ธุรกิจ
BMW Motorrad ฉลอง 1 ศตวรรษ
เรื่องราวของ BMW Motorrad เริ่มต้นจากหัวหน้านักออกแบบ Max Friz ผู้สร้างสรรค์มอเตอร์ไซค์ BMW รุ่นแรกซึ่งถูกเปิดตัวที่งาน German Motor Show ปี คศ. 1923 (พศ. 2466) ณ Germany ในปีถัดมา Rudolf Schleicher ได้สร้างผลงานชิ้นสำคัญในการพัฒนาเครื่องยนต์ BMW R37 ซึ่งนำไปสู่การเปิดตัวมอเตอร์ไซค์สปอร์ทรุ่นแรกของ BMW Motorrad ในปี คศ. 1937 (พศ. 2467) Ernst Jakob Henne ยังทำลายสถิติความเร็วบนท้องถนนกับ BMW 500 Kompressor ซึ่งสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 279.503 กม./ชม. และในปี คศ. 1939 (พศ. 2482) Georg "Schorsch" Meier ยังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเป็นผู้ชนะจากต่างประเทศคนแรกในการแข่งขัน Senior TT กับรถมอเตอร์ไซค์ BMW Kompressor
มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ BMW Motorrad เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้นำเข้าภูมิภาค Asia Pacific กล่าวว่า เส้นทางอันยาวนานของ BMW Motorrad ตอกย้ำแรงผลักดันอันไม่หยุดยั้งที่นำไปสู่ความสำเร็จของแบรนด์ แม้ต้องพบกับความท้าทายต่างๆ นับครั้งไม่ถ้วน BMW Motorrad ไม่เคยหยุดความกระตือรือร้น และแรงบันดาลใจ พร้อมมุ่งมั่นที่จะปฏิวัติท้องถนนด้วยแนวคิดนวัตกรรม 2 ล้อ ในช่วง 1 ศตวรรษที่ผ่านมา คือก้าวย่างสำคัญของเราในการเฉลิมฉลองปรัชญา "Make Life a Ride" ซึ่งช่วยผลักดันให้ BMW Motorrad เติบโตขึ้นทุกวันนับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท เพื่อร่วมเดินทางอันสุดพิเศษสู่ศตวรรษหน้าของ BMW Motorrad เราขอเชิญชวนแฟนๆ มาร่วมสานต่อเรื่องราวแห่งตำนานของผู้ผลิตรถมอเตอร์ไซค์ระดับโลกกับรถมอเตอร์ไซค์ 4 รุ่นใหม่ ซึ่งจะมาสร้างความตื่นเต้นให้เหล่าสาวก BMW Motorrad ชาวไทยในปีนี้
BMW R18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี (สี Classic Chrome) ราคาจำหน่าย: 1,219,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW R18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่สื่อถึงแก่นแท้ของมอเตอร์ไซค์ในแบบดั้งเดิม การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจากต้นกำเนิดของแบรนด์ BMW Motorrad จึงมอบกลิ่นอายความ Classic ได้อย่างถึงอารมณ์ด้วยชิ้นส่วน Handmade ต่างๆ ที่ล้วนตอกย้ำถึงความเรียบง่ายที่ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในทุกองค์ประกอบ สัดส่วนที่ลงตัวของ BMW R18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ยังได้รับแรงบัน ดาลใจจากมอเตอร์ไซค์ Classic รุ่นพี่อย่าง BMW R5 ถ่ายทอดออกมาเป็นเอกลักษณ์ความงามที่ก้าวข้ามกาลเวลาด้วยดีไซจ์นเปลือยสะกดสายตา
หัวใจหลักของ BMW R18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี คือ เครื่องยนต์บอกเซอร์ 4 จังหวะ 2 สูบขนาดใหญ่ ระบายความร้อนด้วยอากาศ และน้ำมัน ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ให้ทรงพลังทั้งในด้านดีไซจ์น และประสิทธิภาพ มาพร้อมความจุ 1,802 ซีซี ส่งพละกำลังสูงสุด 67 กิโลวัตต์ (91 แรงม้า) ที่ 4,750 รตน. แรงบิดสูงสุด 16.1 กก.-ม. หรือ 158 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000 รตน. ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 180 กม./ชม. มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ยังใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยเพลา มาพร้อมกับชุดเกียร์ 6 จังหวะ แบบ Claw-Shift และ Clutch เดี่ยวแบบแห้ง และยังโดดเด่นด้วยมาตรฐานการผลิตคุณภาพสูง ความประณีตในรายละเอียดต่างๆ เช่น การเชื่อมข้อต่อระหว่างโครงสร้างเหล็ก และการขึ้นรูปชิ้นส่วนเหล็กหล่อต่างๆ นอกจากนี้ Swingarm หลังยังได้รับแรงบันดาลใจจาก BMW R5 ยึดต่อกับเพลาหลังด้วยข้อต่อสลักเกลียวแบบดั้งเดิม
