนย์บริการยางรถยนต์ Grip 83 สาขาทั่วประเทศ คลอบคลุมกว่า 40 จังหวัดจาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ และคิดเป็น 52 % ของจังหวัดทั่วประเทศไทยทั้งหมด พร้อมดึง KOL ชื่อดังร่วมต่อยอดการตลาดอีกด้วย
อภิชัย ตั้งวงศ์ศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จํากัด
ชิมเป อะมิซากิ ผู้จัดการทั่วไปส่วนงานการขายประจำภูมิภาเอเชีย และโอเชียเนีย บริษัท โตโยไทร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
วิชิต นิตธรรมวุฒ ผู้จัดการฝ่ายเทคนิค บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จํากัด