ระเบียงรถใหม่
Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV มาพร้อมเครื่องยนต์โรตารี PHEV

Mazda MX-30 เป็นรถที่มาในรูปแบบตัวถัง SUV-Crossover ที่มีพื้นฐานมาจาก Mazda3/Mazda CX-30 มาพร้อมขุมพลัง e-Skyactiv G เครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้ามอเตอร์เดี่ยว แบทเตอรีความจุ 35.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 141 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 271 นิวตัน-เมตร
รถคันนี้มีระยะเวลาในการชาร์จไฟประมาณ 30 นาที ระยะทางในการวิ่งใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งไกล 240 กม. ตัวเลขสมรรถนะ อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำได้ 9.0 วินาที แต่ด้วยระยะการเดินทางที่สั้นกว่าคู่แข่ง ทำให้ในวันนี้ Mazda จึงได้เปิดตัว Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV ซึ่งเป็นการกลับมาของเครื่องยนต์สูบหมุนโรตารีในรูปแบบ PHEV โดยจะเป็นรุ่นที่เพิ่มระยะการขับขี่ หรือ Extended Range Electric Vehicle อีกด้วย
เครื่องยนต์โรตารี (Rotary Engine) เป็นรูปแบบของเครื่องยนต์ที่ใช้หลักการหมุนแทนที่การใช้งานลูกสูบ ซึ่งได้เปรียบกว่าในเรื่องของจำนวนรอบการหมุนที่มีรอบต่อนาทีที่มีค่าสูง (high revolutions per minute) สามารถสร้างกำลังที่มีความต่อเนื่อง และสมูธ สามารถลากรอบได้สูง และยังมีการสั่นสะเทือนที่น้อยมาก รวมถึงอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนัก (Power to Weight Ratio) เนื่องจากมีชิ้นส่วนที่น้อยกว่าเครื่องยนต์แบบลูกสูบ ทำให้เครื่องยนต์มีน้ำหนักที่เบา และมีขนาดเล็ก
ส่วนข้อด้อยของเครื่องยนต์โรตารี คือ การสร้างทอร์คน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบลูกสูบ การสันดาปทำได้ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรอบสูงๆ และกินน้ำมันเครื่อง Mazda ถือว่าเป็นผู้นำด้านเครื่องยนต์โรตารี ที่นำเครื่องยนต์มาต่อยอด และพัฒนาจนมีชื่อเสียงทั้งทางด้านรถสปอร์ท และรถแข่งมอเตอร์สปอร์ท
โดยการออกแบบของ MX-30 e-Skyactiv R-EV จะเหมือนกับในรุ่นขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100 % แต่เพิ่มการตกแต่งด้วยขอบสีแดง Malone Rouge Metallic ที่เสา A ขึ้นไปตลอดแนวหลังคา จนไปถึงเสา C ด้านท้ายรถ พร้อมแผ่นโลหะตรา Mazda ที่เสา C ด้านท้าย
ภายในห้องโดยสาร พนักพิงศีรษะปั๊มโลโกสัญลักษณ์ของเครื่องยนต์โรตารี พร้อมชื่อรุ่น Edition R และในส่วนพรมปูพื้น และกุญแจรีโมท ก็ติดตราสัญลักษณ์เครื่องยนต์โรตารีไว้เช่นกัน
Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV มาพร้อมขุมพลังโรตารีใหม่แบบ Single-Rotor ที่มีขนาดกะทัดรัด ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียม โดยจะมีน้ำหนักเบาลง 15 กก. เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์แบบ Bi-Rotor ที่เคยติดตั้งลงใน RX-8 ก่อนหน้านี้ และมีขนาดความจุที่ 830 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 74 แรงม้า โดยจะทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟให้แก่มอเตอร์ไฟฟ้า และสำหรับชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าสู่แบทเตอรี
ตัวมอเตอร์ไฟฟ้า มีพละกำลัง 166 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 9.1 วินาที ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 140 กม./ชม. โดยหลักการทำงานจะคล้ายกับ Nissan Kicks e-Power แต่เพิ่มจุดเด่นของรถแบบ Plug-in Hybrid ที่เครื่องยนต์ทำหน้าที่ปั่นไฟเข้าแบทเตอรีแบบลิเธียม-ไอออน ที่มีขนาดความจุ 17.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง รวมกับถังเก็บน้ำมันความจุ 50 ลิตร ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 600 กม. โดยถ้าวิ่งโหมด EV อย่างเดียวสามารถวิ่งไกลสุด/การชาร์จ 85 กม. (WLTP)
โดยสามารถชาร์จไฟกระแสตรง DC จากระดับพลังงาน 20-80 % ภายในเวลา 25 นาที ไฟ AC จะใช้เวลา 1.40 ชม. มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด คือ EV, Normal และ Charge Mode โดยสามารถตั้งค่าปริมาณพลังงานแบทเตอรีที่เหลืออยู่ เมื่อพลังงานไฟในแบทเตอรีลดลงเหลือในระดับที่ตั้งค่าเอาไว้ เครื่องยนต์จะทำงานเพื่อชาร์จไฟให้โดยอัตโนมัติ
มีช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าขนาดถึง 1,500 วัตต์ ไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ภายนอกได้อีกด้วย ส่วนราคาของ Mazda MX-30 e-Sktactiv R-EV ถูกตั้งราคาไว้ใกล้กับรุ่น EV โดยมีราคาจำหน่ายในสหราชอาณาจักรเริ่มต้นที่ 31,995 ปอนด์ หรือประมาณ 1.3 ล้านบาท 

