ค่าย Mazda ไม่โดดเด่นในเรื่องของรถไฟฟ้า แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้มีการพัฒนาเลย ดังจะเห็นได้จากการเปิดตัวของรถลำดับต่อมา คือ Mazda CX-90 ด้วยรูปแบบของ PHEV นอกจากนั้น Mazda ยังประกาศแผนการผลิตรถไฟฟ้า BEV เพิ่มเป็น 40 % ของผลผลิตทั้งหมดในปี 2573 ซึ่งบ่งบอกว่าแผนการพัฒนาไปสู่ผู้ผลิตรถไฟฟ้าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
จากสิทธิบัตรจะเห็นว่า Mazda จะใช้แชสซีส์แบบ “สเกทบอร์ด” เหมือนกับรถไฟฟ้าทั่วไป แรกเห็น คือ ภาพของรถคอมแพคท์ซีดานที่ไม่ต่างจาก Mazda3 ทั่วไป หากสังเกตจะเห็นว่าใช้แชสซีส์ของรถไฟฟ้า BEV มีแพคแบทเตอรีบางกว่ารถไฟฟ้าทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งอาจเป็นการก้าวเข้าสู่เทคโนโลยีอีกระดับ ด้วยแบทเตอรีแบบโซลิด สเตท
จากภาพจะเห็นการติดตั้งระบบส่งกำลังมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหน้าอย่างเดียว แต่ในสิทธิบัตรระบุไว้ว่าสามารถติดตั้งมอเตอร์ในตำแหน่งอื่นได้ จึงเป็นไปได้ว่า Platform นี้สามารถรองรับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า, ล้อหลัง หรือขับเคลื่อนทุกล้อได้
ในอนาคต ไม่ว่ารถไฟฟ้าใหม่จะมีรูปแบบการขับเคลื่อนอย่างไร แต่ครั้งนี้จะเป็นจุดหักเหสำคัญที่สุดที่ Mazda เคยผลิตรถมา ด้วยราคาต่ำกว่า, มีระยะเดินทางใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง Chevrolet Bolt EV, EUV หรือ Kia Niro EV ซึ่งจะเป็นการบ่งบอกทิศทางการผลิตรถรุ่นอื่นของ Mazda ต่อไป

