รถล่าสุด
เปิดตัว Honda WR-V ใหม่ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีขนาดเล็ก ราคาเริ่มต้น 7.99-8.69 แสนบาท
คลิพจากงานเปิดตัว Honda WR-V
Honda ประเทศไทย เปิดตัวยนตรกรรมครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีรุ่นล่าสุด Honda WR-V ใหม่ เป็นครั้งแรกในไทย โดยนำเข้ามาทั้งคันจากประเทศอินโดนีเซีย มีด้วยกัน 2 รุ่น คือ SV และ RS ราคา 799,000-869,000 บาท โดยมีสีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) สีแดงอิกไนท์ (เมทัลลิค)/หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิค) และสีขาวทาฟเฟตา โดยได้รับการพัฒนาเพื่อตอบรับกระแสความนิยมรถในกลุ่มรถเอสยูวีในไทย Honda WR-V ใหม่ โดดเด่นด้วยดีไซจ์นสปอร์ท มีสไตล์ ดูแข็งแกร่ง ทันสมัย ตามไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งด้านหลังแถว 2 ปรับพับได้ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยแบบอเนกประสงค์ ไปได้ทุกเส้นทางด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC ผสานเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า อัตราประหยัดน้ำมันถึง 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ขับขี่ปลอดภัยมั่นใจด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ในทุกรุ่นย่อย Honda WR-V ใหม่ มีการออกแบบภายนอกที่ผสมผสานความสปอร์ท และความพรีเมียมเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ - กระจังหน้าโครเมียม - มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ - ไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED - ระบบเปิด/ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ - กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับและพับไฟฟ้า - ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง - เสาอากาศแบบครีบฉลาม - ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว - รุ่น RS ยกระดับความสปอร์ทพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซจ์นเอกซ์คลูซีฟรอบคัน - กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ท โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ RS - ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED - กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ - ล้ออัลลอยดีไซจ์นใหม่ขนาด 17 นิ้ว สำหรับภายในมาพร้อมความสะดวกสบาย ได้แก่ - แบบพับเบาะแถวหลัง 60:40 (ซ้าย หรือขวา) - แบบพับเบาะแถวหลังทั้งหมด โดยใช้วัสดุกับเบาะที่นั่งให้สัมผัสนุ่ม เสริมความพรีเมียมมากขึ้นด้วยภายในสีดำ - วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่งแถบสีเงิน - มือจับประตูด้านในสีเงิน - เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง/ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้า และด้ายสีน้ำเงิน - พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน ปรับระดับสูง/ต่ำได้ ภายในเพิ่มเติมในรุ่น RS - วัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่ง Piano black แถบสีแดง - เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง/ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้า และด้ายสีแดง - พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ปรับระดับสูง/ต่ำได้ - คิ้วบันไดสเตนเลสส์ที่ประตูหน้า พร้อมสัญลักษณ์ RS ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ - ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบทำความเย็นเร็ว และโหมดทิศทางลมเพื่อความสะดวกสบาย - พนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV) หรือด้านหน้า และด้านหลัง (รุ่น RS) - แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้า ด้านคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น SV) และแบบมีฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS) - กระจกมองหลังแบบตัดแสง - กระจกไฟฟ้า 4 บาน พร้อมระบบปรับขึ้น/ลงอัตโนมัติด้านคนขับ - ช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารด้านหน้า - ที่วางแก้ว 6 ตำแหน่ง - ที่แขวนของในพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย - ไฟภายในห้องโดยสาร 2 ตำแหน่ง - ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย - ราวมือจับ 3 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 4 ตำแหน่ง (รุ่น RS) แรงได้สุด สนุกทุกเส้นทาง ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รตน. และแรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,300 รตน. ให้อัตราความสิ้นเปลืองถึง 16.7 กม./ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20 ทุกเส้นทาง คือ ความมั่นใจ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอันล้ำสมัย - ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda SENSING ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟังค์ชันการทำงานหลักๆ ดังนี้ - ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรค (Collision