ระบบช่วงล่างของ BMW R18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ยังคงความ Classic ด้วยการใช้ช่วงล่างแบบ Telescopic แทนการควบคุมด้วยไฟฟ้า โดยมีคานรับน้ำหนักกลางที่ปรับตั้งค่าความหนืด และการยุบตัวของสปริงได้ เพื่อการควบคุมที่เฉียบคม และนุ่มสบาย ระยะยุบตัว Shock Absorber หน้า 120 มม. และระยะยุบตัว Shock Absorber หลัง 90 มม. ระบบเบรคของ BMW R18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี มาพร้อมดิสก์เบรคคู่ที่ล้อหน้า ดิสก์เบรคเดี่ยวที่ล้อหลัง และคาลิเพอร์เบรคแบบตายตัว 4 ลูกสูบ พร้อมล้อซี่ลวดที่เสริมลุคให้สะดุดตายิ่งขึ้น
BMW R18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ยังพิเศษด้วยโหมดการขับขี่ที่เหนือระดับกว่ารุ่นอื่นๆ ใน Segment เดียวกัน มาพร้อม 3 โหมด ได้แก่ "Rain" "Roll" และ "Rock" เลือกปรับได้ตามความชอบเฉพาะตัว พกพาเทค โนโลยีด้านการขับขี่ที่ครบครันมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความปลอดภัยด้วยฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมระบบลอค ระบบควบคุมการทรงตัวแบบอัตโนมัติ (ASC) ระบบช่วยออกตัวในทางลาดชัน (Hill Start Control) ระบบเกียร์ถอยหลัง (Reverse Gear) ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันรถกระชาก (Anti-Hopping Clutch) เสริมความล้ำสมัยด้วยระบบสตาร์ทแบบไร้กุญแจ (Keyless Ride) นอกจากนี้ ไฟหน้า Adap tive LED แบบใหม่ พร้อมระบบไฟส่องสว่างตอนกลางวันยังช่วยสร้างเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวให้แก่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้
ดีไซจ์นของรุ่นนี้นำเอกลักษณ์ความ Classic มาผสานเข้ากับดีไซจ์นแบบร่วมสมัย สืบทอดรายละเอียดต่างๆ จาก BMW R5 ที่ได้สร้างตำนานไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเหล็กกล้า 2 ชั้น ถังน้ำมันทรงหยดน้ำ เพลาแบบเปิดเปลือย พร้อมเสริมลูกเล่นดีไซจ์นด้วยการทำสีแบบลายเส้นบนตัวถัง ส่วนโครงสร้างเฟรม และถังน้ำมันสร้างเส้นสายที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่หน้ารถไปจนถึงซุ้มล้อหลัง สร้างความสง่างามด้านดีไซจ์นจากมุมข้าง
BMW R18 รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี มาในสี Classic Chrome และยังอวดโฉมรูปลักษณ์ที่งดงาม พร้อมตัวเลือกการออกแบบโครเมียมอันสง่างามซึ่งมีส่วนประกอบโครเมียมต่างๆ บริเวณคันโยกมือ และเท้า ที่จับแฮนด์ ฝาครอบเครื่องยนต์ด้านหน้า และกระจก คุณสมบัติอื่นที่เป็นเอกลักษณ์เพิ่มเติมของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ ได้แก่ ท่อไอเสีย Akrapovic ชุบโครเมียมทรงตรงแบบเจาะรูสไตล์ใบพัดลวดลายโลโก BMW และเบาะนั่งบุนวมสีแดง Oxblood
