นักวิจัยเสนอให้ใช้หุ่นทดสอบการชนเพศหญิงมากขึ้น

 

ความสำคัญของหุ่นทดสอบการชน ไม่ได้อยู่ที่ขนาดของร่างกาย แต่อยู่ที่ลักษณะเฉพาะของเพศหญิง เช่น กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงน้อยกว่า และผลกระทบที่เกิดจากการชน

ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า หุ่นทดสอบการชนซึ่งเป็นส่วนสำคัญ ในการสร้างรถที่สามารถคุ้มครองผู้โดยสารให้ได้รับความปลอดภัยมากขึ้น แต่จะดีกว่าถ้าจะใช้หุ่นทดสอบการชนเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่ หลายทศวรรษที่ผ่านมา หุ่นทดสอบการชนส่วนใหญ่มักจะเป็นเพศชายที่มีร่างกายขนาดกลาง ทำให้ผู้หญิงที่มีร่างกายขนาดเฉลี่ยไม่ได้รับการคุ้มครองจากอุบัติเหตุการชน ซึ่งตรงกับรายงานของ NHTSA: National Highway Traffic Safety Administration ในปี 2556 สรุปว่า ผู้หญิงมักจะเสียชีวิต หรือได้รับอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์ โดยเฉพาะบริเวณคอ และช่องท้อง Astrid Linder ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยการจราจร ที่สถาบันวิจัยทางถนน และการขนส่งแห่งชาติของสวีเดน (VTI: Swedish National Road and Transport Research Institute) และทีมได้พัฒนาหุ่นทดสอบการชนเพศหญิง โดยใช้ขนาดร่างกายของผู้หญิงโดยเฉลี่ยที่มีความสูง 160 ซม. และหนัก 44 กก. ซึ่งสามารถเลียนแบบการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้หญิงขณะเกิดอุบัติเหตุได้ เพราะกล้ามเนื้อของผู้หญิงมีความแข็งแรงน้อยกว่าผู้ชาย ทศวรรษที่ผ่านมา วิศวกรด้านความปลอดภัยยานยนต์ ได้เสนอบทความเกี่ยวกับการบาดเจ็บบริเวณกระดูกคอ จากการทดสอบการชนที่ใช้หุ่นทดสอบการชนเพศหญิงรุ่นล่าสุด ซึ่งจะทำให้เกิดระบบความปลอดภัยมากขึ้น และส่งเสริมให้ใช้หุ่นทดสอบการชนเพศหญิงมากขึ้น แม้จะมีการเพิ่มการใช้หุ่นทดสอบการชนทั้ง 2 เพศ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีระบบความปลอดภัยใหม่เกิดขึ้นทันที แม้แต่กฎหมาย ก็ไม่ได้ระบุว่าการทดสอบการชนต้องใช้หุ่นเพศอะไร ในปัจจุบันมีบริษัทผู้ผลิตหลายรายที่ใช้หุ่นทดสอบหลายขนาด แต่ Linder ก็หวังว่าแนวคิดนี้น่าจะถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้โดยสารทุกคนที่อยู่ภายในรถ