บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ตระกูล M สมรรถนะสูงรุ่นแรก มาพร้อมระบบขับเคลื่อนพลัก-อิน ไฮบริดทรงพลัง กับ BMW XM ใหม่ รถยนต์สปอร์ทอเนกประสงค์ หรือ Sports Activity Vehicle (SAV) หรูหราเหนือระดับ โดดเด่นด้วยภายในที่เป็นเอกลักษณ์ และรูปลักษณ์ภายนอกที่สะดุดตา และยังเป็นรถยนต์ BMW ตระกูล M รุ่นที่ 2 ถัดจาก BMW M1 อีกด้วย BMW XM มาพร้อมมุมมองใหม่ๆ กับแนวคิดรถยนต์สปอร์ทอเนกประสงค์ในเซกเมนท์รถยนต์สมรรถนะสูง ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่แบบ M ได้อย่างเหนือชั้นในทุกเส้นทาง โดยรถยนต์อเนกประสงค์ตระกูล M สุดพิเศษรุ่นนี้ จะเปิดให้จองผ่านช่องทางออนไลน์ในประเทศไทย เร็วๆ นี้
อเลกซันเดร์ บาราคา ประธาน และซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า BMW XM นำเสนอแนวคิดใหม่ของกลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูงในทุกแง่มุม ตอกย้ำถึงศักยภาพของ BMW M ในการท้าทายแนวคิดดั้งเดิม และความกล้าที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าให้เหล่าสาวก BMW นอกจากจะผสมผสานสมรรถนะ ความยั่งยืน และความหรูหราไว้อย่างลงตัว BMW XM ยังสร้างความเป็นไปได้และการตีความรถยนต์สปอร์ทอเนกประสงค์แบบใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม จึงพร้อมมอบความรู้สึกของการขับขี่ที่เร้าใจสไตล์ M ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน ให้แก่กลุ่มลูกค้าชาวไทย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จะยังคงให้ความสำคัญกับอนาคตแห่งการขับเคลื่อน และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องอย่างที่เคยเป็นเสมอมา เพื่อส่งมอบโซลูชันการขับขี่ที่ยั่งยืน และล้ำสมัย ให้แก่ลูกค้าชาวไทยต่อไป
BMW XM ใหม่ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว และหรูหรา มาพร้อมกับสัดส่วนไดนามิคปราดเปรียว และรูปลักษณ์ที่โดดเด่น เค้าโครงทันสมัยของรถยนต์สปอร์ทอเนกประสงค์ สะดุดตาด้วยองค์ประกอบการออกแบบสไตล์ M มอบความรู้สึกแข็งแกร่ง ดุดัน เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจให้แก่ตัวรถ ด้านหน้าของ BMW XM แตกต่างด้วยไฟหน้าแบบแยกส่วน กระจังหน้าทรงไตคู่แบบ “Iconic Glow” ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างแบบต่อเนื่อง ไฟหน้า Adaptive LED อัจฉริยะ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย และมอบแสงสว่างบนท้องถนน ตลอดจนช่วงเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น ระบบปรับการทำงานไฟสูง ช่วยเปิด/ปิดไฟสูงโดยอัตโนมัติเมื่อมีรถสวน หรือมีรถด้านหน้า BMW XM ใหม่ ยังมาพร้อมกับระบบปลดลอคประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) ให้ผู้ขับขี่สามารถปลดลอค และสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู ที่ช่วยให้ผู้ขับ และผู้โดยสาร ขึ้น/ลงรถได้อย่างเงียบเชียบ และนุ่มนวล ส่วนบริเวณด้านข้างมีแถบสีที่ชวนให้นึกถึงรถยนต์ BMW M1 ทำให้รถดูโดดเด่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การออกแบบของ BMW XM ยังรวมเอาคุณลักษณะต่างๆ ที่ทำให้นึกถึงอดีต ไม่ว่าจะเป็นโลโก BMW ที่กระจกหลัง หรือไฟท้ายทรงเรียว BMW XM ยังสะดุดตายิ่งกว่าใครด้วยล้ออัลลอย M น้ำหนักเบา ขนาด 23 นิ้ว ลาย Star Spoke แบบสลับสี ซึ่งติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน
BMW XM ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo ล้ำสมัย ระบบขับเคลื่อน M HYBRID ที่ติดตั้งมาในรถยนต์รุ่นนี้ ช่วยเสริมประสิทธิภาพ และสมรรถนะของรถ โดยไม่ก่อให้เกิดมลพิษเมื่อโลดแล่นบนท้องถนน โดยระบบขับเคลื่อน M HYBRIDในรถยนต์ BMW XM ให้กําลังรวมสูงสุดที่ 480 กิโลวัตต์/653 แรงม้า ที่แรงบิดรวมสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร ด้านเครื่องยนต์สันดาปให้พละกำลังสูงสุดที่ 360 กิโลวัตต์/489 แรงม้า ที่ 5,400-7,200 รตน. แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-5,000 รตน. ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์สูงถึง 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า ให้แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่สามารถเลือกกดปุ่ม M Hybrid ที่คอนโซลกลางเพื่อเข้าโหมดใดโหมดหนึ่งจากทั้งหมด 3 โหมด รวมถึงโหมดการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า 100 % สำหรับการขับขี่ที่ปลอดมลพิษ ด้วยความเร็วสูงสุด 140 กม./ชม. บนระยะทาง 82-88 กม. อ้างอิงตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP โดยใช้พลังงานจากแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 25.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้ท้องรถ ความเร็วจากจุดหยุดนิ่ง 100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 4.3 วินาที สู่ความเร็วสูงสุดที่ 270 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะ 4 ล้อ M xDrive ที่ติดตั้งใน BMW XM ใหม่ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าแรงทั้งหมดจะถูกส่งไปยังถนนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยยกระดับไดนามิคการขับขี่ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น ระบบเฟืองท้าย M Sport ยังช่วยเสริมสมรรถนะของรถ โดยกระจายกำลังขับเคลื่อนระหว่างล้อหลัง ช่วยให้ตัวรถสามารถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น พร้อมเสริมเสถียรภาพการขับขี่ในสถานการณ์ต่างๆ ในขณะเดียวกัน ช่วงล่าง Adaptive M Suspension Professional มอบการควบคุมแบบสปอร์ทโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายแก่ผู้ขับ