BMW R Nine T รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี (สี Classic Chrome) ราคาจำหน่าย: 1,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW R Nine T Urban G/S (สี Imperial Blue Metallic) ราคาจำหน่าย: 809,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW R Nine T Scrambler (สี Manhattan Metallic Matt) ราคาจำหน่าย: 809,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
BMW R Nine T รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี
BMW R Nine T Urban G/S BMW R Nine T Scrambler
มอเตอร์ไซค์ในตระกูล R Nine T ใหม่ มาใน 3 รุ่น ได้แก่ BMW R Nine T รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี BMW R Nine T Urban G/S และ BMW R Nine T Scrambler โดยทั้ง 3 รุ่น ล้วนขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์บอกเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ และน้ำมัน ความจุเครื่องยนต์ 1,170 ซีซี ที่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณสมบัติตามมาตรฐานมลพิษ EU-5 ส่งพละกำลังสูงสุด 80 กิโลวัตต์ (109 แรงม้า) ที่ 7,250 รตน. และแรงบิดสูงสุด 11.8 กก.-ม. หรือ 116 นิวตัน-เมตรที่ 6,000 รตน. ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กม./ชม. ทั้ง 3 รุ่นมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.1 ลิตร/100 กม. และรองรับน้ำมันเบนซินค่าออกเทน 95-98 นอกจากนั้น ระบบ Clutch แห้งแผ่นเดียวทำงานด้วยระบบ Hydrolic และระบบเกียร์ 6 จังหวะ พร้อม Helical Gear Teeth ได้รับการติดตั้งมาเพื่อให้การส่งกำลังที่เหนือกว่าอีกด้วย
โหมดการขับขี่แบบ Pro ติดตั้งมาเป็นมาตรฐานในทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วยโหมดการขับขี่มาตรฐาน Rain และ Road เพิ่มเติมด้วยโหมด Dyna สำหรับ BMW R Nine T รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี ส่วน BMW R Nine T Urban G/S และ R Nine T Scrambler มาพร้อมโหมด Dirt โดยขณะขับขี่ด้วยโหมด Dyna หรือ Dirt ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสความ Sport ยิ่งขึ้น ระบบ Dynamic Brake Control หรือ DBC และ ABS Pro จะทำงานขณะขับขี่บนถนนที่มีแรงเสียดทานสูง ระบบ Dynamic Traction Control หรือ DTC ช่วยเสริมความปลอดภัยยิ่งขึ้นเมื่อเร่งความเร็ว ในขณะที่ระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัว หรือลดเกียร์ ช่วยให้ควบ คุมรถได้มั่นคง และแม่นยำยิ่งขึ้น แม้ขณะเบรคในสภาวะการขับขี่ที่ยากลำบาก
การออกแบบของ BMW R Nine T Urban G/S และ R Nine T Scrambler ใหม่ ยังคงรักษาองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของรถมอเตอร์ไซค์ Roer ด้วยไฟหน้า LED มาพร้อมไฟส่องสว่างตอนกลางวัน ไฟเลี้ยวแบบ LED ล้อซี่ลวดสีทอง และยางล้อออฟโรด ในขณะที่ BMW R Nine T รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี มากับไฟส่องสว่างแบบ LED พร้อมไฟหน้าแบบปรับได้ และไฟส่องสว่างตอนกลางวัน ระบบทำความร้อนที่แฮนด์ (Heated Grips) และ Shock Absorber หน้าแบบกลับหัวซึ่งสามารถปรับได้ยังช่วยเสริมการควบคุมรถ และเสถียรภาพให้ดีขึ้น
BMW R Nine T รุ่นพิเศษฉลองครบรอบ 100 ปี โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามด้วยสี Classic Chrome และชุดแต่ง Option 719 Wheel Classic และ Option 719 Billet Pack Shadow คุณภาพสูง ในขณะที่ BMW R Nine T Urban G/S และ BMW R Nine T Scrambler มาในสีฟ้า Imperial Blue Metallic และสี Manhattan Metallic Matt ตามลำดับ