Mitigation Braking System: CMBS) - ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS) - ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW) - ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB) - ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control: ACC) - ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN) พร้อมด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่น เช่น - ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) (รุ่น RS) - ถุงลมคู่หน้า (Dual SRS) - ถุงลมด้านข้างคู่หน้า (Side Airbags) - ม่านถุงลมด้านข้าง (Side Curtain Airbags) (รุ่น RS) - ระบบลอครถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) - ไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) - กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-Angle Rearview Camera) - ระบบลอคประตูรถอัตโนมัติตามความเร็วรถ (Auto Door Lock by Speed) - ระบบเซนทรัลลอคพร้อมสวิทช์ควบคุมตำแหน่งคนขับ - ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยด้านคนขับ และผู้โดยสารด้านหน้า - เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง แบบดึงกลับอัตโนมัติ พร้อมเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารแถวที่ 2 แบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง - ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย - สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกะทันหัน (ESS) - ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) - ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (VSA) - ระบบป้องกันล้อลอค และระบบกระจายแรงเบรค (ABS & EBD) - โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON และ ACETM ช่วยปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง - จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX & Child Anchor) - ไฟเบรคดวงที่ 3 แบบ LED สั่งการได้ด้วยปลายนิ้วสัมผัส - ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) - ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบอัจฉริยะ (One Push Ignition System) - ระบบควบคุมประตูแบบอัจฉริยะ (Honda Smart Key System) - มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 2 นิ้ว - ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด (Eco Indicator) - ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto - ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) - พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน พร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียง และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ - ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) (รุ่น RS) - ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง - ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง - ลำโพง 4 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 6 ตำแหน่ง (รุ่น RS) - Honda CONNECT เทคโนโลยีที่เชื่อมคุณ และรถยนต์เข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการทำงานของแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน (รุ่น RS) Honda WR-V ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น RS และ รุ่น SV โดยมีสีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์ (มุก) สีแดงอิกไนท์ (เมทัลลิค)/หลังคาสีดำ (ทูโทน) (เฉพาะรุ่น RS) สีดำคริสตัล (มุก) สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิค) และสีขาวทาฟเฟตา ชุดอุปกรณ์ตกแต่ง เสริมความสปอร์ท และพรีเมียมในสไตล์รถเอสยูวีอีกขั้น ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ที่มาพร้อมแนวคิด “Sporty & Premium” โดยมีไอเทมอุปกรณ์ตกแต่งให้เลือก อาทิ คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วตกแต่งฝากระโปรงท้าย ราคา 1,900 บาท คิ้วกันสาด ราคา 2,500 บาท ฟีล์มตกแต่งเสาประตูหลัง ราคา 1,300 บาท ฟีล์มสะท้อนแสงข้างประตู ราคา 1,250 บาท ปลอกท่อไอเสียสเตนเลสส์ ราคา 600 บาท เป็นต้น หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพคเกจชุดแต่งรอบคัน ได้แก่ Modulo Sport Package ราคา 14,990 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ทหน้า สเกิร์ทข้าง และสเกิร์ทหลัง มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ ฟรีประกันภัย 1 ปี** ดอกเบี้ย 2.29 %** และฟรี Modulo Sport Collection มูลค่า 2,285 บาท ** เมื่อจอง และรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2566 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566**ABOUT THE AUTHOR
วิธวินท์ ไตรพิศ
ดูคุณพ่อจนขับรถได้ตั้งแต่ 8 ขวบ หลงใหลยานยนต์ จนได้วุฒิ Automotive Engineering ติดตัว ปัจจุบันเป็น บก.นักเขียน นักทดสอบรถ และ Instructor ที่พร้อมถ่ายทอดความรู้ แบบไม่มีกั๊ก !
คอลัมน์ Online : รถล่าสุด (บก. ออนไลน์)
คำค้นหา