ระบบช่วยการขับขี่ รุ่น Professional พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมฟังค์ชัน Stop & Go ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความเร็วของรถในระดับที่ต้องการ และคงระยะห่างจากรถคันหน้าให้สม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รถยนต์อยู่ในเส้นทางอย่างคงที่ ด้วยระบบบังคับพวงมาลัย เพื่อความสะดวกสบายที่เหนือกว่า ระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ รุ่น Plus ยังช่วยให้การจอดรถ และการบังคับรถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
นอกจากนั้น ระบบความปลอดภัยต่างๆ ยังติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้แก่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยสําหรับคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และถุงลมนิรภัยศีรษะ ระบบ Teleservices และปุ่มโทรออกฉุกเฉิน รับประกันว่าผู้ขับขี่ และผู้โดยสารจะได้รับความช่วยเหลืออย่างมืออาชีพในทุกสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ ระบบป้องกันล้อลอคขณะเบรค ระบบช่วยเสริมแรงเบรคอัตโนมัติ ระบบ Active Protection ยังถูกติดตั้งมาเพื่อช่วยให้สามารถควบคุมการขับขี่ได้ดีขึ้นและช่วยตรวจจับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการขับขี่ ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง และระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ยังช่วยลดความเสี่ยงให้แก่คนเดินถนนที่อยู่ใกล้เคียงกับรถยนต์ได้อีกด้วย
ภายในห้องโดยสารของ BMW XM ใหม่ ยังมอบความสะดวกสบายเหนือระดับให้แก่ผู้โดยสาร เบาะนั่งตอนหน้าแบบ M Multifunctional บริเวณที่นั่งคนขับ และผู้โดยสารตอนหน้า ภายในตกแต่งดีไซจ์น M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ขณะที่พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซจ์น M และเข็มขัดนิรภัยดีไซจ์น M ให้ความรู้สึกสปอร์ท และโฉบเฉี่ยวในการขับขี่ นอกจากนี้ ผ้าบุหลังคายังเป็นเสมือนงานประติมากรรม 3 มิติ ลวดลายแบบปริซึม และเมื่อเปิดหลังคาก็จะพบกับหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวง ที่ส่องสว่างอย่างงดงามยามค่ำคืน คอนโซลด้านบนยังบุด้วยหนังแบบ BMW Individual ทำให้การตกแต่งภายในดูสะดุดตา และหรูหราไปอีกขั้น ชุดไฟส่องสว่างภายใน และภายนอกห้องโดยสาร ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ 4 โซน ระบบระบายอากาศ และฟังค์ชันนวดผ่อนคลายสําหรับเบาะนั่งตอนหน้า ยังถูกติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในรถยนต์รุ่นนี้เช่นกัน
BMW XM ใหม่ ยังได้รับการพัฒนาด้านระบบความบันเทิง และการสื่อสารให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมจอ BMW Head-up Display และระบบ BMW Live Cockpit Professional แสดงผลบนจอ Control Display ขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 8 ใหม่ล่าสุด ที่ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้น ระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ Iconic Sounds Electric ให้เสียงขับที่กระตุ้นความตื่นเต้นแม้ในโหมดการขับขี่แบบไร้มลพิษ นอกจากนี้ ระบบเสียงรอบทิศทาง Bowers & Wilkins Diamond ยังมอบสุนทรียภาพแห่งเสียงที่ชวนดื่มด่ำแบบเต็มขั้น ด้วยลำโพงขนาด 1,475 วัตต์ และลำโพงพิเศษอีก 4 ตัวบริเวณหลังคา คุณลักษณะเด่นอีกประการของรุ่นรถยนต์นี้ คือ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาของตนกับรถยนต์แบบไร้สายผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto นอกจากนั้น ผู้ขับขี่ยังจะได้รับประโยชน์จาก Connected Package Professional ซึ่งช่วยให้ผู้ขับมั่นใจว่าจะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน และข้อมูลการจราจรอัพเดทล่าสุด เมื่ออยู่บนท้องถนน
BMW XM ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีดำ Black Sapphire, สีเขียว Cape York Green, สีดำ Carbon Black, สีเทา Dravit Grey, สีฟ้า Marina Bay Blue, สีขาว Mineral White และสีแดง Toronto Red และมีสีภายในกับหนัง BMW Individual “Merino” ให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Deep Lagoon, สีขาว Silverstone, สีดำ Black และสีส้ม Sakhir Orange มาพร้อมกับแถบตกแต่งด้านข้างรถทั้งหมด 2 ตัวเลือก คือ สีทอง และสีดำ ซึ่งพาดผ่านกรอบประตู และล้อรถ ส่งให้ตัวรถโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น