ธุรกิจ
BMW รักษาแชมพ์ผู้นำอันดับ 1 รถพรีเมียม 3 ปีซ้อน

“กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่น่าดึงดูดใจซึ่งขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืนของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่งจากกลุ่มลูกค้า สะท้อนให้เห็นจากส่วนแบ่งทางการตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % ระดับพรีเมียมที่สูงถึง 40. 8% ด้วยยอดจดทะเบียน 535 คัน เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าจากปีก่อนหน้า จาก 5 รุ่นที่เปิดตัวในตลาดไทย ได้แก่ BMW IX3, BMW IX, BMW I4, BMW I7 และ MINI Cooper SE นอกเหนือจากนั้น BMW Motorrad ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาด 500 ซีซีขึ้นไป ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10.3 % และยังคงสร้างผลงานที่แข็งแกร่งจากผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายด้วยยอดจดทะเบียนในปี พศ. 2565 ทั้งหมด 1,293 คัน เพิ่มขึ้น 8 % จากปีก่อนหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ BMW Motorrad ในกลุ่มลูกค้า และยังพร้อมก้าวเข้าสู่เซกเมนต์มอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้า 100 % กับ BMW CE 04 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
“การครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยถึง 3 ปีติดต่อกัน ยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงการทำงานหนัก และความทุ่มเทของพนักงาน ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ และพันธมิตรทุกรายของเรา ที่ร่วมแรงร่วมใจในการสร้างความพึงพอใจระดับสูงให้แก่ลูกค้า ช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์ และความได้เปรียบทางการแข่งขันให้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จนส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานทางธุรกิจที่โดดเด่นในระยะยาว โดยในปีที่ผ่านมา เรายังได้คะแนนด้านความพึงพอใจของลูกค้า หรือ NPS Score เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งในด้านการขาย และบริการ ก้าวต่อไปข้างหน้า เราจะยังคงมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในทุกสิ่งที่เราทำ และจะยังคงให้บริการลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพที่เหนือกว่าพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อยกระดับประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่พวกเขา”
ในปี พศ. 2565 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงเติบโต และครองตำแหน่งอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมระดับโลก โดยได้ส่งมอบรถยนต์ BMW, MINI และ Rolls-Royce รวม 2,399,636 คันให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ในขณะที่ BMW ก็ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกันในประเภทรถยนต์ไฟฟ้า ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 % เติบโตขึ้นเท่าตัวจากปี พศ. 2564 ด้วยยอดส่งมอบรวม 215,755 คันจาก BMW และ MINI พุ่งสูงขึ้นถึง 107.7 % และเมื่อรวมรถยนต์พลัก-อิน ไฮบริด มียอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าสูงถึง 372,956 คันตลอดทั้งปี เพิ่มขึ้น 35.6 % จากปีก่อนหน้า สะท้อนความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ในขณะที่ BMW Motor rad ทำสถิติยอดขายสูงสุดครั้งประวัติศาสตร์ของบริษัท ด้วยยอดส่งมอบมอเตอร์ไซค์ และสกูเตอร์รวม 202,895 คันทั่วโลก
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งก้าวไปสู่ที่สุดแห่งอนาคต การเติบโตเชิงบวกของยอดขาย และส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพ และการออกแบบที่เหนือกว่าใครของ BMW, MINI และ BMW Mo torrad ตลอดจนชี้ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการผลิตยนตรกรรมที่ตอบสนองความต้องการ และความพึงพอใจของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งนี้จึงเป็นเครื่องการันตีถึงตำแหน่งผู้นำของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศ ไทย ในตลาดยานยนต์พรีเมียมไทย 3 ปีซ้อน
ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทจะยังคงดำเนินงานตามแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคม และสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการสร้างการเติบโตและการพัฒนาให้กับพนักงาน บีเอ็มดับ เบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังมองไปข้างหน้าโดยมีเป้าหมายที่จะส่งมอบสุนทรียะแห่งการขับขี่ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และพลังแห่งทางเลือกให้แก่ลูกค้า และมั่นใจในศักยภาพที่จะขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จแห่งอนาคต 

